เจียงชื่อเอ่ยอย่างเฉยเมย “ให้พวกเขาโขกศีรษะ คนละหนึ่งพันครั้ง สํานึกความผิดของพวกเขา”
ลูกน้องชายสองคนก็กดคอของจูหยุนเฉียงและเหยียนไคเหวินไว้ บังคับให้พวกเขาโขกศีรษะ
หนึ่งครั้ง สองครั้ง….
ทั้งสองคน ต่างโขกศีรษะไปคนละหนึ่งพันครั้ง โขกจนหัวแตกแล้ว เลือดแดงฉานเต็มพื้น ทั้งสองคนต่างหน้ามือเวียนหัว เกือบจะสลบไป
เหยียนไคเหวินตาลาย สุดท้ายยังคงร้องขอความเมตตา “ปากก็ตบแล้ว หัวก็โขกแล้ว บทลงโทษที่คุณต้องการต่างก็ใช้หมดแล้ว ปล่อยฉันไปได้แล้วสินะ?”
จูหยุนเฉียงที่อยู่ด้านข้างก็ทนไม่ไหวแล้ว
เมื่อครู่เขายังแข็งกร้าวอย่างมาก พูดอะไรล้วนไม่ยอมร้องขอความเมตตา แต่หลังจากได้รับการสั่งสอนไปรอบหนึ่ง ก็พลันทำตัวดีขึ้นมาทันที
เมื่อต้องเผชิญกับความตาย น้อยคนที่จะสามารถรักษาท่าทีแข็งกร้าวได้ต่อไป
“ฉัน ฉันก็สำนึกผิดแล้ว”
“ทั้งหมดล้วนเป็นเหยียนไคเหวิน ที่ออกความคิด บีบบังคับลุงเฉิงจนตายก็เป็นเขาที่ลงมือ ที่จริงแล้วฉันเป็นผู้บริสุทธิ์”
“เจียงชื่อ นายจะฆ่าก็ฆ่าเหยียนไคเหวิน ปล่อยฉันไปได้ไหม?”
“ฉันยินดีเอาทรัพย์สินทั้งหมดของฉันออกมา เพียงแค่นายให้ฉันมีชีวิตต่อไป ได้ไหม?”
เหยียนไคเหวินจ้องจูหยุนเฉียงเขม็ง ต้องการโต้เถียงก็ไม่มีแรงแล้ว
อย่างไรก็ตาม คำพูดของพวกเขาทั้งสอง ในความเห็นของเจียงชื่อไม่มีผลกระทบเลยสักนิด
เขาหันกลับมามองทั้งสองคน
“ตอนนี้รู้จักเสียใจภายหลังแล้วหรือ?”
“ตอนนั้นพวกนายวางแผนทำร้ายลุงเฉิงของฉันจนตาย ทำไมถึงไม่รู้จักสำนึกเสียใจบ้างเล่า?”
“ตอนนั้นอาการป่วยของลุงเฉิงกำเริบ ยาเฉพาะก็อยู่ข้างมือเขา ความเจ็บปวดตอนนั้นของเขาพวกนายรู้บ้างไหม?”
“ตอนนั้น เพียงแค่พวกนายใจอ่อนสักเล็กน้อย เขาก็จะมีชีวิตอยู่ต่อได้”
“ตอนสวะที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอย่างพวกนาย ไม่เพียงไม่ช่วยคน แต่ยังสนุกกับการฆ่าคนด้วย พวกนายยังนับว่าเป็นคนไหม? ให้พวกนายมีชีวิตอยู่ต่อไป เป็นความไม่ยุติธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนอื่น!”
“ใครก็ได้ ประหารชีวิต!”
คำสั่งเสียงหนึ่งเอ่ยออกมา เห็นเพียงแค่ชายร่างกำยำ สวมชุดสูทสองคนเดินเข้ามา
พวกเขาทางซ้ายคนหนึ่่งทางขวาคนหนึ่ง แยกกันยืนอยู่ด้านข้างของจูหยุนเฉียงและเหยียนไคเหวิน
หลังจากนั้น ก็หยิบปืนพกออกมาอย่างชำนาญ ต่างจ่อไปที่บนขมับของจูหยุนเฉียงและเหยียนไคเหวิน ตอนที่กระบอกปืนเย็นเยียบจ่ออยู่ที่ศีรษะ ถึงได้รู้ว่าที่แท้แล้วความตายอยู่ใกล้กับตนเองขนาดนี้
“ไม่เอา ฉันยังไม่อยากตาย ปล่อยฉันไปเถอะ”
“ฉันให้เงินนาย ฉันให้เงินทั้งหมดกับนาย ไว้ชีวิตฉันเถอะ”
ทั้งสองคนยังคงทำการดิ้นรนครั้งสุดท้าย
เจียงชื่อกลับใจแข็งดั่งก้อนหิน โบกมือลงทันที “ประหารชีวิต!”
ปัง!
ปัง!!
เสียงปืนดังต่อเนื่องกันสองครั้ง เลือดสดๆกระเซ็นออกมา ศพทั้งสองล้มลงไปในห้องโถงเซ่นไหว้ตามลำดับ
แมลงร้ายทั้งสองที่บีบคั้นลุงเฉิงจนตาย นับว่าถูกจัดการอย่างหมดจด
เจียงชื่อมองไปทางโลงศพ ถอนหายใจยาวครั้งหนึ่ง
“ยกโลงศพ!”
ขั้นต่อมา นำโลงศพไปยังสถานที่ที่กำหนดสำหรับฝังศพ คนตระกูลเฉิงต่างรออยู่ที่นั่นพร้อมแล้ว
เจียงชื่อไม่ให้เฉิงดันถิงรออยู่ที่นี่ ก็เพื่อไม่ให้เธอเห็นฉากยิงเป้านองเลือดของจูหยุนเฉียงและเหยียนไคเหวิน
สำหรับประสบการณ์มากมายของเจียงชื่อแล้ว ยิงเป้าคนสองคนไม่นับเป็นอะไร
แต่สำหรับเฉิงดันถิงที่ใสซื่อนั้น ถ้าเห็นฉากนี้เข้า คาดว่าจะทิ้งเงาในจิตใจไว้
หลังจากนั้น เจียงชื่อขึ้นรถ มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่กำหนดไว้
โลงศพของเฉิงไห่ก็มีคนเฉพาะทางใช้รถบรรทุกศพลากไป ด้านหน้าและหลังมีรถยนต์ทั้งหมด100คัน ด้านหน้า50คัน ด้านหลัง50คัน กันรถบรรทุกโลงศพไว้ตรงกลาง
ถนนที่นำไปสู่สุสานก็โล่งไปนานแล้ว ไม่มีรถคันอื่นใดวิ่งอยู่
ความเร็วรถไม่เร็ว
ตลอดทาง คลอเสียงบรรเลงเพลงไว้อาลัย กระดาษเงินโปรยปรายเต็มฟ้า
คนทั้งสองข้างของถนนต่างกำลังชี้มือไปมา ไม่รู้ว่าที่ตายคือคนสำคัญคนไหน ถึงขั้นสามารถทำให้เขตเจียงหนานเคลียร์ถนนเพื่อส่งศพ
ตอนนี้คิดๆดู ตอนที่เฉิงไห่มีชีวิตอยู่ เจียงชื่อดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรให้เขามากนัก
“ลุงเฉิง ไปสู่สุคตินะ”
เจียงชื่อมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง อารมณ์หม่นหมอง
เมื่อรถแล่นผ่านไปได้ครึ่งทาง ทันใดนั้น ก็มีคนที่ใส่ชุดกระสอบห้าหกคนพุ่งเข้าไปบนถนน ขวางเส้นทางที่รถแล่น
แรกเริ่ม ทุกคนยังคิดว่าพวกเขาก็มาส่งศพเฉิงไห่ สุดท้ายเรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด
คนเหล่านี้นอนราบกับพื้นและร้องไห้เสียงดัง ขบวนรถทั้งหมดถูกขวางอยู่บนถนน
รถหยุดลง
เจียงชื่อสีหน้าไม่ยินดี วันนี้เป็นวันฝังศพของเฉิงไห่ เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เอ่ยที่ด้านข้างรถของเจียงชื่อว่า “หัวหน้า คนด้านหน้าเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นญาติของจูหยุนเฉียง พูดว่าพวกเราฆ่าจูหยุนเฉียงตายไปแล้ว ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมแทนจูหยุนเฉียง เป็นตายอย่างไรก็ไม่ให้พวกเราเดินหน้าต่อ ทำอย่างไรดี? ต้องการใช้กำลังพาพวกเขาออกไปไหม?”
ที่เกิดเหตุมีคนโดยรอบเฝ้ามองเยอะมาก ถ้าบีบบังคับพาออกไป เกรงว่าอาจจะนำมาซึ่งผลกระทบที่ไม่ดี
เจียงชื่อหรี่ตาลง “ญาติของจูหยุนเฉียง?”
เขาอดไม่ไหวหัวเราเสียงเย็น
ถ้าทำเพื่อจูหยุนเฉียงจริงๆ เช่นนั้นก็ควรพุ่งไปที่ห้องโถงเซ่นไหว้ก่อเรื่องนานแล้ว ไม่ใช่มาก่อเรื่องวุ่นวายบนถนน
ดูการแต่งกายของพวกเขา ก็เป็นการวางแผนมาล่วงหน้าดีแล้ว ไม่ใช่การเตรียมแบบกะทันหัน
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คนที่ร้องไห้โวยวายเหล่านี้ รู้ตั้งแต่แรกว่าจูหยุนเฉียงต้องถูกประหารชีวิต วางแผนการแสดงเช่นนี้ไว้แล้ว จงใจรอมาหยุดรถอยู่ที่นี่
เป้าหมายคือทำเพื่อ…เงิน?