จอมนักรบท้าโลก – ตอนที่ 771 พระคุณในการช่วยชีวิต

บาดแผลนั้นค่อนข้างทำให้คนกลัว หากเอียงเอนไปอีกนิดเดียวก็สามารถทำให้ตายได้เลย!
ดูเหมือนว่าเกาจื้อติ้งจะแน่ใจในติงฉี่ซานเป็นอย่างมาก มันจะต้องเกี่ยวข้องกับบาดแผลนี้แน่ๆ !
จริงอย่างที่คิดไว้ เกาจื้อติ้งขึ้นเสียงสูงและพูดว่า “ในตอนนั้นฉันกับติงฉี่ซานเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกัน เขาได้ไปผิดใจกับอันธพาลกลุ่มหนึ่ง หลังจากเลิกเรียน คนพวกนั้นก็ได้มาดักรอที่หน้าประตูโรงเรียนและติงฉี่ซานเองก็ไม่กล้าเดินออกไป”
“เป็นฉันเองนี่แหละที่ไปให้ท้ายเขาและไปจัดการกับกลุ่มอันธพาลพวกนั้น”
“เป็นฉัน ที่คุมท้ายให้เขาไปก่อน ด้วยเหตุนี้ฉันเลยถูกหนึ่งในอันธพาลพวกนั้นแทงเข้าให้”
“ดูสิ นี่คือบาดแผลที่หลงเหลือมาจากช่วงเวลานั้น หากไม่ใช่เพราะฉันดวงดีล่ะก็คงตายม่องเท่งไปนานแล้ว!ถ้าตอนนั้นแทงเอียงไปอีกนิดเดียว ชีวิตน้อยๆ ของฉันก็คงจะไม่มีอีกแล้วล่ะ”
“แต่ยังไงซะ ในปีนั้นฉันเองก็ต้องนอนติดเตียงเป็นเวลากว่าครึ่งปีเลยล่ะ”
ใส่เสื้อผ้า
เกาจื้อติ้งมองไปที่ติงฉี่ซาน “เพื่อนร่วมชั้นเก่า นายคงลืมเรื่องราวทุกอย่างในตอนนั้นไปหมดจดแล้วสินะ ตอนนี้มาเจอลูกเขยผู้สูงศักดิ์แล้วก็เลยจำฉันไม่ได้งั้นสิ?โอเค ได้!”
ใบหน้าของติงฉี่ซานนั้นไร้เดียงสา “ไม่ใช่นะไอ้เกา ฉันไม่ได้ไม่รู้จักนายซะหน่อย!”
“แล้วทำไมต้องมาทุบตีลูกฉัน ไล่ลูกฉันออกไปทำไม?!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำประณามของเกาจื้อติ้ง ติงฉี่ซานถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ผู้คนที่อยู่ตรงทั้งหมดเงียบกริบ
ติงเมิ่งเหยนก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่าที่แท้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับเกาจื้อติ้งนั้นมีความเกี่ยวข้องกันถึงขั้นนี้ด้วย ไม่แปลกใจเลยที่ติงฉี่ซานจะไม่กล้าที่จะเถียงย้อนเกาจื้อติ้งไป อย่างไรเสียเขาก็คือคนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ เป็นพระคุณที่ในชีวิตนี้ก็ไม่สามารถทดแทนได้หมด

เกาจื้อติ้งถอนหายใจออกมาและพูดว่า “ที่ฉันมาในตอนนี้ก็ไม่ได้ต้องการให้ทำอะไรให้หรอก ฉันแค่ต้องการความยุติธรรมก็เท่านั้นเอง”
ติงฉี่ซานถาม “นายต้องการความยุติธรรมอะไรกันล่ะ?”
เกาจื้อติ้งพูด “เพื่อนร่วมชั้นเก่า อย่าพูดว่าฉันไม่ได้ให้โอกาสนายก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันมีทางให้นายสองทาง ทางแรก นายคืนมีดเล่มนั้นที่เป็นหนี้ฉันมา”
มันจะคืนยังไงกัน?
หรือจะให้ติงฉี่ซานถูกมีดแทงงั้นเหรอ?ติงฉี่ซานเองก็อายุมากแล้วจะไปทนไหวได้ยังไงกัน?
ต่อให้เป็นคนหนุ่มสาวเองก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมโดนแทงโดยไร้เหตุผลเช่นนี้
ติงฉี่ซานยิ้มออกมาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “มีดเล่มนั้นจะคืนได้ยังไงกันล่ะ?นายพูดทางที่สองมาเลยว่าคืออะไร”
เกาจื้อติ้งยิ้มเยาะออกมาสามครั้งพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ทางที่สองก็คือให้ลูกเขยผู้สูงศักดิ์ของนายคุกเข่าลงต่อหน้าลูกชายฉัน คุกเข่าคำนับยอมรับความผิดซะ!”
“นี่…..”
ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ต่างโง่งงไปกันหมด
เห็นได้ชัดว่าเกาจื้อติ้งนั้นต้องการเอาศักดิ์ศรีของลูกชายคืนมา
เกาเหวินเสียงถูกเจียงชื่อทุบตีจนได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังถูกไล่ออกจากประตูอีก การกระทำรวดเดียวนี้จะสามารถกล้ำกลืนลงไปได้อย่างไรกัน ดังนั้นเกาจื้อติ้งจึงต้องการเอาศักดิ์ศรีของลูกชายตนเองกลับมา
หากเจียงชื่อยอมคุกเข่าสำนึกผิด เกียรติศักดิ์ศรีของเกาเหวินเสียงก็ถือว่าได้กลับมาแล้ว
บนโต๊ะอาหาร สีหน้าของทุกๆ คนนั้นดูน่าเกลียด

ติงเฟิงเฉิงเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาและพูดว่า “เฮ้ ตาแก่ จะเกินไปหน่อยแล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะช่วยชีวิตอาคนที่สามของฉันไว้ แต่ว่านี่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างอันไร้เหตุผลของคุณ!เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าลูกชายของคุณเองนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่องแต่กลับจะมาให้น้องเขยของฉันขอโทษ บ้ารึเปล่า?”
เกาจื้อติ้งเงยหน้าขึ้น “เพื่อนร่วมชั้นเก่า นี่คือท่าทางของคนในตระกูลติงหรอกเหรอ?”
ติงฉี่ซานพุ่งเข้าไปห้ามติงเฟิงเฉิงไว้ “นั่งลงซะ”
ติงเฟิงเฉิงนั่งลงด้วยความไม่เต็มใจพร้อมกับมองไปที่เกาจื้อติ้งอย่างไม่เจริญหูเจริญตาเป็นอย่างมาก
ใบหน้าของติงฉี่ซานฝืนยิ้มออกมาและถามว่า “ไอ้เกา ความแค้นเคืองพึงละมิพึงผูก ช่างมันไปเถอะ?ให้เจียงชื่อเทเหล้าให้แก่หลานชายก็พอแล้ว คุกเข่าอะไรนั่นมันก็ออกจะเกินไปนะ”
เกาจื้อติ้งตบโต๊ะในทันที
“เกิน?เกินอะไรกัน?”
“พวกนายทุบตีคน ใช้เหล้าชดใช้ให้ก็จบเรื่องงั้นเหรอ?ดื่มเหล้ามันถือเป็นการลงโทษหรือไงกัน?มันถือเป็นการให้รางวัลต่างหากล่ะ!”
“เพื่อนร่วมชั้นเก่า นายนี่มันไม่รู้คุณคนจริงๆ นี่เป็นสิ่งที่ปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณงั้นเหรอ?”
ติงฉี่ซานที่ถูกประณามเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไร

การจะให้เจียงชื่อมาคุกเข่านั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ดูท่าแล้วเกาจื้อติ้งก็คงไม่ยอมแน่ๆ ติงฉี่ซานนั้นอยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในเวลานี้ เกาเหวินเสียงก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมา “คุกเข่าอะไรกัน มันดูจะเข้มงวดไปหน่อยนะครับ ชดใช้โดยเหล้าสักแก้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้”
ดวงตาของติงฉี่ซานเป็นประกาย “ช่างเป็นหลานชายที่มีหลักการอันสูงส่งจริงๆ เลย”
เขาคิดว่าเกาเหวินเสียงนั้นจะหาทางหนีจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดเช่นนี้ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย
เกาเหวินเสียงโบกมือไปมา “ฟังผมพูดให้จบ”
หลังจากนั้นชั่วครู่ เขาเลยพูดต่อ “แต่ว่าที่พ่อของผมพูดมานั้นก็มีเหตุผล การให้เจียงชื่อดื่มเหล้านั้นมันจะถือเป็นการลงโทษได้ยังไงกัน?มันเป็นการดูถูกเขาน่ะสิ! ดังนั้นเหล้าที่ดื่มเพื่อการลงโทษนี้ก็ไม่ควรเป็นเจียงชื่อที่ต้องดื่ม”
ความเจ้าเล่ห์ฉายแววออกมาจากดวงตาคู่นั้นของเขา หลังของทุกคนต่างรู้สึกเย็นวูบวาบไปหมด
ติงเฟิงเฉิงค่อนข้างยึดหลักคุณธรรม เขายกแก้วเหล้าขึ้นและพูดว่า “งั้นฉันจะดื่มแทนเจียงชื่อเอง ช่วยเหลือกันได้ใช่ไหมล่ะ?”
เกาเหวินเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “คุณ?คุณเป็นถึงเจ้านายติง ผมทำให้ขุ่นเคืองขัดใจไม่ได้หรอก”
ในที่สุด เจียงชื่อที่เงียบอยู่นานก็ได้ถามว่า “งั้นความหมายของนายคือจะให้ใครมาชดใช้เหล้าแก้วนี้กันล่ะ?”
เกาเหวินเสียงมองไปที่เจียงชื่อ จากนั้นก็เคลื่อนสายตาอย่างช้าๆ มาที่ติงเมิ่งเหยน มุมปากหงายขึ้นเล็กน้อย “ผมต้องการให้ติงเมิ่งเหยนมาดื่มเป็นเพื่อนสักสองสามแก้วเพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ มันคงไม่มากเกินไปใช่ไหม?”
บูม!!!
ความโกรธพุ่งทะยานขึ้นมาในใจของเจียงชื่อ ใครก็สามารถมองเห็นได้ว่าดวงตาของเขานั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด
เจตนาฆ่าเพิ่มพูนขึ้น
ติงเฉิงเฟิงถึงกับด่าอย่างดุเดือด “นี่แม่มึงกล้าเล่นลูกไม้หน้าด้านๆ กับพวกเราตระกูลติงงั้นเหรอวะ?ไอ้สัตว์ กูจะฆ่ามึง!”
“เฟิงเฉิง หยุด!” ติงฉี่ซานรีบหยุดติงเฟิงเฉิงที่ต้องการเข้าไปต่อสู้

จอมนักรบท้าโลก

จอมนักรบท้าโลก

จอมนักรบท้าโลก
Status: Ongoing

Options

not work with dark mode
Reset