บทที่ 152 กวาดเขตต้องห้าม
ฉินมู่คือยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ ฟ้าดินเงียบสงัด สรรพชีวิตทั้งหมดต่างก็สั่น เทา มีเพียงเขตต้องห้ามไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยากจะสงบลง “จ้าวแห่งสุขาวดีงั้นรึ?แม้ว่าเจ้าจะมีตัวตนเมื่อหลายล้านปีก่อนแต่การที่มาดูหมิ่นข้าเช่นนี้มันก็คงจะมากเกินไป”
“การกระทําเหล่านี้ เจ้ากําลังยั่วยุงั้นรึ?”
“ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มิอาจดูหมิ่นได้ อย่าอวดดี หยิ่งผยอง!” เขตต้องห้ามโบราณ กําลังเดือดพล่านไปทั่วบริเวณ ในพื้นที่ภาคกลาง แสงโบราณได้ปรากฏขึ้นแล้ว สาดส่องไปทั่วบริเวณ
ฟ้าดินสั่นสะเทือน เปี่ยมไปด้วยเสียงคร่ําครวญของเหล่าปีศาจและเสียง คํารามจากเหล่าเทพ ทุกหนทุกแห่งในสายตา มีภาพนิมิตเลือดไหลลงมาจาก ท้องฟ้า ซากศพนับล้าน และฉากที่เปี่ยมไปด้วยเลือดที่น่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏ ขึ้นให้เห็น
นั่นคือยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่กําลังฟื้นคืน และโกรธจัด!
ตลอดทุกยุคทุกสมัย ใครบ้างที่สามารถก้าวไปถึงเขตแดนเดียวกันกับพวกเขา ซึ่งไร้ที่เปรียบในยุคสมัยเดียวกัน ตัวตนที่ดํารงอยู่นับจากโบราณจวบปัจจุบัน?
ในจักรวาลนี้ พวกเขาเป็นยอดยุทธ์สูงสุด ยอดยุทธ์สูงสุด!
ไม่มีอะไรที่สามารถทําให้พวกเขาล่าถอยได้ ไม่มีอะไรที่สามารถทําให้พวก
เขาก้มศีรษะใหได้
แน่นอน ว่าไม่มีอะไรจะมาล้มล้างพวกเขาได้!
ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ ไม่มีใครสามารถดูถูกได้!
ในตอนนี้ ดินแดนทั้งห้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่หลายร้อยล้านลี้อันไร้พรมแดน กําลัง สั่นสะเทือน นั่นคือความโกรธเคืองของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ สิ่งมีชีวิตทั้งหมด ตกอยู่ในความหวาดกลัว อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงเพราะเกรงว่ายอดยุทธ์สูงสุดโบราณเหล่านี้จะโจมตีกลับด้วยความโกรธ และเปลี่ยนโลกนี้ให้กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า
ในขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็คร่ําครวญ ตัวตนของจ้าวแห่ง สุขาวดีที่ประกาศตัวเองนี้ ช่างหยิ่งผยองมากเกินไป
ซ้ํายังยั่วยุสร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับยอดยุทธ์สูงสุดในเขตต้องห้ามทั้งหมด
หากพวกเขาลุกขึ้นและร่วมกันโจมตี ใครในจักรวาลนี้จะสามารถต้านทานพวกเขาได้?
เกรงว่าแม้แต่จักรพรรดินีของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ตั้งเขตต้องห้ามโบราณก็ไม่สามารถต้านทานได้!
อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดสับสนและรู้สึกว่าจ้าวแห่งสุขาวดีอาจไม่ สามารถยุติเรื่องนี้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปอาจจะทําลายความรู้ความเข้าใจและ จินตนาการของพวกเขาได้
และสิ่งนั้นจะถูกจารึกไว้ในความทรงจําของทุกสรรพชีวิตตลอดไป แม้เวลาจะ ผ่านไปหลายล้านปีก็ไม่สามารถจางหายไปได้และมันจะคงอยู่ตลอดไป!
บนเกาะสุขาวดี ฉินมู่ยืนเงียบๆ
เมื่อมองไปที่กระแสพลังสูงสุดในเขตต้องห้าม ไม่มีความกลัวหรือความกังวล ใดๆ บนใบหน้าของเขา สีหน้าของเขาเรียบเฉย และเรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้อยู่ใน สายตาของเขาแต่อย่างใด
ทุกอย่างเป็นเพราะเขตแดนและความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาในตอนนี้
เซียนส่องโลกาคือใครกัน?
เป็นอมตะในเขตแดนเซียนส่องโลกา ไร้คู่เปรียบในเขตแดนเซียนส่องโลกา!
ในตอนนี้ ในจักรวาลนี้ เขาเป็นนิรันดร์อย่างแท้จริง
คงไม่ต้องพูดถึงยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ แม้ว่าผู้ก้าวเดินไปในวิถีที่ถูกต้องในปัจจุบันจะปรากฏตัวขึ้น พวกนั้นก็จะไม่มีวันเป็นคู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน!
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ในดินแดนลับ เขาจําได้ว่าจอมจักรพรรดิสวรรค์ได้ จัดการจอมจักรพรรดิโบราณด้วยฝ่ามือเดียวจนไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้!
“ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ ยังคงมีค่าที่จะดํารงอยู่ต่อไป ดินแดนลับต่อไปที่ข้า จะจัดวางมีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา และการสังหารพวกเขาในตอนนี้ก็ไร้ความหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ข้าจักใช้โอกาสนี้แสดงความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ ของตัวตนของจ้าวแห่งสุขาวดี”
ฉินมู่พึมพํากับตัวเอง
ในขณะที่เขาค่อยๆ วางดินแดนลับต่างๆ ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในจักรวาลนี้ สรรพชีวิตและวิญญาณทั้งหมด และแม้แต่ยอดยุทธ์สูงสุด โบราณเหล่านี้ที่อยู่ในเขตต้องห้ามโบราณ ก็เป็นเพียงเบี้ยบนกระดานหมากรุกที่เขาวางไว้เท่านั้น
เพราะเป็นเพียงเบี้ยบนกระดาน ฉินมู่จึงไม่สังหารพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะเล่นบทบาททั้งหมด และตอนนี้ยังคงมีประโยชน์ที่จะใช้งาน
หลังจากนั้นทั้งหมด ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณเหล่านี้ก็เป็นแหล่งแต้มตกใจหลัก สําหรับฉินมู่ในภายหลังอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่จําเป็นต้องสังหารยอดยุทธ์สูงสุดโบราณเหล่านี้ ทั้งหมด
แต่ตัวตนของฉินมู่ในฐานะจ้าวแห่งสุขาวดีก็ต้องการเลือดของยอดยุทธ์สูงสุดเพื่อก้าวไปสู่สถานะสูงสุด!
“ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ อืม พวกต่ําต้อยที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตต้องห้าม และ ผู้นําของพวกเขาก็เพิ่งรอดชีวิตมาได้อยู่ในโลกนี้ ผู้ที่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง ไร้ ความหวังที่จะเป็นนิรันดร์ไปตลอดชีวิต!”
ฉินมู่เคลื่อนย้ายหมื่นวิถี เปิดปากพูดอย่างเฉยเมย เสียงของเขาสร้างความสั่น สะเทือนไปทั่วเก้าสวรรค์!
เขาขยับ กางฝ่ามือออก แสงสีขาวที่มีรูปร่างเหมือนกับกระบี่ก็ปรากฏขึ้น จาก นั้นเขาก็โบกมือไปยังทิศทางเขตต้องห้าม!
กระบี่ใจพิสุทธิ์
กระบี่พุ่งออกไป สยบความโกลาหล!
!!
เป็นเพียงคลื่นพลังธรรมดา แต่ดูเหมือนว่าจะมีพลังมหาศาลที่จะบัญชาฟ้าดิน
ในเวลานี้ มีลําแสงกระบี่อันล้ําค่าที่สามารถพุ่งผ่านยุคสมัย จากเกาะสุขาวดี
เจาะผ่านความโศกเศร้าในสมัยโบราณ ตอกย้ําความหมายที่แท้จริงของฟ้าดิน!
กระบี่เรืองแสงเป็นประกาย เป็นการยากที่จะอธิบายรูปแบบของกระบี่นี้ซึ่งเกิน กว่าความเข้าใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลก และหาที่เปรียบมิได้ทําให้โลกต้องตกตะลึง
ถึงแม้จะเป็นจอมจักรพรรดิโบราณในสมัยโบราณจะอยู่ที่แห่งนี้ พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกระบี่เล่มนี้
เพราะมันไม่มีใครเทียบได้และเหนือชั้นเกินไป มันเหมือนกับว่าจะนําสมัย
โบราณจวบปัจจุบัน และกฎทั้งหมดไปสู่หมื่นวิถี วิ่งผ่านจักรวาล และมันเป็นเรื่อง ยากที่จะขับเคี่ยวกับมัน!
“จ้าวแห่งสุขาวดี!!!” ในตอนนี้ ในเขตต้องห้ามโบราณที่เผชิญกับกระบี่นี้ ก็มี เสียงคํารามจากความโกรธจากยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ เขาถูกกักขังไว้และกลายเป็นเป้าหมายของกระบี่นี้
และที่ใดที่เผชิญหน้ากับกระบี่นี้อย่างแท้จริง ก็จะรู้ถึงพลังของมัน
นั่นคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่เหนือทุกสิ่ง ดูเหมือนว่าจะวิ่งผ่านอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต มิสามารถหยุดได้!
ในตอนนี้ ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่ถูกขังอยู่ก็คํารามด้วยความโกรธจัด จังหวะ
ที่ปล่อยต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมา ร่างกายที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ปลุกทุกวิถี ต้องการปลดผนึกพลังยุทธ์ระดับสูงสุด ให้ก้าวไปถึงเขตแดนจอมยุทธ์ระดับสุด ยอดเพื่อต่อต้านการระเบิดครั้งนี้
บูม!
แต่ทว่า ความเร็วของกระบี่นั้นเร็วเกินไป พุ่งผ่านนิรันดร์ และในชั่วพริบตา มัน ก็เข้าใกล้เขตต้องห้ามนี้ และยอดยุทธ์สูงสุดโบราณก็ล้มลง
เขามิมรณะ!
นี่คือทิศทางที่ฉินมู่โบกมือออกไป
ทันทีที่แสงกระบี่ตกลงมา สถานที่แห่งนี้ก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงนิรันดร์อันไร้ที่สิ้นสุดในทันที
ดอกไม้บนเส้นทางกําลังเบ่งบาน แสงนิรันดร์ก็กําลังแผดเผาอย่างรุนแรง และแม้กระทั่งมีเสียงสาธยายมนตราดังก้องกังวานชั่วนิรันดร์สร้างความสั่นสะเทือนยุคสมัย!
ทันทีหลังจากนั้น ฉากที่ไม่สามารถบรรยายได้ก็ปรากฏขึ้น
เขามิมรณะกําลังคําราม และมีร่างหนึ่งกระเด็นออกมาจากที่แห่งนี้ พุ่งผ่าน
จักรวาล และตกลงไปยังพรมแดนของจักรวาล!
เลือดสีแดงที่กําลังหลั่งไหล หยาดเลือดที่ไหลลงนั้นทําลายแดนดาราจนแตก เป็นเสี่ยงๆ และนั่นคือเลือดของยอดยุทธ์สูงสุด ซึ่งมีพลังอันไร้ขอบเขตและยิ่ง ใหญ่ และแม้กระทั่งดวงดาราก็ไม่สามารถทนต่อมันได้
และผู้ที่กระเด็นออกไปนั้นคือยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่ถูกขังโดยกระบี่
ในตอนนี้ สภาพของเขาช่างน่าสังเวชอย่างยิ่ง ร่างของจอมจักรพรรดิหวู่
เหลียนถูกผ่าครึ่ง มันยากที่จะรักษาได้!
ทางด้านเขามิมรณะ เกือบครึ่งหนึ่งของภูเขาที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามที่นี่ มาตั้งแต่สมัยโบราณ ก็ถูกแสงกระบี่กวาดหายไป และกลายเป็นซากปรักหักพัง!
การโจมตีหนึ่งครั้งได้กวาดพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเขตต้องห้ามและสังหารยอด
ยุทธ์สูงสุดโบราณ
ณ เวลานี้ ทุกสรรพชีวิตต่างก็ตระหนักถึงความแข็งแกร่งและความยิ่งใหญ่
ของจ้าวแห่งสุขาวดีอย่างแท้จริง!
ในตอนนี้ ความคิดหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นและประทับอยู่ในหัวใจของทุกคน จ้าวแห่งสุขาวดี ไร้ผู้เปรียบ!
บทที่ 152 การโจมตีเพียงครั้งเดียวกวาดครึ่งเขตต้องห้าม จ้าวแห่ง
สุขาวดีไร้ผู้เปรียบ
