บทที่ 118 ดาร์ก เดม่อนเป็นคนธรรมดา
บทที่ 118 ดาร์ก เดม่อนเป็นคนธรรมดา
วันแรกของเดือนพฤศจิกายน
วันพุธ
วันฮัลโลวีน
หกโมงเช้า
…
ลิลลี่ ลาปลาซตื่นขึ้นมากับความรู้สึกที่หนาวเล็กน้อย
“หาว~”
ภูตตัวน้อยตบริมฝีปากปุ ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมา
จากนั้นเธอก็เห็นแมวขนสั้นที่นอนอยู่ข้างกายบนเตียง กำลังเลียหูของเธออยู่อย่างเพลิดเพลิน
“หยุดนะ”
เมื่อตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่เตียงของเธอเอง ลิลลี่จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตื่นขึ้น
เธอค่อย ๆ โผล่ออกจากผ้าห่มและบิดขี้เกียจ
แล้วเธอก็ได้เห็นวัยรุ่นผมบลอนด์นอนขดตัวเป็นลูกบอลอยู่ข้าง ๆ
“เฮ้ ๆ”
เมื่อเห็นดาร์กหลับตาสนิท ลิลลี่ก็ยืดนิ้วออกและเอานิ้วจิ้มแก้มเขาอย่างแผ่วเบา
นุ่มเหมือนเยลลี่พุดดิ้ง
เมื่อเธอดึงนิ้วกลับ ผิวที่ยืดหยุ่นอย่างยิ่งก็กลับคืนสู่สภาพเดิมพร้อมกับปลายนิ้วที่หดกลับ
ลิลลี่ไม่ทำอีกแล้ว
“ฉันควรกลับไปนอนที่ของฉัน”
ภูตตัวน้อยกระพือปีกและบินกลับไปที่ห้องของเธอ
ดาร์กยังหลับอยู่
นาน ๆ ทีเขาจะได้หลับลึกขนาดนี้
เมื่อปราศจากภาระทั้งหมด ร่างกายกับจิตใจของเขาก็ผ่อนคลายมาก และทำให้เขาง่วงนอนมากเป็นพิเศษ
จนกระทั่งเวลาเก้าโมงครึ่ง ดวงตาของดาร์กถึงจะเบิกขึ้นกว้าง
เขาตรวจสอบค่า [เกียจคร้าน] ทันที แต่ก็พบว่ามันไม่ได้เพิ่มขึ้น
“เป็นเพราะฉันนอนดึกหรือเปล่านะ?”
“หรือเพราะว่าฉันต้องการหลับนานขนาดนี้?”
หลังจากสะลึมสะลือในตอนเพิ่งตื่น ดาร์กก็สังเกตว่าศาสตราจารย์ลิลลี่ได้ออกไปโดยไม่บอกเขา
แต่ดาร์กไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาล้างหน้า แปรงฟัน และเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากนั้นก็ชโลมสไลม์ขยะบนใบหน้าของเขา แล้วเริ่มต้นวันใหม่
เดอะเลดี้ออกมาจากการ์ดคัดสรร และเธอยังไม่ได้เปลี่ยนร่างกลับเป็นรุกกี้เดวิมอน
อาจเป็นเพราะดูดซับพลังจากรูปปั้นเทพธิดามากเกินไป คราวนี้การวิวัฒนาการจึงคงอยู่เป็นเวลานาน
ดาร์กรู้สึกหมดหนทางเลยไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหารเช้าด้วยตนเอง
เวลานี้นักเรียนส่วนใหญ่ตื่นแล้ว จึงมีผู้คนมากมายในโรงอาหาร
พวกเขายังคงพูดคุยกันในหัวข้อเดิมที่พูดคุยกันในช่วงเช้าตรู่
บางครั้งมีการพูดถึงของขวัญในวันฮัลโลวีนด้วย
แต่ก็เป็นขนมจำพวกทอฟฟี่ ลูกอมแอปเปิ้ล คุกกี้ช็อกโกแลต ฯลฯ
ฮัลโลวีนนั้นต่างจากคริสต์มาส ดังนั้นของขวัญจึงไม่ได้มีค่าขนาดนั้น
…
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว ดาร์กก็แวะมาที่ห้องพยาบาล
เขาไม่พบโอกาสที่จะคืนการ์ดเวทมนตร์ของเวอร์เธอร์ให้อีกฝ่ายเมื่อคืนนี้ ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่เพื่อตามหาโรเบิร์ต และส่งการ์ดเวทมนตร์ให้เวอร์เธอร์ผ่านโรเบิร์ต
“ซิสเตอร์คาไลด์อยู่ไหมครับ?”
ดาร์กเปิดประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง และเห็นซิสเตอร์คาไลด์ยังหลับอยู่บนโต๊ะ
เห็นได้ชัดว่าเธอหมดแรง ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
ดาร์กไม่สามารถปลุกเธอให้ตื่นได้ เขาจึงเดินเข้าไปในห้องพยาบาลอันเงียบสงัด ก่อนจะพบโรเบิร์ต บร็อกไฮม์ท่ามกลางผู้ป่วยที่อยู่ใกล้ประตู
โรเบิร์ตกำลังหลับอย่างมีความสุขราวกับว่าไม่มีอะไรมารบกวนเขาได้
ดาร์กใส่การ์ดของเวอร์เธอร์ไว้ในถุงแล้ววางไว้ที่หัวเตียงของเขา
หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่ประตูของห้องพยาบาล
แต่ในตอนที่ดาร์กกำลังจะหันหลังกลับ เขาก็สังเกตเห็นว่าผู้ป่วยในห้องพยาบาลมากกว่าครึ่งถูกเข็มน้ำเกลือเจาะอยู่
มันแตกต่างจากการให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดดำโดยทั่วไป เข็มน้ำเกลือนี้ถูกเจาะเข้าไปในหัวของพวกเขาผ่านขมับ และถุงยาที่แขวนอยู่ข้างเตียงนั้นก็เป็นทรงกลม ภายในบรรจุยาเรืองแสงไว้
เมื่อตรวจสอบใกล้ ๆ ดาร์กก็เห็นว่าส่วนหนึ่งของเข็มที่เจาะเข้าไปในหัวของพวกเขานั้นพร่ามัวและกึ่งโปร่งใส เหมือนกับตอนที่เฒ่าจอห์นใช้ตะขอแห่งโชคชะตาเพื่อเกี่ยวความคิดฟุ้งซ่านออกมา
และน้ำยาในขวดยาทรงกลมก็ใกล้จะหมดแล้ว
แม้ว่าดาร์กจะไม่รู้ว่ายาที่อยู่ในขวดยาคืออะไร แต่ตามปกติของการให้ยา เขารู้ว่าซิสเตอร์คาไลด์ต้องถูกปลุกให้ตื่นเดี๋ยวนี้!
“ดาร์ก เดม่อน?”
ซิสเตอร์คาไลด์ปรากฏขึ้นข้างหลังเขาอย่างเงียบ ๆ
ดาร์กตกใจเล็กน้อย
ซิสเตอร์คาไลด์พูดว่า “เธอมาที่นี่ถูกจังหวะพอดี เธอช่วยฉันเทยาใหม่ลงในขวดยาเหล่านี้ได้ไหม?”
ดาร์กพยักหน้าตอบ “ได้ครับ”
ซิสเตอร์คาไลด์ขยี้ตาและหยิบชั้นวางหลอดทดลองสองอันออกจากตู้ยา ชั้นวางหลอดทดลองแต่ละอันเต็มไปด้วยหลอดทดลองที่ปิดสนิทด้วยจุกไม้โอ๊ก
มีของเหลวสองชนิดอยู่ภายในหลอดทดลอง
“ยาสีเหลืองอ่อนนี้เป็นยาของกริมม์ มันสามารถขจัดผลข้างเคียงของน้ำพรากวิญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างวิญญาณและร่างกายแน่นแฟ้นขึ้น เพื่อไม่ให้ใครสับสนกับภาพลวงตาทางจิตใจได้ง่าย ๆ”
“ส่วนยาทองคำนี้เป็นยาของแอนเดอร์เซน ซึ่งมีผลต่อคำสาป มันสามารถลบคาถาส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการสาปสมองและการบงการจิตใจได้ หากใช้ล่วงหน้าก็สามารถปกป้องจิตใจของตนจากการถูกบงการจิตได้”
“ถึงแม้ว่าพวกมันจะดูเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วพวกมันเป็นยาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตามฉันมาและอย่าสับสนพวกมันล่ะ”
ผู้ป่วยทั้งหมดสามสิบรายที่ยังนอนรักษาตัวในเวลานี้ ยังคงจำเป็นต้องเติมขวดยาของพวกเขาอยู่
สิบสี่คนต้องการยาของกริมม์ และอีกสิบหกคนต้องการยาของแอนเดอร์เซน
แม้ว่าคนที่เหลืออีกสิบเก้าคนจะโดนน้ำพรากวิญญาณด้วย แต่อาการก็ไม่ร้ายแรงนัก
แค่ใช้เวลาพักฟื้นเพียงสองถึงสามวันเท่านั้น
อันที่จริงแล้ว เรื่องที่เป็นปัญหาที่สุดคือคู่รักสิบสี่คนที่ถูกพรากอารมณ์และความทรงจำออกไป
ยาของกริมม์ทำได้เพียงทำให้วิญญาณของพวกเขามีเสถียรภาพขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการรักษาเรื่อย ๆ เพื่อค่อย ๆ ฟื้นฟูอารมณ์และความทรงจำของพวกเขา
ตามที่ซิสเตอร์คาไลด์กล่าว อารมณ์และความทรงจำของมนุษย์มักมีการสำรองไว้ในส่วนลึกของสมองอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดออกไป
“ถึงอย่างไร มันก็ดีแล้วที่พวกเขายังสามารถกลับมาเป็นปกติได้”
ดาร์กถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบ ๆ หลังจากสอบถาม
แม้ว่าตัวเขาจะพิจารณาเรื่องนี้ด้วยตัวเองในตอนนั้นแล้ว แต่สุดท้าย ดาร์กก็ไม่ได้ลงมือช่วยเหลือในตอนที่อารมณ์และความทรงจำของพวกเขาถูกดึงออกไป หากมันไม่สามารถฟื้นอารมณ์และความทรงจำของพวกเขากลับมาได้จริง ๆ นี่คงทำให้เขารู้สึกผิดมากไปอีกนาน
ซิสเตอร์คาไลด์ดูเหมือนจะมองออกว่าดาร์กคิดอะไรอยู่ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ดาร์ก เดม่อน ฉันเคยได้ยินเรื่องของเธอในตอนที่ฉันยังทำหน้าที่อยู่ที่โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาทั้งหมดบอกว่าเธอคืออวตารของปีศาจ และเป็นความอัปยศของตระกูลดยุค ในฐานะบุตรชายของวัลคีรีแล้ว เธอไม่ได้รับคุณธรรมใด ๆ มาจากแม่ของเธอเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นฉันคิดว่าเธอค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเติบโตมามีบุคลิกที่น่าเบื่อแบบนี้”
ดาร์ก “?”
ซิสเตอร์คาไลด์เทยาของแอนเดอร์เซนลงในขวดทรงกลมสำหรับสมาชิกคนสุดท้ายของภาคีอาหารทะเล และพูดต่อว่า “ถ้ามีคนสองกลุ่มที่ตกอยู่ในอันตราย กลุ่มหนึ่งมีเพียงสิบคน แต่มีบางคนที่สำคัญกับเธอในกลุ่มนั้น ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งมีร้อยคน แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้บริสุทธิ์ เธอจะช่วยกลุ่มไหน?”
ดาร์กตอบ “น่าจะกลุ่มสิบคนครับ”
ซิสเตอร์คาไลด์ “?”
ดาร์กอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวแล้วพูดว่า “ซิสเตอร์คาไลด์ครับ อารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์แยกจากกัน ถ้ามีคนตายหนึ่งร้อยคนเพราะผมเลือกช่วยชีวิตคนสิบคน ผมก็รู้สึกผิด แต่ถึงอย่างนั้น ต่อให้ผมรู้ล่วงหน้า ผมก็ยังคงเลือกช่วยชีวิตคนสิบคนอยู่ดี ส่วนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องสับสนเลย อันที่จริง มันคงไม่ใช่ความผิดของผมถ้าคนร้อยคนนั้นไม่รอด ผมจะรู้สึกผิดเพียงเพราะว่าผมไม่สามารถช่วยร้อยคนเหล่านี้พร้อมกับคนสิบคนได้มากกว่า”
ซิสเตอร์คาไลด์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้านั้นดูอายเล็กน้อย เธอเกาผมสีเงินที่ยุ่งเหยิงก่อนจะพูดว่า “ฉันคิดผิดสินะ เอาเถอะ ฉันยังมียาของกริมม์และยาของแอนเดอร์เซนเหลืออยู่ เธอสามารถเลือกหนึ่งอย่างเป็นรางวัลได้”
“ผมขอยาของแอนเดอร์เซน”
ดาร์กไม่ลังเลแม้แต่น้อย