หมู่บ้านอพาร์ทเม้นหมิงเยี่ยนเลขที่ 33 บ้านเดี่ยวหลังเก่า
เจียงชื่อนั่งอยู่บนโซฟา ในมือถือหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม ชื่อว่าหนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว พลิกอ่านอย่างตามใจตนเอง
ติงเมิ่งเหยนเดินเข้าไปนั่งลงข้างเขา
“คิดถึงลุงเฉิงอีกแล้วเหรอ?”
“อืม”
“ดูแลตัวเองด้วย ฉันคิดว่าลุงเฉิงคงไม่อยากเห็นคุณเศร้าแน่นอน”
ใช่แล้ว ในตอนที่เฉิงไห่ยังมีชีวิตอยู่ เขารักเจียงชื่อกับเจียงโม่สองพี่น้องคู่นี้มากที่สุด ยิ่งกว่าหลานสาวแท้ๆของตัวเองอย่างเฉิงดันถิงเสียอีก
เจียงชื่อปฏิบัติกับเฉิงไห่เหมือนเป็นปู่ของตัวเองมาโดยตลอด
เพราะเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะยอมรับความจริงเรื่องที่ว่าเฉิงไห่ถูกซ้อมจนตาย
ไม่มีทางที่เขาจะให้อภัยจูหยุนเฉียงและเหยียนไคเหวินพวกมันทั้งสองคนแน่นอน!
ไม่มีอะไรต้องพูดอีกต่อไป
วันรุ่งขึ้น เจียงชื่อออกจากบ้านด้วยเสื้อสูทสีดำ กางเกงสแล็ค รองเท้าหนังสีดำ เสื้อเชิ้ตสีดำ อารมณ์ของเขาเป็นสีดำและเต็มไปด้วยความหนักใจ
เมื่อเขามาถึงห้องโถงเซ่นไหว้ตระกูลเฉิง ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเศร้าโศก
ถึงแม้ว่าเวลาจะช่วยให้บาดแผลเลือนรางไป แต่บาดแผลก็อยู่ที่เดิมเสมอ
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เจียงชื่อเดินอย่างเชื่องช้าไปที่หน้าห้องโถงเซ่นไหว้ของเฉิงไห่ มองโลงศพสีดำด้วยความเจ็บปวดดั่งมีดกรีดลงกลางใจ
คุกเข่าลงตรงหน้าโลงศพของเฉิงไห่ แล้วเคาะหัวลงกับพื้นหนักๆสองสามครั้ง
“ลุงเฉิง ไปสบายแล้วสินะ”
ว่ากันว่าหลังจากที่ตายไปแล้วเจ็ดวัน วิญญาณจะกลับมาเยี่ยมคนในครอบครัว หลังจากสะสางเรื่องค้างคาใจทั้งหมดแล้ว ถึงจะจากโลกมนุษย์ไปได้อย่างสงบ จากนั้นก็ไปรายงานตัวต่อยมโลก
ถ้าหากยังมีเรื่องค้างคาใจจนทำให้วิญญาณยังคงอยู่ที่บ้าน ก็จะทำให้กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน
เฉิงไห่ถูกทรมานจนเสียชีวิต
ดังนั้น เจียงชื่อจึงต้องการแก้แค้นแทนเฉิงไห่ เพื่อให้เฉิงไห่จากโลกไปอย่างสงบสุขไม่มีเรื่องค้างคาใจ
เขาค่อยๆลุกขึ้น
“ยกขึ้นมา!”
หลังจากเอ่ยคำสั่ง ผู้ชายสองคนก็ถูกพามาที่ห้องโถงเซ่นไหว้ ผู้ร้ายสองคนที่ฆาตกรรมเฉิงไห่นั่นก็คือจูหยุนเฉียงและเหยียนไคเหวิน
เมื่อเห็นเจียงชื่อกับโลงศพสีดำ พวกเขาทั้งสองคนก็ช็อกจนตัวเย็น
เหยียนไคเหวินคุกเข่าลงกับพื้นโดยที่ไม่ต้องมีใครบังคับ พูดพร้อมกับร้องไห้ “เจียงชื่อ ผมสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่น่าทำเกินไปกับเฉิงไห่เลย ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ!”
“ให้โอกาสผมแก้ไขเรื่องนี้ใหม่อีกครั้งได้ไหม?”
“ผมสัญญาว่าจะกลับตัวกลับใจ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ และจะไม่ทำร้ายในอีกในอนาคต!”
“ผมจะตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนแก่ ช่วยเหลือพวกคนแก่ที่โดดเดี่ยวโดยเฉพาะ ปรับปรุงชีวิตการเป็นอยู่ของพวกเขา ดีไหม?”
ถ้าหากว่าคนที่ตายเป็นคนธรรมดา บางทีคำพูดแบบนี้อาจจะมีโอกาสสร้างความประทับใจให้กับเจียงชื่อ
แต่คนที่ตายคือเฉิงไห่ ผู้ที่เป็นเหมือนปู่ของเจียงชื่อมาทั้งชีวิต พูดเพียงไม่กี่ประโยคคิดว่ารอดจากการลงโทษอย่างนั้นเหรอ?
ฝันไปเถอะ!
เจียงชื่อเหมือนเสาที่ตั้งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน
เหยียนไคเหวินกังวลมากจริงๆ “เจียงชื่อ คุณพูดอะไรหน่อยสิ ได้หรือไม่ได้?”
ขณะเดียวกัน ฝั่งจูหยุนเฉียงกลับหัวเราะออกมา “ไคเหวิน แกนี่มันขี้ขลาดจนใช้ไม่ได้ มาถึงตอนนี้แล้ว คนเขาจะฟังคำพูดเหลวไหลสองสามประโยคของแกหรือไง? คิดมากไปแล้ว”
เหยียนไคเหวินจ้องจูหยุนเฉียงตาเขม็ง “แกอยากตายก็ตายไปเองสิ ฉันไม่ไปกับแกด้วยหรอก!”
“แกคิดว่าแกไม่อยากตายแล้วแกจะไม่ตายงั้นเหรอ?”
ทั้งสองคนยังคงทะเลาะกันไม่หยุด
เจียงชื่อขมวดคิ้วแน่น อยู่ในห้องโถงเซ่นไหว้ของเฉิงไห่แต่ทำไมถึงได้กล้าเอะอะโวยวายเสียงดังแบบนี้?
“ตบปาก!”
ทันใดนั้น ผู้ชายสองคนก็ถือแผ่นไม้เดินเข้ามา จากนั้นก็ฟาดไปที่ปากของจูหยุนเฉียงและเหยียนไคเหวิน จนเลือดสดๆไหลออกมา
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็เงียบสนิท