บทที่ 141 ดาร์ก เดม่อนมอบตัว
บทที่ 141 ดาร์ก เดม่อนมอบตัว
“แน่นอน” แพนดอร่าเงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ นิ้วเรียวสวยทัดเส้นผมที่ปรกหน้าอยู่ไปข้างหลังใบหู
อาจเพราะผิวของรุ่นพี่ขาวเกินไป ทำให้ริมฝีปากสีดอกกุหลาบของเธอเด่นชัดมากขึ้น
เกล็ดรูปหัวใจใต้ดวงตาของเธอสะท้อนแสงสีเงิน
มันดูเหมือนกับเป็นเวทมนตร์เสน่ห์
ดาร์กถอยกลับโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาตระหนักว่ามุมปากของเธอโค้งขึ้นอย่างซุกซน เขาจึงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้ววางสมุดบันทึกลง
กลิ่นหอมฟุ้งจากด้านข้างทำให้จิตใจของชายหนุ่มกระวนกระวาย
ดาร์กหยิบปากกาขึ้นมาแล้วพูดว่า “ผมมีคำถามบางอย่างที่ไม่เข้าใจ เลยอยากถามรุ่นพี่น่ะครับ”
ก็เขาไม่เข้าใจมันจริง ๆ
แม้ว่าความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาเวทมนตร์จะไม่ได้ยากเป็นพิเศษ แต่เขาไม่มีพื้นฐานและศึกษาด้วยตนเองล้วน ๆ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะหนีไม่พ้นปัญหาที่ตัวเองแก้ไม่ได้
ในระหว่างศึกษามัน ดาร์กได้จดปัญหาที่เขาพบ เดิมทีเขาอยากขอคำแนะนำจากศาสตราจารย์เคเซอร์เมื่อเขาสะสมปัญหาได้เยอะกว่านี้
แต่ตอนนี้
เขากลับมาถามรุ่นพี่แพนดอร่าแทน
…
แพนดอร่าไม่ได้ผิดหวัง เธอรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่มาหาเธอโดยไม่มีเหตุผล
หากเป็นแค่ปัญหาในการเรียน เธอก็ยินดีช่วยเหลือ
แต่ในระหว่างตอบคำถาม แน่นอนว่าเธอก็จะคิดดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน
…
“เดี๋ยวก่อนครับ มีคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่ด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไร ใจเย็น ๆ”
“ช้าลงหน่อย”
“มันกำลังมาแล้ว”
“โอเค”
รุ่นพี่แพนดอร่าสอนดาร์กถ่ายพลังเวทให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเขียนภาษาเวทมนตร์
ดาร์กพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อยับยั้งแรงกระตุ้นในใจ เขาพยายามเรียนรู้และจดจำอย่างใจเย็นที่สุด
แต่ [ราคะ] ยังคงขึ้นอยู่ดี
…
เวอร์เธอร์ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็เข้าไปในห้องสมุดกับโรเบิร์ต
หลังจากที่ทั้งสองหยุดอยู่หลังมุม เวอร์เธอร์อดถามไม่ได้ “พวกเขารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
โรเบิร์ตปลอบโยนเขา “เขาก็แค่ถามคำถาม ดาร์กมาที่ห้องสมุดบ่อย ๆ มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะรู้จักกับรุ่นพี่แพนดอร่า”
เวอร์เธอร์กัดฟันเล็กน้อย “ถ้าฉันไปถามคำถาม รุ่นพี่แพนดอร่าจะสอนฉันด้วยเหรอ?”
โรเบิร์ตตกใจ “หา? แต่เราไม่ได้รู้จักเธอดีพอนะ”
เวอร์เธอร์ “ฮะ?”
โรเบิร์ตเสนอ “บางทีเราอาจจะลองตรวจสอบความชื่นชอบก่อนก็ได้ นั่นน่าจะเป็นข้อมูลอ้างอิงที่ดี”
เวอร์เธอร์บีบการ์ด [ความรักต้องห้าม] ไว้แล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ เราไม่ควรหวังสูงเกินไป เราเป็นแค่คนแปลกหน้าที่รู้จักชื่อกันเท่านั้น โรเบิร์ต หรือฉันต้องอ่านหนังสือมากกว่านี้เหมือนอย่างดาร์กบ้างถึงจะมีโอกาส?”
โรเบิร์ตตอบ “ฉันก็ไม่รู้ แต่การมีหัวข้อคุยตรงกันมากขึ้นนั้นเป็นอาวุธวิเศษในการสื่อสารกับผู้หญิง แล้วรุ่นพี่แพนดอร่าก็ชอบอ่านหนังสืออย่างเห็นได้ชัด”
แต่เขาก็ยักไหล่อีกครั้ง “แต่คืนนี้เราต้องทำการบ้านให้เสร็จ งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็ได้มั้ง?”
เวอร์เธอร์ลังเล “แต่ฉันยังต้องไปทางลับเพื่อตามหาสมบัติที่พ่อทิ้งไว้”
โรเบิร์ตตอบ “ถ้าอย่างนั้นนายก็ไม่มีทางเลือก มีคำกล่าวที่ว่าเราไม่สามารถเลือกได้ทั้งสองทางใช่ไหม?”
เวอร์เธอร์ยังคงลังเล “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่สิ่งที่นายพูดก็สมเหตุสมผลอยู่ รุ่นพี่ชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับมังกร บางทีฉันอาจจะมอบหนังสือให้เธอเป็นของขวัญคริสต์มาสก็ได้”
โรเบิร์ตเห็นด้วย “เป็นความคิดที่ดี ฉันขอแนะนำ ‘สิบสี่รูปแบบการสังหารมังกรของอาลีบาบา’ ว่ากันว่าเป็นหนังสือขายดีขั้นสุดยอดเลยล่ะ!”
เวอร์เธอร์ “ไว้ฉันจะคิดดูอีกที ยังอีกนานกว่าจะถึงคริสต์มาส”
…
[ราคะ +1]
ดาร์กมองข้อความแจ้งเตือนที่หายไปจากการมองเห็นนานแล้ว
เด็กชายเว้นระยะห่างจากรุ่นพี่แพนดอร่าโดยไม่รู้ตัว แต่ระยะห่างระหว่างพวกเขากลับลดลงเสียอย่างนั้น
แรงกดดันที่หนักหนาเกือบจะโดนใบหน้าของเขา
แพนดอร่ายิ้มเยาะและขยับเข้าไปใกล้รุ่นน้อง
[ราคะ +1]
ใบหน้าของดาร์กแดงก่ำ เขาเริ่มกังวลเล็กน้อย
‘เด็กจังเลยนะ’
แพนดอร่าคิดในใจ แต่เธอก็ไม่ได้หยุดสอนดาร์กเลย
ในฐานะนักเรียนชั้นยอดของปีสี่จากบ้านนักปราชญ์ การเขียนภาษาเวทมนตร์ของเธอไม่ใช่สิ่งที่ดาร์กจะสามารถเทียบได้
ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ ดาร์กก็ได้รับประโยชน์มากมาย
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เธอกระซิบข้างหูของดาร์กว่า “จะว่าไป ภาษาเวทมนตร์เป็นหลักสูตรของปีสองไม่ใช่เหรอ? นี่เธอเริ่มเรียนตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย?”
ดาร์กใช้คำตอบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอย่างรวดเร็ว “ผมมีการ์ดเวทมนตร์ที่ต้องทำน่ะครับ”
แพนดอร่าถามต่อ “การ์ดเวทมนตร์อะไรเหรอ? ฉันอาจช่วยเธอได้นะ”
ดาร์กตอบ “[กรงต้องสาป] กับ [ฟิวชั่น]”
แพนดอร่าประหลาดใจทันที “มันทำไม่ง่ายเลยนะ โดยเฉพาะ [ฟิวชั่น] แม้ว่าความต้องการภาษาเวทมนตร์จะไม่สูงมาก แต่ก็มีจุดที่ต้องให้ความสนใจมากมายในกระบวนการขัดเกลา ฉันก็พยายามหลายครั้งกว่าฉันจะทำสำเร็จ เธอเพิ่งเข้ามาเรียนได้แค่สามเดือนเองนะ คิดจะใช้ [ฟิวชั่น] แล้วเหรอ?”
ดาร์ก “มันยังอยู่ในขั้นทดลองครับ”
แพนดอร่าโล่งใจเล็กน้อย “ดูจากความก้าวหน้าของเธอ บางทีเธออาจจะสมัครเข้าร่วมชมรมประลองในเทอมหน้า และแข่งกับนักเรียนปีสองก็ได้ เมื่อเธอพร้อมที่จะขัดเกลา [ฟิวชั่น] ก็มาขอให้ฉันช่วยเธอได้นะ ฉันจะช่วยดูให้ ส่วน [กรงต้องสาป] นั้น ตราบใดที่เธอระมัดระวังไว้ มันก็ไม่เป็นไร”
ตราบใดที่ระมัดระวัง มันก็ไม่เป็นไร…
ดาร์กตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อย
จากการวิจัยที่เขาทำในช่วงนี้ เขาไม่เคยคิดเลยว่า [กรงต้องสาป] จะขัดเกลาได้ง่าย
ถ้าเขาเริ่มสร้างมันขึ้นมาจริง ๆ บางทีวัตถุดิบมูลค่าหนึ่งพันห้าร้อยคะแนนอาจจะสูญเปล่าในเวลาไม่นาน
แต่ฟังจากคำพูดของรุ่นพี่แพนดอร่า
นี่หมายความว่าการขัดเกลา [ฟิวชั่น] นั้นยากกว่า [กรงต้องสาป] มากใช่ไหม?
การขัดเกลาเวทมนตร์นั้นเป็นหลุมไร้ก้นมาเสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้คนต้องการลอง ‘สร้างการ์ดเวทมนตร์ที่เกินความสามารถ’ ไม่ว่าพวกเขาจะลงทุนไปเท่าไหร่ มันก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
แต่เนื่องจากรุ่นพี่แพนดอร่าเป็นฝ่ายเสนอให้ความช่วยเหลือ ดาร์กจึงไม่มีทางพลาดโอกาสนี้
เขาตอบอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณครับรุ่นพี่ เมื่อผมสามารถรวบรวมตราเวทมนตร์ของ [ฟิวชั่น] ได้แล้ว ผมจะมาขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่นะครับ”
แต่แล้วแพนดอร่าก็เปลี่ยนประเด็นอีกครั้ง “แน่นอน ฉันช่วยเธอได้ แต่อย่างว่านะ เอ็ดเวิร์ด นักเล่นแร่แปรธาตุโบราณเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าไม่เสียสละอะไรเลยก็จะไม่ได้อะไรกลับมา การจะได้อะไรมาก็ต้องแลกกับบางอย่างที่มีมูลค่าเท่ากัน นี่คือกฎการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมในการเล่นแร่แปรธาตุ มันสามารถพูดได้ว่าจอมเวทอย่างเรานั้นก็มาจากนักเล่นแร่แปรธาตุ และแน่นอน กฎนี้ไม่อาจลืมได้ อืม เธอคิดว่าไง?”
ดาร์กตอบ “ของขวัญคริสต์มาสสินะครับ ผมเข้าใจแล้ว”
แพนดอร่ายิ้มทันที “และงานเต้นรำคริสต์มาสด้วย”
…
“ความรู้สึกที่พยายามยับยั้งชั่งใจ ทั้ง ๆ ที่เขาก็เข้าใจดีอยู่แล้วแบบนี้ ค่อนข้างดีเลยนะเนี่ย~”
เมื่อเห็นแผ่นหลังของดาร์กหายไปในห้องสมุด แพนดอร่าก็ละสายตาออกไป และรีบกลับคืนสู่มหาสมุทรแห่งความรู้อย่างรวดเร็ว
ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการเวลา มักจะสามารถสลับไปมาระหว่างสองสถานะได้อย่างรวดเร็ว
…
หลังกลับมาที่ห้องอ่านหนังสือ ดาร์กก็มองดูปัญหาที่ได้รับการแก้ไขคร่าว ๆ ในสมุดบันทึก และเหลือบมองไปที่ [ราคะ] ซึ่งพุ่งขึ้นไปเจ็ดหน่วย เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ
“ว่าแล้ว…มันต้องล้นจริง ๆ ด้วย”