เมิ่งเหวินกัดฟันโดยไม่พูดอะไรเลย บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
หยางเหวยเค่อฉลาดแกมโกงมาก เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในทันทีที่เห็นท่าทางของเมิ่งเหวิน ดังนั้นทัศนคติที่มีต่อเมิ่งเหวินจึงเย็นชาในทันที และหันมาสุภาพต่อหลัวเฟิงและคนอื่นๆ แทน
หยางเหวยเค่อเป็นนักธุรกิจจริงแท้ เขามักจะเป็นมิตรกับคนที่ให้เงินมากกว่าและโมโหโดยไม่ไว้หน้าคนที่เงินน้อยกว่าเสมอ
เขาหันมาพูดกับหลัวเฟิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “น้องเรารีบเซ็นสัญญากันเถอะ นับจากนี้ไปคลับฟุตบอลหยวนเทียนจะเป็นของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งแล้ว ขอแสดงความยินดีที่คุณได้รับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชของทีม ยินดีด้วย ยินดีด้วยนะ! ”
บรรยากาศณตอนนี้รื่นรมย์มาก
ไม่นานพนักงานก็ยื่นสัญญามาให้พวกเขา
หยางเหวยเค่อพูดต่อว่า “น้องหลัวเฟิง พวกคุณเซ็นสัญญาเหล่านี้ก่อน แล้วฝ่ายบริหารกีฬาจะส่งคนไปตรวจสอบคุณสมบัติในการรับซื้อกิจการของพวกคุณ อันที่จริง มันก็แค่ขบวนการเท่านั้น หลังจากผ่านการยอมรับแล้ว หยวนเทียนก็เป็นของพวกคุณแล้ว”
หลัวเฟิงมีความสุขมาก เขาหยิบปากกาขึ้นมาและเริ่มเซ็นสัญญา
ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เมิ่งเหวินที่นั่งตรงข้ามเขาหัวเราะคิกคักอย่างกะทันหัน
เขานั่งไขว้ขาอีกครั้งและจุดบุหรี่หนึ่งมวน จากนั้นก็กล่าวในขณะที่สูบบุหรี่ไปด้วย ” เซ็นสิ เซ็นเลย เซ็นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกคุณไม่มีทางเข้าซื้อคลับหยวนเทียนได้หรอก”
หลัวเฟิงหยุดปากกาในมือแล้วมองไปที่เมิ่งเหวิน ” นี่คุณกินองุ่นไม่ถึงแล้วเที่ยวพูดองุ่นนั้นเปรี้ยวหรือ? หลังจากลงนามในสัญญาและผ่านการทดสอบในภายหลัง คลับหยวนเทียนก็จะเป็นของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลย บอกตามตรง ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว คุณจะอยู่รออะไรอีก?”
เมิ่งเหวินพ่นควันบุหรี่ออกมา “ผมอยู่รออะไร ก็อยู่รออะไรการเซ็นสัญญาในอีกสักครู่ไง”
” นี่คุณ? ” หลัวเฟิงเยาะเย้ย “เจ้านายหยาง ได้ตัดสินใจที่จะขายคลับให้กับบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งแล้ว คุณยังจะเข้าซื้อมันอีกหรือ? มันจะเป็นไปได้หรือ?”
“อาจเป็นไปได้นะ เพราะพวกคุณไม่มีคุณสมบัติในการเข้าซื้อ”
“คุณบอกไม่มีก็ไม่มีจริงๆ หรือไง? ”
“ผมไม่ได้เป็นคนพูดสักหน่อย แต่เจ้าหน้าที่การบริหารงานกีฬาทั่วไปเป็นคนพูดต่างหาก”
หลัวเฟิงอยู่ในวงการนี้มานานหลายปีแล้ว จึงรู้ว่ามีความชั่วร้ายแอบแฝงอยู่ในนี้มากมาย เมื่อได้ยินคำพูดของเมิ่งเหวินเขารู้สึกผิดปกติในทันที
เขาจ้องไปที่หลัวเฟิงและพูดอย่างเย็นชา ” คนที่มาทำการยอมรับมีพิรุธหรือ?”
เมิ่งเหวินพ่นบุหรี่ออกมา ” นี่ คุณกล้ากล่าวหาเจ้าหน้าที่การบริหารงานกีฬาทั่วไปงั้นหรือ? มันคือการใส่ร้ายคนอื่นชัดๆ! ”
ยิ่งพูดแบบนี้ก็ยิ่งมีพิรุธ
มือที่ถือปากกาเซ็นสัญญาของหลัวเฟิงเริ่มสั่นระริก เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ซับซ้อนและลึกแค่ไหน หากมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ ตอนนี้เซ็นสัญญาไปมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เมิ่งเหวินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า ” เงินทองก็ต้องใช้กับสิ่งที่จำเป็นและฉุกเฉินที่สุดสิ คุณจะเอาเงินทั้งหมดมาซื้อคลับหยวนเทียนได้อย่างไรกัน? หากมีจุดใดที่คุณจัดการได้ไม่ทั่วถึง มันก็จะกลายเป็นอุปสรรคของคุณ”
ความหมายของประโยคนี้ชัดเจนมาก หากใครยังไม่เข้าใจความหมายของมันก็เป็นคนโง่ล่ะ
เวลานี้แม้แต่หยางเหวยเค่อก็ไม่อาจนั่งนิ่งได้อีกต่อไป
เขาชี้หน้าเมิ่งเหวินและตะคอกว่า ” มึงคิดจะเล่นกลเหี้ยอะไรของมึงอีก?”
เมิ่งเหวินกล่าวว่า ” เฮ้ เจ้านายหยางคุณจะโกรธไปทำไม? คุณต้องคิดให้รอบคอบนะ หากบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งไม่มีคุณสมบัติในการเข้าซื้อ คนที่มีเงินมากพอที่จะซื้อกับคุณก็จะเหลือเพียงหรงฉายประกันภัยของเราเท่านั้น ถ้าคุณล่วงเกินและผิดใจผม ทำให้คลับของคุณต้องมาพังในมือของตัวเองมันจะไม่ดีนะ”
ขณะที่พูด เขาก็หัวเราะคิกคักอีกครั้ง
ใบหน้าของหยางเหวยเค่อบูดบึ้งอย่างมาก ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เขาอาจจะต้องขายคลับหยวนเทียนให้หรงฉายประกันภัย ในราคา1 พันล้านหยวน แม้ว่าราคาจะไม่ต่ำ แต่ราคาที่บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งให้มาสูงกว่าตั้งเยอะ!
สิ่งนี้ทำให้เขาอารมณ์เสียมาก
บรรยากาศภายในห้องสงบลงอีกครั้ง ทุกคนเริ่มคิดเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เวลานี้ เจียงชื่อก็พูดกับหลัวเฟิงว่า ” คุณจะหยุดทำไม? รีบเซ็นสัญญาเร็วเข้า อีกไม่นานเจ้าหน้าที่จากการบริหารงานกีฬาทั่วไปจะมาตรวจสอบแล้ว จะปล่อยให้เขารอเราไม่ได้จริงไหม?”
หลัวเฟิงเผยสีหน้างุ่มง่าม ก็เห็นชัดว่ามันไม่สามารถผ่านการยอมรับได้อย่างแน่นอน แล้วจะเซ็นไปเพื่ออะไรล่ะ?
ส่วนเมิ่งเหวินก็มองเจียงชื่อราวกับไอ้ไง่คนหนึ่ง “เฮ้ เฮ้ คุณเป็นหมูหรือไง? จนถึงป่านนี้แล้ว ยังแยกแยะสถานะของเรื่องนี้ไม่ได้อีกเหรอ? พวกคุณไม่มีคุณสมบัติสำหรับการเข้าซื้อกิจการ เซ็นชื่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แล้วจะลำบากไปทำไม ? ”
เจียงชื่อตอบกลับอย่างราบเรียบว่า “จะมีคุณสมบัติสำหรับการซื้อกิจการหรือไม่ มีแต่บุคคลจากการบริหารงานกีฬาทั่วไปเท่านั้นที่มีสิทธิ์ตัดสิน ไม่ใช่คุณ”
เขาหันศีรษะกลับไปทางหลัวเฟิงอีกครั้ง “เซ็นชื่อเดี๋ยวนี้”
หลัวเฟิงถอนหายใจ ในเมื่อเรื่องมันมาถึงจุดนี้แล้ว หากเขาไม่เซ็นก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว ความหวังเดียวคือคนที่ส่งมาจากการบริหารงานกีฬาทั่วไปจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์พอ
แต่… มันจะเป็นไปได้ไหม?
ในขณะที่เซ็นสัญญาเขาส่ายหัวและถอนหายใจไปด้วย เป็ดในปากของเขาบินหนีไปแล้ว ความรู้สึกนี้ช่างแย่เหลือเกิน
หลังจากที่เขาเซ็นสัญญาได้ไม่นาน ผู้ตรวจรับที่ส่งมาจากการบริหารงานกีฬาทั่วไปก็เดินเข้ามาพอดี
เมิ่งเหวินรีบบีบก้นบุหรี่ทันทีที่เห็นพวกเขา ” เฮ้ ท่านมาแล้วเหรอครับ เชิญนั่งครับ”
ผู้ตรวจรับโบกมือ ” ไม่ต้องเกรงใจ”
เขานั่งข้างเมิ่งเหวินโดยตรง และดูจากการพูดคุยอย่างสนิทสนมของเขาและเมิ่งเหวินแล้ว คนโง่ก็ดูออกว่าน้ำในนี้ลึกแค่ไหน
ผู้ตรวจรับยังถามอีกว่า ” คุณเมิ่งครัล เอาเอกสารของคุณออกมาแล้วผมจะตรวจรับให้คุณ”
เมิ่งเหวินกลับส่ายหัวให้เขา “ต้องขออภัยด้วย เจ้านายหยางไม่ได้ขายคลับให้ผม แต่เลือกที่จะขายให้กับบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งที่อยู่ตรงข้ามเรา ดังนั้นโปรดตรวจรับข้อมูลของพวกเขาเถอะครับ”
“เอ๊ะ? ”
ผู้ตรวจรับมองไปที่หลัวเฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดูจากสายตาดังกล่าวหลัวเฟิงก็รู้ทันทีว่าพวกเขาจบแน่