จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่ 148 ดาร์ก เดม่อนไม่รู้ว่าพอควรคืออะไร

บทที่ 148 ดาร์ก เดม่อนไม่รู้ว่าพอควรคืออะไร
บทที่ 148 ดาร์ก เดม่อนไม่รู้ว่าพอควรคืออะไร

ฤดูใบไม้ร่วงกลายเป็นฤดูหนาวและทุกสิ่งบนโลกก็เริ่มจำศีล

ด้วยอุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเซนต์แมเรียนก็เริ่มแจกชุดเครื่องแบบฤดูหนาว

แต่ถึงจะบอกว่าเป็นชุดเครื่องแบบฤดูหนาว มันกลับมีเพียงเสื้อซับในที่อบอุ่น เพิ่มเข้าไปในชุดเครื่องแบบฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น

เดือนใหม่เริ่มต้นด้วยคาบวิชาการประลองในวันศุกร์

ศาสตราจารย์โจนส์ยืนอยู่บนแท่น และพูดเกี่ยวกับกฎการประลองอย่างละเอียด

ดาร์กอยู่ในแถวสุดท้าย มือกำลังกระชับคอเสื้อให้แน่น ขณะที่หมอกขาวลอยออกมาเมื่อเขาถอนหายใจ

เมื่อคืนดาร์กทำสรุปรายเดือนของเขา

ปรากฏว่าเขาควบคุมค่ามหาบาปในเดือนพฤศจิกายน ได้น้อยกว่าในเดือนตุลาคม

ค่ามหาบาปทั้งหมดเพิ่มขึ้น ยกเว้น [ริษยา] และ [โทสะ]

[อัตตา: 105 → 106 หน่วย]

[ริษยา: 42 → 41 หน่วย]

[โทสะ: 94 → 90 หน่วย]

[เกียจคร้าน: 62 → 64 หน่วย]

[โลภะ: 89 → 97 หน่วย]

[ตะกละ: 62 → 64 หน่วย]

[ราคะ: 111 → 109 หน่วย]

มันเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ขนาดว่าดึง [อัตตา] ออกไปสามหน่วยแล้ว แต่ค่าชี้วัดของเขายังคงเพิ่มขึ้นสี่หน่วยอยู่ดี

ส่วน [เกียจคร้าน] และ [ตะกละ] ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

แม้ว่า [โลภะ] จะเพิ่มขึ้นตามที่ดาร์กคาดไว้ แต่มันยังคงเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป และมีสัญญาณว่าจะควบคุมไม่ได้เล็กน้อย

[ราคะ] ลดลงหนึ่งหน่วยหลังจากที่เขาใช้การ์ดดอกไม้ไป หนำซ้ำ ดาร์กยังดึงมันออกมาได้สิบสองหน่วยด้วยเครื่องหยดสมองวิเศษ ทว่าถึงอย่างนั้น ค่าของมันก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ และกลับไปเป็น 109 หน่วยอยู่ดี

แม้ว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคะเพิ่มขึ้นคือเขาจงใจเพิ่มมันเอง แต่ก็ยังไม่ง่ายที่จะจัดการกับมัน

ถ้าดาร์กไม่ยับยั้งตัวเอง ปัญหาจะยิ่งแย่ลงไปอีก

“ฮึก~” ดาร์กตบแก้มของเขา พยายามกำจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านและตั้งใจฟังอาจารย์มากขึ้น

เป็นเวลาสามเดือนแล้วตั้งแต่เริ่มเรียนมา เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนจะสิ้นสุดเทอมแรก

ถ้าพูดให้ชัดเจนคือ เทอมแรกจะสิ้นสุดในวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม

จากนั้นเซนต์แมเรียนก็จะฉลองคริสต์มาส และจะมีวันหยุดหนึ่งสัปดาห์

หากนักเรียนรับประกันได้ว่า จะสามารถเดินทางไปกลับได้อย่างรวดเร็วภายในหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาสามารถขอกลับบ้านในวันที่ 22 และใช้วันคริสต์มาสอีฟอันอบอุ่นกับครอบครัวได้

ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเขาจะต้องอยู่ที่สถาบันอย่างเชื่อฟัง

เพราะหลังจากสิ้นสุดวันหยุด เทอมใหม่จะเริ่มต้นขึ้น

เทอมที่สองจะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม และดำเนินต่อไปจนถึงเดือนมิถุนายน โดยจะมีการสอบปลายภาคหนึ่งหรือสองสัปดาห์หลังจากเดือนมิถุนายน ตามด้วยช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน

เนื่องจากตารางเรียนที่อัดแน่น ศาสตราจารย์และนักเรียนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะใช้เวลาช่วงวันหยุดคริสต์มาสในปราสาท

ทุกปีในวันคริสต์มาสอีฟ สถาบันจะจัดงานเต้นรำและมอบถุงเท้าให้นักเรียนแต่ละคน

ว่ากันว่าพวกเขาสามารถได้รับของขวัญคริสต์มาส โดยมีข้อแม้ว่าต้องอยู่ให้ได้ถึงตีห้าในเช้าวันรุ่งขึ้น แล้วเมื่อเปิดถุงเท้า พวกเขาก็จะต้องพบกับความประหลาดใจ!

“ดังนั้น การประลองในชั้นเรียนครั้งที่สองของเทอมนี้จะจัดขึ้นในวันศุกร์หน้า ฉันจะบันทึกอันดับในการประลองนี้ไว้เป็นผลงานของพวกเธอในเทอมนี้ แล้วนำไปรวมกับการสอบปลายภาคของเทอมถัดไปเพื่อสรุปคะแนนสุดท้าย”

เมื่อใกล้จบคาบเรียน ศาสตราจารย์โจนส์ก็ประกาศเวลาสำหรับการแข่งขันในชั้นเรียนครั้งที่สอง

ตอนเธอพูดครึ่งแรก เหล่าจอมเวทฝึกหัดก็ตื่นเต้นกันมากจริง ๆ

แต่พอพูดถึงครึ่งหลัง นักเรียนเกือบจะทุกคนก็ทำหน้าเหวอออกมา

“ถามจริง มันจะรวมเป็นเกรดรวมเหรอ?”

“ฉันได้ยินมาว่าเกรดรวมสามารถแปลงเป็นคะแนนได้…”

“นี่หมายความว่าการสอบของเราจะเริ่มก่อนเวลาเลยไม่ใช่เหรอ?”

“นี่มันไม่กะทันหันเกินไปเหรอ?”

“เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอไง?”

“ถ้าเริ่มตั้งแต่วันนี้ จะยังมีเวลาพอสำหรับขัดเกลาการ์ดใหม่หรือเปล่านะ?”

ทั้งห้องเรียนเกิดความโกลาหลอยู่ครู่หนึ่ง

ศาสตราจารย์โจนส์หรี่ตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าพวกเธอมีคำถามอะไรให้ยกมือขึ้น”

เอ็มม่าเป็นคนแรกที่ยกมือขึ้น

หลังจากที่ศาสตราจารย์โจนส์เรียกชื่อเธอ เธอก็ถามทันทีว่า “ศาสตราจารย์คะ กฎในครั้งนี้จะยังเหมือนเดิมกับโหมดระดับสูงหรือเปล่าคะ?”

“เป็นคำถามที่ดี”

ศาสตราจารย์โจนส์ปรบมือ ก่อนจะบอกให้เธอนั่งลงแล้วตอบว่า “ครั้งนี้เราจะใช้ระบบการประลองแบบเป็นทางการ แต่ไม่จำกัดจำนวนการ์ดเวทมนตร์ขั้นต่ำ”

โดรอนจากบ้านขุนนางยกมือขึ้นทันที

ศาสตราจารย์โจนส์พยักหน้าให้ และเขาก็ลุกขึ้นทันที ก่อนจะถามว่า “ถ้าอย่างนั้น มันจะไม่เป็นการเอาเปรียบกับคนที่มีการ์ดเวทมนตร์น้อยเหรอครับ?”

ศาสตราจารย์โจนส์ตอบอย่างใจเย็นว่า “การ์ดเวทมนตร์เป็นผลจากการเรียนของเธอในเทอมนี้ คนที่เรียนดีย่อมมีการ์ดเวทมนตร์มากกว่า แล้วจะพูดได้ยังไงว่าเป็นการเอาเปรียบ?”

โดรอนเงียบไปครู่หนึ่ง

จากนั้นที่แถวสุดท้ายข้างประตู เวอร์เธอร์ กาวด์ยกมือขึ้นสูง

เมื่อศาสตราจารย์โจนส์เรียกชื่อเขา เวอร์เธอร์ก็ถามเสียงดังว่า “ศาสตราจารย์ครับ คราวนี้มีรางวัลคะแนนอะไรหรือเปล่าครับ? หรือแต้มอันดับสามารถแปลงเป็นคะแนนได้หรือเปล่าครับ?”

อาจารย์โจนส์กล่าวว่า “ผลอันดับการประลองในชั้นเรียนครั้งนี้ จะใช้อ้างอิงสำหรับคะแนนรวมของการสอบปลายภาคเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถแปลงเป็นคะแนนได้ แต่ถ้าเธอเป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งก็จะมีรางวัลเป็นคะแนนให้”

เวอร์เธอร์ถามต่อ “เท่าไหร่เหรอครับ?”

โจนส์ตอบ “ห้าพันคะแนน”

“โห”

เหล่านักเรียนอ้าปากค้างทันที

ห้าพันคะแนนนี่มันอะไรกัน?

ผู้ชนะ ‘ดาวเด่น’ ของชั้นปีที่หนึ่ง ราชาแห่งงานเลี้ยงสวมหน้ากาก ดาร์ก เดม่อนก็ได้รับคะแนนเพียงห้าพันคะแนนในงานนี้เท่านั้น

และรางวัลแชมป์ของการประลองในชั้นเรียนครั้งแรกก็มีเพียงหนึ่งพันคะแนนเท่านั้น!

เมื่อดูจากสถานการณ์นี้แล้ว อาจมีคะแนนสำหรับอันดับสองและสามด้วย

ศาสตราจารย์โจนส์กล่าวทันทีว่า “การแข่งขันครั้งนี้จะมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และการตั้งรางวัลก็จะครอบคลุมมากขึ้น นอกจากแชมป์แล้ว สิบอันดับแรกจะได้รับรางวัลเป็นคะแนนด้วย”

ทันทีที่เธอพูดออกมา ทั้งห้องเรียนก็เต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง

ตำแหน่งแชมป์ได้มาไม่ง่ายก็จริง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะติดสิบอันดับแรกอยู่

ทุกคนเป็นนักเรียนใหม่ ดังนั้นโอกาสของทุกคนจึงเท่ากัน

ตราบใดที่พวกเขาพยายามอย่างหนัก มันก็มีความเป็นไปได้เสมอ!

สำหรับเรื่องที่มันมีผลไปถึงเกรดรวม พวกเขาก็จงใจลืมมันไปเสีย

“อีกหนึ่งสัปดาห์!”

นักเรียนทุกคนเตรียมพร้อม

เวอร์เธอร์เหลือบมองดาร์กที่นั่งอยู่และตัดสินใจทันที

ดาร์กผู้ซื้อวัตถุดิบ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็อยากได้คะแนนเช่นกัน

เพียงแต่เขาไม่แสดงออก

เขาไม่ได้เปิดเผยความมุ่งมั่นใด ๆ

ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เขาไม่เคยหย่อนยานในการเรียน ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเขาจะชนะที่หนึ่ง

แต่แทนที่จะคิดถึงเรื่องนี้ ไปคิดถึงวิธีปกป้องต้นไม้หนอนหลังฤดูหนาวดีกว่า

มีน้ำยาประมาณสี่ประเภทสำหรับการเพาะเลี้ยงต้นหนอน และแต่ละฤดูกาลก็แตกต่างกัน

ในหมู่พวกมัน ยาฤดูหนาวและยาฤดูร้อนมีราคาแพงกว่า ในขณะที่ยาฤดูใบไม้ร่วงและยาฤดูใบไม้ผลิมีราคาถูกกว่า

สรุปคือควรเปลี่ยนน้ำยา

ดังนั้น หลังจากวิชาการประลองจบลงในตอนบ่าย

ดาร์กก็ออกจากปราสาท และเข้าสู่ถนนนักเดินทางผ่านศาลาใจกลางทะเลสาบ

เดือนธันวาคมเพิ่งมาถึง แต่ถนนนักเดินทางกลับตกอยู่ในบรรยากาศคริสต์มาสแล้ว

ร้านค้าหลายแห่งยังไม่ได้ตั้งต้นคริสต์มาส แต่คำว่า ‘คริสต์มาสสเปเชียล’ กลับถูกเพิ่มลงไปในใบปลิวแล้ว

ดาร์กเดินผ่านถนนสายยาว และเข้าไปในร้านดอกไม้และต้นไม้กาเหว่า ซึ่งเขาซื้อยาสำหรับฤดูหนาวของต้นไม้หนอนมา

จากนั้นก็เข้าไปในร้านดอกไม้และต้นไม้คิตตี้ต่อเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการปรับปรุงหญ้ากระต่าย

มิสแคทพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย “ปัญหาในการปรับปรุงหญ้ากระต่ายเป็นเรื่องยากที่จะก้าวผ่านไปได้ แต่ฉันเพิ่งได้สายพันธุ์ใหม่ ๆ มา เธออยากลองดูไหม?”

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset