จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่ 15 ค่าอัตตาของดาร์ก เดม่อนรั่วไหล

บทที่ 15 ค่าอัตตาของดาร์ก เดม่อนรั่วไหล

ดาร์กเหลือบมองไปที่เครื่องหยดสมองวิเศษในมือของมอร์แกนตาเดียวและขมวดคิ้ว “ทำไมเครื่องหยดสมองวิเศษอันนี้ถึงดูเส็งเคร็งจัง?”

มอร์แกนตาเดียวตอบอย่างสบาย ๆ ว่า “มันถูกเก็บไว้นานแล้ว แน่นอนว่ามันจะต้องเส็งเคร็ง”

จากนั้นเขาก็เสริมว่า “และต่อให้ไม่เป็นแบบนั้น ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะจ่ายได้”

ดาร์กไม่โกรธกับเรื่องเล็กน้อยนี้ เขาเพียงแต่พูดว่า “ขอผมดูหน่อยครับ”

มอร์แกนตาเดียวส่งเครื่องหยดสมองวิเศษให้

ดาร์กบีบเครื่องหยดสมองวิเศษและขยับมาตรงหน้าเพื่อสังเกตอย่างถี่ถ้วน

สมองวิเศษของเครื่องหยดสมองวิเศษนี้เก่ามาก และดูเหมือนว่ามันจะเป็นมากกว่าการเก็บไว้เป็นเวลานาน

เขาเคยศึกษาเรื่องนี้อย่างรอบคอบมาก่อน

หยดสมองวิเศษเป็นสิ่งมีชีวิต แม้ว่าระดับสติปัญญาของมันจะอยู่ที่ 0.1 โดยพื้นฐานแล้วเหมือนกับพารามีเซียม ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ช่วงชีวิตมันก็จะมีแค่ป่วย แก่ และตาย

อายุขัยปกติของหยดสมองวิเศษคือสิบปี กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหยดสมองวิเศษนี้อาจไม่สามารถอยู่ได้นาน!

เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เครื่องหยดนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?”

มอร์แกนตาเดียวไม่ตอบคำถามดาร์กในทันที จากนั้นเขาก็ให้ตัวเลขที่แม่นยำมากอย่างไม่คาดคิด “แปดปีกับอีกหกเดือน”

‘งั้นก็มีชีวิตอยู่ได้เพียงสิบเดือนกว่า ๆ เท่านั้นน่ะสิ รับไม่ค่อยได้เลยแฮะ’

ดาร์กครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “เท่าไหร่ครับ?”

มอร์แกนตาเดียวยิ้ม “พันคะแนน”

อันที่จริง แม้ว่าเครื่องหยดสมองวิเศษจะเหลืออายุหนึ่งปี แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถซื้อได้ด้วยพันคะแนน!

มอร์แกนตาเดียวเสนอราคานี้เพียงเพื่อพิสูจน์ว่าดาร์กไม่สามารถจ่ายพันคะแนนได้!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือเพียงเพื่อยั่วโมโหเขาเฉย ๆ

แต่ดาร์กไม่รู้เรื่องนี้ เขาคิดว่ามันเป็นราคาปกติและถึงกับพยายามต่อรองราคา

เนื่องจากมอร์แกนตาเดียวยืนกรานราคามา ดาร์กไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดว่า “ก็ได้ พันก็พัน ช่วยห่อให้ผมด้วย”

มอร์แกนตาเดียวพูดด้วยความสงสัย “จ่ายมาก่อน”

ดาร์กหยิบการ์ดคัดสรรออกมา แล้วมองไปยังคนขาย

มอร์แกนตาเดียวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถึงหยิบการ์ดการค้าที่เซนต์แมเรียนเตรียมขึ้นเป็นพิเศษสำหรับพ่อค้าออกมาด้วย

ดาร์กวางการ์ดคัดสรรไว้บนการ์ดพ่อค้า เพียงแค่แปะกัน หนึ่งพันคะแนนก็ถูกดึงออกจากการ์ดคัดสรรและโอนไปยังการ์ดพ่อค้าของมอร์แกนตาเดียว

มอร์แกนตาเดียวหยิบการ์ดพ่อค้ามามองใกล้ ๆ และเริ่มทำตัวแปลกขึ้นเรื่อย ๆ

เขาไม่เข้าใจ นักเรียนใหม่ที่เพิ่งเริ่มเรียนได้ไม่ถึงเดือน จะมีคะแนนเต็มพันคะแนนได้ยังไง?

แต่เมื่อพูดไปแล้วว่าราคาของมันคือพันคะแนน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถกลับคำพูดของตัวเองได้

จากนั้นเขาก็หยิบขวดเปล่าออกจากตู้ เทน้ำสะอาดลงไป แล้วใส่เครื่องหยดสมองวิเศษลงไปในน้ำ มือขันฝาขวดแล้วค่อยส่งต่อให้ดาร์ก

“เอาไป”

ดาร์กกะพริบตา รับขวดแก้วแล้วหันหลังเดินจากไป

แต่ทันทีที่เขาไปถึงประตู เสียงของมอร์แกนตาเดียวก็ดังตามมาจากข้างหลัง

“เดี๋ยวก่อน เธอชื่ออะไร?”

“ดาร์ก เดม่อน”

พันคะแนนนั้นค่อนข้างแพงสำหรับดาร์ก

ตั้งแต่ตอนที่เขาวางแผนจะไปที่ถนนนักเดินทางเพื่อซื้อของที่จำเป็น ดาร์กก็เริ่มสะสมคะแนนอย่างตั้งใจ

ในฐานะนักเรียนปีหนึ่ง การได้คะแนนมันง่ายเกินไปสำหรับเขา

แม้แต่นักเรียนใหม่ที่บ้านนักปราชญ์ก็ไม่สามารถเอาคะแนนไปจากเขาได้!

คู่แข่งคนเดียวที่เขามี คือเอ็มม่า มอร์ติส

ทุกครั้งที่อาจารย์ถามคำถาม เอ็มม่าจะรีบตอบเสมอ

ดาร์กรู้สึกรำคาญกับเรื่องนี้ เขาจึงเปลี่ยนวิธีการและหันไปช่วยศาสตราจารย์ ‘ตรวจการบ้านของนักเรียน’ เพื่อรับคะแนนเพิ่มเติมแทน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชั้นเรียนคณิตศาสตร์ ศาสตราจารย์ลิลลี่ถึงขนาดต้องการให้เขาขึ้นโพเดียมสอนด้วย

ดังนั้น คะแนนที่เขาได้รับในเดือนแรกคือพันสองร้อยคะแนนพอดี!

แม้แต่เอ็มม่าซึ่งมีคะแนนมากมายก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้

หลังจากใช้ไปหนึ่งพันคะแนน ดาร์กก็ไปที่ร้านขายของชำและซื้อชุดเครื่องมือทดลองพื้นฐานที่สุดชุดหนึ่ง

นั่นเป็นการสิ้นสุดการเดินทางของเขาบนนถนนนักเดินทาง

บ่ายสามโมง

ขณะที่นักเรียนใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเดินเล่นอยู่ที่ถนนนักเดินทาง ดาร์กก็กลับมาที่หอพักของตัวเองแล้ว

เขาต้องเรียนรู้วิธีใช้ [เครื่องหยดสมองวิเศษ] อย่างถูกต้องก่อนสิ้นสุดสัปดาห์นี้

ก่อนหน้านี้เขาได้ยืมหนังสือที่เกี่ยวข้องจากห้องสมุดและอ่านมันมาระยะหนึ่งแล้ว

[คู่มือผู้ใช้เครื่องหยดสมองวิเศษ] ซึ่งซ่อนอยู่ที่ชั้นยี่สิบสามของชั้นวางหนังสือ มันอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้เครื่องหยดสมองวิเศษไว้เกือบทั้งหมด

ไม่เพียงแต่รวมวิธีการซึมซับความจำเฉพาะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีการควบคุมอารมณ์เพื่อให้ซึมซับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

การใช้เครื่องหยดสมองวิเศษเป็นสิ่งที่อันตรายมาก จำเป็นต้องใช้ทักษะการควบคุมพลังเวทมนตร์ที่สูงมาก และมีความรู้ในระดับที่จำเป็น

หากดำเนินการโดยประมาท มีความเป็นไปได้สูงที่ส่วนหนึ่งของความทรงจำจะถูกดูดซับไปอย่างถาวรและทำให้เกิดอาการความจำเสื่อมโดยตรง!

ในประวัติศาสตร์ มีแม้กระทั่งจอมเวทผู้โชคร้ายคนหนึ่งที่ดูดอารมณ์ ‘ความโศกเศร้า’ ของเขาไปตลอดกาลโดยไม่ได้ตั้งใจ และเขากลายเป็นคนที่ไม่รู้สึกถึงความโศกเศร้าอีกเลย

ในบรรดาวิธีที่ปลอดภัยและง่ายที่สุดคือวิธีที่เรียกว่า ‘วิธีแมลงปอสัมผัสน้ำ’

กล่าวโดยย่อก็คือการกดปากแหลมของหยดสมองวิเศษกับขมับแล้วบีบ ‘สมองวิเศษ’ เบา ๆ แทนหมวกยางและดูดอารมณ์ความปรารถนาและสิ่งอื่น ๆ ที่ล้นตามธรรมชาติเข้าสู่ ‘สมองวิเศษ’

ตราบใดที่บุคคลนั้นไม่ได้สัมผัสกับสมองอย่างลึกซึ้ง อันตรายก็สามารถลดลงได้!

ดาร์กตัดสินใจใช้วิธีนี้!

นี่อาจเป็นวิธีเดียวที่เขาสามารถใช้ได้ในปัจจุบัน

เด็กชายวางอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เตรียมไว้ไว้บนตู้เตี้ยข้างเตียง ก่อนจะนอนลงไป ดาร์กสงบสติอารมณ์ก่อนทำตามวิธีที่สอนในหนังสือ

ที่จริงแล้วเมื่อลมหายใจราบรื่น เขาสามารถตั้งสมาธิและกระตุ้นอารมณ์หรือความปรารถนาบางอย่างผ่านกิจกรรมของสมองได้!

แต่ดาร์กละเว้นขั้นตอนนี้

กลับกัน เขาหยิบเครื่องหยดสมองวิเศษขึ้นมาโดยตรง กดปากปลายแหลมกับขมับของเขา ใช้สองนิ้วบีบบนสมองวิเศษแล้วปล่อยมัน

เส้นสีดำบาง ๆ ถูกดูดออกจากสมองด้วยวิธีนี้!

“อย่างที่คาดไว้ ไม่จำเป็นต้องจดจ่อกับการกระตุ้นอารมณ์ เพราะ [อัตตา] ของฉันได้รั่วไหลออกมาแล้ว”

ดาร์กครุ่นคิดเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือไม่

แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องไม่โกรธ!

“ระบบ แสดงค่าชี้วัดให้ฉันดู”

[รับทราบ]

หลังจากนั้นไม่นาน

ค่าชี้วัดทั้งเจ็ดก็ปรากฏในวิสัยทัศน์ของดาร์ก

[อัตตา 112 หน่วย]

[ริษยา 44 หน่วย]

[โทสะ 96 หน่วย]

[เกียจคร้าน 60 หน่วย]

[โลภะ 82 หน่วย]

[ตะกละ 58 หน่วย]

[ราคะ 90 หน่วย]

ค่าชี้วัดอัตตามีมากกว่าร้อยหน่วยแล้ว!

ด้วยเส้นสีดำที่ถูกดูดออกไป ในที่สุด [อัตตา] ก็เปลี่ยนจาก 112 หน่วยเป็น 111 หน่วย!

“กะ-”

จู่ ๆ หยดสมองวิเศษก็กรีดร้อง!

ดาร์กรีบหยุดกด

เขาอ่านมาจากหนังสือ ในนั้นเขียนไว้ เสียงกรีดร้องของหยดสมองวิเศษหมายความว่า ความสามารถของสมองวิเศษถึงขีดจำกัดแล้ว

“พูดอีกอย่างก็คือ มันดูดเอา [อัตตา] ของฉันไปได้แค่หน่วยเดียว”

ดาร์กลุกขึ้นนั่งอย่างระมัดระวัง หลังจากลุกขึ้นนั่งได้เขาก็เดินมายืนหน้าตู้เตี้ย แล้วค่อยวางการ์ดเวทมนตร์เปล่ากึ่งสำเร็จรูปลงบนกลางตู้

เพราะการ์ดเวทมนตร์เปล่ากึ่งสำเร็จรูปชนิดนี้ต้องการทักษะงานฝีมือที่สูงมาก ซ้ำยังใช้เวลานานมากในการผลิต

ดังนั้น จอมเวทส่วนใหญ่จึงเลือกจะซื้อมันจากร้านค้าโดยตรงมากกว่า

การ์ดเวทมนตร์เปล่าในถนนนักเดินทางขายในราคาสิบคะแนน

ตามอัตราแลกเปลี่ยนแล้วมันแพงกว่าราคาตลาด

แต่ว่าความแตกต่างของราคาระหว่างสิ่งนี้ จะเป็นตัวดึงดูดพ่อค้านักเดินทางให้มาที่ถนนนักเดินทางเพื่อตั้งรกรากมากขึ้น

ดาร์กซื้อการ์ดเวทมนตร์เปล่ามาเพียงห้าใบเท่านั้น

เขาใช้ปากปลายแหลมคมของเครื่องหยดสมองวิเศษกับการ์ดเวทมนตร์เปล่า จากนั้นก็เมินเฉยต่อเสียงกรีดร้องของหยดสมองวิเศษ เขาบีบสมองเวทมนตร์อย่างรุนแรง!

“กะ! กะ! กะ…”

[อัตตา] หนึ่งหน่วยที่เก็บไว้ในสมองวิเศษถูกคายออกมาบนการ์ดเวทมนตร์เปล่าทันที!

ทันใดนั้น หยดหมึกหนาสีทองเข้มก็กระจายออกบนการ์ดที่มีพื้นผิวสีขาวราวกับหิมะ!

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset