บทที่ 130 สัญญาณของวิวัฒนาการฟิวชั่น
บทที่ 130 สัญญาณของวิวัฒนาการฟิวชั่น
[ชื่อการ์ด: แคทมอน]
[ประเภท: การ์ดวิญญาณ]
[ระดับ: ✪✪✪✪]
[เผ่า: ประเภทนกและสัตว์]
[คุณสมบัติ: แสง]
[พลังเวทมนตร์: 1500 หน่วย]
[พลังโจมตี: 1900 หน่วย]
[พลังป้องกัน: 900 หน่วย]
[ท่าไม้ตาย: แหวนศักดิ์สิทธิ์, หมัดแมว, เนตรแมว]
…
เกือบจะเป็นแผงสกิลเดียวกันกับของแบล็คแคทมอน
แต่มีท่าไม้ตายทั้งหมดสามอัน ซึ่งหมายความว่าเป็นการ์ดสีส้มรองจากการ์ดสีทองเท่านั้น!
ดาร์กมองดูออร่าสีส้มที่เปล่งออกมาจากขอบการ์ด แล้วรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย
เขาที่เคยสัมผัสกับการ์ดระดับทอง [ชัคคารุ] ย่อมเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างห้าระดับนี้: สีขาว สีฟ้า สีม่วง สีส้ม และสีทอง อย่างชัดเจน
ดาร์กหยิบการ์ดวิญญาณขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียด
พลังโจมตีของแคทมอนอยู่ที่หนึ่งพันเก้าร้อยหน่วยทำให้อยู่ในระดับแนวหน้าของการ์ดเวทมนตร์สี่ดาว ซึ่งปกติจะมีระดับสูงสุดอยู่สองพันหน่วย
แม้ว่าพลังป้องกันจะด้อยไปเล็กน้อย แต่ค่าพลังเวทมนตร์หนึ่งพันห้าร้อยหน่วยก็ถือว่าไม่เลวเลย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มีท่าไม้ตายสามท่า!
สำหรับสปิริตแล้ว ท่าไม้ตายคือหัวใจหลักในการต่อสู้
ดาร์กใส่พลังเวทมนตร์ลงไปในการ์ดวิญญาณด้วยความคาดหวัง ก่อนจะได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็ว
[แหวนศักดิ์สิทธิ์: สกิลติดตัว แหวนศักดิ์สิทธิ์ของแคทมอนเป็นเครื่องพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของมัน และยังเสริมพลังของมันอีกด้วย พลังงานเวทมนตร์ +500 หน่วย พลังโจมตี +500 หน่วย พลังป้องกัน +500 หน่วย]
[หมัดแมว: ใช้กรงเล็บขนาดใหญ่เพื่อข่วนศัตรู]
[เนตรแมว: โจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยแสงสะท้อน ทำให้คู่ต่อสู้ตกอยู่ในความโกลาหลและมีโอกาสโจมตีตัวเอง]
…
“แหวนศักดิ์สิทธิ์!”
แคทมอนแตกต่างจากแบล็คแคทมอน ตรงที่เป็นมอนสเตอร์ในโลกดิจิทัลประเภท ‘สัตว์ศักดิ์สิทธิ์’ อันล้ำค่า
มอนสเตอร์ในโลกดิจิทัลประเภทศักดิ์สิทธิ์แต่ละตัว มีแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่จารึกคำว่า ‘ดิจิทัลมอนสเตอร์’ ไว้
แหวนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของสถานะเท่านั้น แต่ยังเป็นไอเทมทรงพลังซึ่งมีพลังศักดิ์สิทธิ์ด้วย
แหวนศักดิ์สิทธิ์แต่ละวงสามารถเพิ่มพลังเวทมนตร์ พลังโจมตี และพลังป้องกันของมอนสเตอร์ในโลกดิจิทัล ประเภทสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงห้าร้อยหน่วย
แคทมอนในอนิเมะนั้น สามารถแสดงความแข็งแกร่งที่ใกล้เคียงกับระดับสุดยอดเมื่อมันโตเต็มวัยได้ โดยอาศัยแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่สวมไว้ที่หาง กับถุงมือคู่ที่คัดลอกมาจากข้อมูลของกรงเล็บของ <เซเบอร์ไลออน>!
กล่าวโดยย่อ แคทมอนระยะแรกต้องอาศัยอุปกรณ์ของมันเป็นอย่างมาก
ตอนนี้แหวนศักดิ์สิทธิ์ปรากฏเป็นสกิลติดตัว ทำให้แคทมอนมีพลังเหนือระดับของมัน
ดาร์กครุ่นคิดชั่วขณะหนึ่งและสรุปได้ว่า สิ่งนี้น่าจะมาจากพลังที่ได้รับจากขนนกของเดอะแองเจล
“แคทมอนที่มีแหวนศักดิ์สิทธิ์ถือได้ว่าเป็นสปิริตห้าดาวในคราบการ์ดสี่ดาว!”
สำหรับสองสกิลที่เหลือ
หนึ่งคือสกิลโจมตี และอีกอันเป็นสกิลสถานะควบคุม ซึ่งถือว่าดีมากเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว
พลังของ [แคทมอน] นี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง
ในขณะที่ดาร์กพอใจมาก เขาก็คิดอย่างรวดเร็วว่าจะอัญเชิญมันออกมาได้อย่างไรในการประลอง
หากใช้คาถาอัญเชิญปกติเพื่ออัญเชิญมัน [แคทมอน] สี่ดาว จะใช้เวลามากกว่าหนึ่งนาทีกว่าจะอัญเชิญสำเร็จ
แต่ถ้าเขาใช้การอัญเชิญบูชายัญ เขาต้องเตรียมเครื่องสังเวยให้เพียงพอ
ดาร์กนับสปิริตที่เขาครอบครองอยู่ในปัจจุบัน
1. สัตว์อสูรมายา: อีบุย ✪
2. สไลม์ขยะ ✪
3. ชัคคารุ ✪✪✪
4. แคทมอน ✪✪✪✪
“ดังนั้นฉันต้องสังเวย [ชัคคารุ] และการ์ดหนึ่งดาวเพื่ออัญเชิญมันออกมา”
ดาร์กหยิบการ์ดเวทมนตร์ออกมา และพยายามใช้การอัญเชิญบูชายัญ แต่เขาใช้เวลามากกว่ายี่สิบวินาทีในการอัญเชิญมันออกมาสำเร็จ
การประลองเวทมนตร์คือการแข่งขันกับเวลา หากใช้เวลายี่สิบวินาทีเต็มในการอัญเชิญสปิริต ลูกบอลเวทมนตร์ก็จะถูกคู่ต่อสู้ระเบิดไปก่อน
ดังนั้น การใช้สปิริตระดับแรกเป็นหินไต่ระดับจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
ในการต่อสู้จริง ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ให้เวลาคุณได้ใช้เทคนิคการอัญเชิญมากเกินไป
อัญเชิญสปิริต 1-3 ดาวก่อน ร่วมกับการ์ดเวทมนตร์ประเภทอื่นเพื่อรักษารูปแบบ รอเครื่องสังเวยให้เพียงพอ จากนั้นมองหาโอกาสที่จะอัญเชิญสปิริต 4-6 ดาว ออกมา นั่นเป็นขั้นตอนปกติสำหรับการต่อสู้ระดับต่ำ
ขณะที่ดาร์กกำลังคิดอยู่ในใจ แคทมอนก็ปรากฏตัวขึ้นจากแสงสว่าง
เจ้าเหมียวขาวมีรูม่านตาแนวตั้งสีน้ำเงินซีด ดาร์กมองมันพลางครุ่นคิด ในหัวของเขาไม่มีคำศัพท์อื่นใดที่สามารถอธิบายรูปลักษณ์มันได้นอกจากคำว่า ‘น่ารัก’
แม้ว่าดาร์กจะเห็นแสงที่คุ้นเคยในดวงตาของมัน แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสขนสีขาว
เพียะ!
มือของเขาถูกตะปบทันที
แคทมอนมองเขาอย่างดูถูก ราวกับกำลังมองคนโรคจิต!
“เจ้าเป็นคนสร้างข้าขึ้นมาเหรอ?”
แคทมอนยกแขนตัวเองขึ้นมาดู แล้วมองไปยังเด็กชายตรงหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้านายของมัน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
“ไม่เลวนี่ เหมียว อย่างน้อยรูปลักษณ์และอารมณ์ของเจ้าก็ไม่ทำให้ข้าผิดหวัง เหมียว”
หลังจากนั้นแคทมอนก็เดินไปรอบ ๆ ห้องพักด้วยตัวเอง ราวกับว่ามันต้องการทิ้งกลิ่นตัวไว้ทั่วทุกมุมของอาณาเขต
แม้ว่าห้องพักของเซนต์แมเรียนจะกว้างขวาง แต่หอพัก อย่างไรก็คือหอพัก
ห้องพักของดาร์กไม่ได้มีสิ่งของหรูหราประดับไว้
นี่ทำให้แคทมอนดูไม่พอใจเท่าไหร่นัก
และพอเห็นหญ้าแมว มันก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ว่า “ทำไมถึงมีแมวตัวอื่นอยู่ที่นี่?”
หญ้าแมวอดไม่ได้ที่จะเอียงคอแล้วร้อง “เมี้ยว?”
…
ดาร์กอยากจะบอกแคทมอนว่าหญ้าแมวนั้น…ตามหลักแล้วเป็นแม่มัน แต่ในที่สุดเขาก็หยุดตัวเองไว้
โชคดีที่แม้ว่าแคทมอนจะเย่อหยิ่ง แต่ก็มีเหตุผลและไม่ทำให้หญ้าแมวลำบากใจ
ดาร์กเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง ขณะที่มันเดินไปรอบ ๆ ห้องพัก เขาค่อย ๆ พิจารณาว่าระดับสติปัญญาของแคทมอนนี้ อย่างน้อยก็มากกว่าสาม
“ท้ายที่สุด มันคือสปิริตที่กลั่นออกมาจากผลแห่งอัตตา ไม่จำเป็นต้องลอง [อัตตา I] และ [อัตตา II] แต่จำเป็นต้องลอง [ราคะ III]”
ดาร์กกวักมือเรียก “แคทมอน มานี่หน่อยสิ”
การ์ดวิญญาณไม่สามารถขัดต่อเจตจำนงของเจ้าของได้ ภายใต้สถานการณ์ปกติ
แม้ว่าแคทมอนจะลังเลเล็กน้อย แต่มันก็ยังเดินเข้ามา
ดาร์กสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดึง [ราคะ III] ออกจากซองการ์ด และใช้ [อัญเชิญเวทมนตร์] ทันที
“เหมียว!”
แคทมอนจ้องไปที่การ์ดสีชมพู จู่ ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดี
เมื่อแสงเริ่มสว่างขึ้น ทันใดนั้น มันก็กรีดร้องและกระโดดออกไปทันที
แต่แสงสีชมพูที่ส่องออกมาจาก [ราคะ III] ได้ส่องไปทั่วทุกมุมของห้องพัก มันจึงไม่มีทางหนีรอดไปได้!
หลังจากถูกแสงส่องเข้าไปแล้ว แคทมอนก็พยายามดิ้นให้หลุดพ้นอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
ในไม่ช้าสัญลักษณ์มหาบาปก็สว่างขึ้นที่หน้าผากของมัน
เปลี่ยนจาก [อัตตา] ไปเป็น [ราคะ]
ตราทั้งสองสลับกัน
ดาร์กสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ร่างของมันกลายเป็นแสงสว่างภายใต้การเปลี่ยนแปลงของมหาบาปทั้งสอง เหมือนกับตอนที่รุกกี้เดวิมอนได้วิวัฒนาการเป็นเดอะเลดี้ ร่างทั้งหมดของมันเริ่มแปลงเป็นมนุษย์เพศหญิง
“เป็นไปได้ไหมว่า…” ดาร์กตื่นเต้นในทันที
แต่เมื่อกระบวนการวิวัฒนาการก้าวหน้าไปในระดับหนึ่ง แสงแห่งการวิวัฒนาการก็สูญสลายในทันใด
ร่างครึ่งมนุษย์แปลงกลับมาเป็นร่างแมว
หลังจากที่แคทมอนล้มลงไปนอนกับพื้น มันก็จับหน้าผาก ความมืดมนและไม่พอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของมัน
“วิวัฒนาการล้มเหลวงั้นเหรอ?”
ดาร์กตกตะลึงไปในทันที