เมื่อเห็นภรรยาของตนร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้ หลัวเฟิงเหมือนถูกมีดแทงกลางใจ เขาอยากปลอบโยนแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร
เหยียนไคเหวินในเวลานี้ถึงได้แสดงเขี้ยวอันแหลมคมของเขาออกมา
เขากระแอมเบาๆ แล้วพูดอย่างจงใจว่า “ความจริงแล้ว ผมมีวิธีที่จะช่วยพวกคุณจ่ายหนี้ก้อนนี้ได้นะ”
หยางจุนหรูเงยหน้าขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาออกจากหางตา
“วิธีอะไรเหรอ?”
เหยียนไคเหวินหัวเราะอย่างมีเลศนัย “ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ หยางจุนหรู คุณจูหยุนเฉียงประธานกรรมการบริษัทอสังหาริมทรัพย์หรงกวางของเราชื่นชมคุณมาตลอด ถ้าคุณยอมอยู่กับประธานจู ตามนิสัยของเขาแล้ว ผมเชื่อว่าเขาจะยกหนี้ 6 ล้านนี้ให้คุณได้นะ”
ไร้เหตุผล!
ไร้ยางอาย!
หลัวเฟิงโกรธจนทุบขอบเตียงแล้วตะโกนว่า “เหยียนไคเหวิน คุณมันไอ้สารเลว ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
เหยียนไคเหวินส่ายหัว “หลัวเฟิง นิสัยใจร้อนของคุณต้องปรับบ้างแล้วนะ นี่ผมอุตส่าห์ให้ข้อเสนอดีๆ เพื่อช่วยเหลือพวกคุณอยู่นะ คุณจะไม่สำนึกบุญคุณคนที่ช่วยเหลือบ้างเลยเหรอ?”
จากนั้นเขาหันไปที่หยางจุนหรู “ว่ายังไง? ลองคิดดูนะ ไปอยู่กับประธานจูของเราสองสามวัน คุณจะเป็นอะไรไปล่ะ ที่สำคัญเงิน 6 ล้านนี้ก็จะยกหนี้ให้คุณเลยนะ ในโลกนี้ยังมีอะไรที่ดีกว่านี้อีกเหรอ?”
หยางจุนหรูกัดริมฝีปากไว้แน่นๆ เธอทั้งวิตกกังวล ทั้งโกรธ ทั้งละอายใจและทำอะไรไม่ถูกจริงๆ
จะปฏิเสธหรือ?
ถ้าปฏิเสธเธอไม่มีปัญญาจ่ายหนี้ 6 ล้านนี้อย่างแน่นอน
แต่ถ้าไม่ปฏิเสธ ก็เท่ากับว่าเธอต้องใช้ร่างกายไปแลกกับ……
ณ จุดนี้ หยางจุนหรูก็ยิ่งร้องไห้อย่างเศร้าสร้อยมากขึ้น ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ คนเป็นผู้หญิงก็ยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง และในสายตาของจูหยุนเฉียง เธอเป็นได้แค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น
“สารเลว!”
ติงเมิ่งเหยนทนไม่ไหวอีกแล้ว เดิมทีเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย เธอแค่เฝ้ามองอยู่ข้างๆ แต่ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกโกรธ
เธอก้าวไปข้างหน้าแล้วดึงหยางจุนหรูให้ลุกขึ้นและบังเธอไว้ด้านหลัง
“คุณอย่ารังแกคนอื่นให้มากไปนะ!”
“ก็แค่เงิน 6 ล้านไม่ใช่เหรอ? พวกเราจะหาวิธีคืนให้เอง”
สีหน้าของเหยียนไคเหวินเปลี่ยนไปทันที
ความจริงเขาไม่อยากได้เงิน 6 ล้านนี้เลย เพียงแต่จุดประสงค์ของเขาในครั้งนี้คือทำตามคำสั่งของจูหยุนเฉียง เพื่อให้หยางจุนหรูสมยอม
ฉะนั้น……
เหยียนไคเหวินจ้องเขม็งไปที่ติงเมิ่งเหยน
“แหม น้ำเสียงไม่เบาเลยนะ 6 ล้านนี้คุณจะหาวิธีมาจ่ายงั้นเหรอ? คุณจะหาวิธีอะไรไม่ทราบ?”
“ต่อให้คุณออกไปขายตัวทุกวัน คุณก็หาเงินมาเยอะขนาดนี้ไม่ได้หรอก!”
ทันใดนั้น เหยียนไคเหวินก็จ้องไปที่ติงเมิ่งเหยนด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “หึหึ ก็ไม่แน่นะ คนสวยอย่างคุณอาจจะเรียกค่าตัวสูงได้ ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีงานทำหรอก บางทีขายไปสักพักอาจจะหาเงิน 6 ล้านนี้ได้นะ”
เป็นคำพูดที่หมิ่นประมาทติงเมิ่งเหยนอย่างที่สุด
เหยียนไคเหวินมักใช้ภูมิหลังจากจูหยุนเฉียงแล้วกลั่นแกล้งผู้อื่นไปทั่ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือ ‘ปลาหมอตายเพราะปาก’
เขารังแกคนอื่นอาจจะไม่เป็นไร แต่ถ้ารังแกติงเมิ่งเหยนแล้วล่ะก็ เหอะๆ
ในขณะที่เหยียนไคเหวินกำลังจะพูดจาเสียดสีและเกี้ยวพาราสีต่อ ทันใดนั้น มืออันทรงพลังข้างหนึ่งก็กดลงไปใบหน้าของเขา และก่อนที่เขาจะตั้งตัวได้ ใบหน้าทั้งใบของเขาก็กระแทกติดกับผนังไปแล้ว!
เลือดไหลไปทั่ว
ดั้งจมูกหัก!
“โอ๊ย……เจ็บ……” เหยียนไคเหวินตะโกนเหมือนหมูที่กำลังถูกเชือด
“จัดการมัน ฆ่ามันซะ!”
เขาคิดว่าจะอาศัยคนจำนวนมากมาจัดการกับเจียงชื่อได้ ดังนั้นชายฉกรรจ์ห้าหกคนนั้นก็เดินเข้ามา แต่ไม่ถึงสามวินาที ชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็ล้มลงกับพื้น!
ร่างกายแต่ละคนกระตุกและยังคายฟองขาวออกมา
ไม่มีใครสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของเจียงชื่อได้ แต่ชายที่แข็งแกร่งทั้งห้าหกคนนั้นก็ถูกจัดการไปหมดแล้ว
เหยียนไคเหวินตกใจจนแทบเป็นบ้า
เขาอยากขอความเมตตาแต่มันสายเกินไป จากนั้นเจียงชื่อลากเขาเข้าไปในห้องน้ำทันที