จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่ 18 สถาบันเซนต์แมเรียนค่อย ๆ ถูกความรักกัดเซาะ

บทที่ 18 สถาบันเซนต์แมเรียนค่อย ๆ ถูกความรักกัดเซาะ

[ณ ห้องนั่งเล่นรวมบ้านอัศวิน]

ภายในห้องนั่งเล่นแห่งนั้นเงียบสงบกว่าเมื่อก่อนมาก เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตกำลังเล่นหมากรุกเวทมนตร์กันอยู่

หมากรุกเวทมนตร์เป็นประเภทหมากรุกที่ดัดแปลงมาจาก [หมากรุกมอนสเตอร์แคปซูล] แต่ละฝั่งมีตัวหมากรุกยี่สิบเอ็ดชิ้น โดยแต่ละชิ้นมีพลังโจมตี พลังป้องกัน พลังชีวิต ทักษะ และจำนวนการเคลื่อนไหวที่สามารถทำได้ในแต่ละรอบต่างกันไป

วิธีเล่นคือ วางหมากหมากรุกในพื้นที่ฝั่งตัวเอง เดินมันไปข้างหน้าและฆ่าหมากของคู่ต่อสู้โดยการขยับหนึ่งตัวต่อรอบ จากนั้นยึดครองป้อมปราการและปักธงเพื่อคว้าชัยชนะในที่สุด

เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตติดหนี้ห้าคะแนนเพื่อซื้อหมากรุกเวทมนตร์ตัวใหม่นี้ แต่ละชิ้นเป็นโกเลมจิ๋วที่มีระดับสติปัญญา 0.5 มันสามารถขยับได้ตามคำสั่งไม่กี่อย่าง มันสามารถร้องเพลง เต้น และแม้แต่แร็ปได้!

ในเวลานี้ เวอร์เธอร์กำลังสั่งให้ตัวหมากรุกนางเงือกที่สวยงามตัวหนึ่งร้องเพลง เขาเริ่มมึนเมากับเสียงของมัน

ในขณะที่โรเบิร์ตสั่งให้ตัวหมากรุกเมดูซ่าเต้น และนั่งทึ่งกับการเต้นของมัน

ไม่ไกลออกไป เอ็มม่า มอร์ติสจ้องมองดูพวกเขาอย่างเคร่งขรึม พลางเยาะเย้ยอยู่ในใจ

นักเรียนด้อยคุณภาพสองคนของสถาบันเซนต์แมเรียนไม่รู้ว่าวันดี ๆ ของพวกเขากำลังจะจบลงแล้ว!

[ลานประลองกลางแจ้งเซนต์แมเรียน]

มังกรขาวลำตัวเรียวยาวกำลังบินอยู่เหนือท้องนภา เกล็ดพิสุทธิ์ดั่งหิมะส่องแสงเป็นประกายสีเงินล้อแสงอาทิตย์ และนั่นรวมถึงเขาที่เงาดุจหยกของมันก็พร่างพราวด้วยแสงอันเจิดจ้าเช่นกัน

ยามนี้แพนดอร่า โดรากอนกำลังยืนอยู่บนเวทีผู้เข้าแข่งขัน ด้วยท่าทีที่อ่อนช้อยของหญิงสาวดูนุ่มนวลราวกับมังกรขาว

เธอโน้มตัวและเท้าศอกกับแท่นด้านหน้า คางบอบบางวางอยู่บนฝ่ามือดุจหยกขาว นัยน์ตากำลังมองดูเหล่าเด็กนักเรียนซึ่งกำลังทำสีหน้าตื่นตระหนกอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเบื่อหน่าย

ง่ายเกินไป

เพราะชีวิตราบรื่นเกินไป ทุกอย่างจึงกลายเป็นไม่น่าสนใจ

‘ฉันหาคุณค่าของชีวิตได้แค่จากการเฝ้ามองความน่ารักอันเยาว์วัยของเด็กชายขี้อายคนนั้นเท่านั้น’

แพนดอร่าก้มหน้าลง เล่นกับเล็บที่ผิดแปลกไปจากมนุษย์ทั่วไป มันแคบกว่า ยาวกว่า และแหลมกว่า จนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาบาง ๆ

เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง นักเรียนฝ่ายตรงข้ามก็ตกตะลึงจนทรุดตัวลงกับพื้นไปแล้ว

ท่ามกลางกลุ่มผู้ชม เหล่าแฟนคลับจากทุกบ้านต่างส่งเสียงตะโกนชื่อของเธอ แถมยังมีป้ายขนาดใหญ่ที่ชูขึ้นซึ่งบนนั้นเขียนคำไร้ยางอายไว้ด้วย

เมื่อแพนดอร่าก้าวเท้าลงจากเวที เธอก็โบกมือไปในทิศทางที่เสียงเชียร์ดังที่สุด ตอนนั้นเองที่บรรยากาศคล้ายกับปะทุขึ้นไปอีกสามเท่า

และเธอก็คลี่รอยยิ้มมีเสน่ห์ออกมา

หญิงสาวผู้นี้ นามของเธอคือแพนดอร่า โดรากอน นักเรียนชั้นปีสี่แห่งบ้านนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้มีแฟนคลับนับไม่ถ้วนและถูกขนานนามว่า ‘สาวมังกรเงิน’…

[ถนนนักเดินทาง]

โรสซึ่งถูกไดแอนนาลากไปจับจ่ายซื้อของรอบ ๆ แผงขายขนมทั้งหมด ยามนี้กำลังเอนกายพิงเก้าอี้ของร้านไอศกรีมอย่างเหนื่อยอ่อน เธอก้มหน้าลูบท้องที่ยื่นป่องออกมาเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแสดงรอยยิ้มแสนขมขื่น

“โรสจัง เธอต้องหัดที่จะปฏิเสธบ้างนะ!”

แต่มันอร่อยจริง ๆ นี่!

วัยเยาว์นั้นสวยงามเสมอ ทุกคนล้วนก้าวไปตามจังหวะชีวิตของตน

เกมการ์ดเล็ก ๆ ที่เรียกว่า [ดูดวงความรัก] กำลังได้รับความนิยมอย่างเงียบ ๆ

ไดแอนนากำลังเล่นการ์ดดอกซากุระที่ร้านขายขนมมอบให้ แต่จู่ ๆ มันก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ดอกซากุระบนการ์ดพลันโบยบินขึ้นไปบนอากาศ

มันบินออกจากการ์ดจริง ๆ

ดอกซากุระสีชมพูขาวลอยละล่องอยู่ในอากาศ มันส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

‘ยามดอกซากุระผลิบานและปลิดปลิวไปตามสายลม คนที่คุณชอบที่สุดจะปรากฏขึ้นบนการ์ด’

“ไดแอนนา คำทำนายออกมาแล้วเหรอ?”

โรสยืดหลังตรงอย่างต้องการจะดูด้วย

ไดแอนนาเช็ดกลีบดอกไม้บนการ์ดและเห็นคนที่ปรากฏใน [การ์ดดูดวงความรัก] พลันริ้วสีแดงอ่อนแสนน่ารักก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวละมุนและอ่อนโยนของเธอ

เธอรีบยกมือเล็ก ๆ ขึ้นมาปิดหน้าการ์ดไว้

แล้วหันไปมองโรสอย่างไม่พอใจ “ขอดูของเธอก่อน!”

โรสเอนหลังพิงเก้าอี้พลางทำสีหน้าเศร้าใจ “บอกแล้วไงว่าของฉันไม่ขึ้นใครเลย อีกอย่าง เมื่อวานก็ได้ยินคนพูดว่า หลังจากคนที่เธอชอบที่สุดปรากฏขึ้นบนการ์ดแล้ว เธอสามารถใส่พลังเวทมนตร์ลงไปในการ์ดดูดวงความรัก ระหว่างที่คิดถึงคนคนนั้นอยู่ก็จะสามารถค้นหาคนที่เขาชอบได้เหมือนกัน อยากลองไหม?”

“ไม่!”

ไดแอนนาส่ายหัวอย่างแรง แต่ปลายนิ้วของเธอกลับค่อย ๆ ใส่พลังเวทมนตร์ลงในการ์ด

เธอขยับนิ้วออกไปและเหลือบมอง ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ซีดลง เพราะมันไม่ใช่เธอ!

แพนดอร่ากลับมาที่ห้องสมุด มือสวยสัมผัสรูปเด็กชายผมบลอนด์ตัวน้อยซึ่งปรากฏอยู่บน [การ์ดดูดวงความรัก] และกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะแต่งงานกับเขาอย่างจริงจัง

เอ็มม่า มอร์ติสหยิบหนังสือหนาเท่าหัวแม่มือจากมุมโต๊ะ เธอเปิดหนังสือไปหน้าที่คั่นไว้และเหลือบมองที่ [การ์ดดูดวงความรัก] ซึ่งมันถูกใช้เป็นที่คั่น แต่แค่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน

ข้างโต๊ะของเธอ หนังสือเรียนของเวอร์เธอร์ กาวด์ก็มีการ์ดแบบนี้อยู่ด้วย

ณ ห้องอ่านหนังสือของห้องสมุด ดาร์กกำลังอ่าน ‘ทฤษฎีเวทมนตร์เบื้องต้น 2’ อย่างละเอียด

ไม่มีหนังสือเรียนในห้องสมุด และหนังสือเรียนเวทมนตร์เบื้องต้นของปีสองเล่มนี้ เขาก็ยืมมาจากคุณเบลล่า ผู้เป็นบรรณารักษ์ห้องสมุด ว่ากันว่านี่เป็นหนังสือเรียนเก่าที่นักเรียนคนก่อนทิ้งไว้ในห้องสมุด

แน่นอนว่า ‘ทฤษเวทมนตร์เบื้องต้น 2’ นี้ไม่เหมือนกับ ‘ตำราปรุงยาขั้นสูง’ ของ <ภาพยนตร์แนวสถาบันเวทมนตร์> ในภาคหก

มันเป็นแค่หนังสือเรียนธรรมดาที่มีบันทึกย่อในชั้นเรียน

อย่างไรก็ตาม บันทึกเหล่านั้นยังคงช่วยให้ดาร์กเข้าใจความรู้ที่ยาก ๆ ในหนังสือเรียนได้ง่ายขึ้น

ตั้งแต่ปีที่สองเป็นต้นไป หลักสูตรของสถาบันเซนต์แมเรียนจะมีความยากขึ้นในเชิงคุณภาพ

หากปีแรกเป็นเพียงการแนะนำ ปีที่สองก็คือการเริ่มเรียนอย่างแท้จริง!

ช่องว่างนี้ใหญ่มาก นักเรียนใหม่ที่ไม่ตั้งใจเรียนในปีแรกจะล้มเหลวในการไล่ตามความยากของหลักสูตรทันที และจากนั้นพวกเขาจะตกลงไปในลูปนรกของการเรียนพิเศษที่ไม่รู้จบ!

แม้แต่ดาร์กก็รู้สึกว่าหลักสูตรค่อนข้างยาก

แต่โชคดีที่ทักษะในการเข้าใจของเขานั้นดีมากจริง ๆ และสามารถเข้าใจมันได้ทีละเล็กทีละน้อย

ในไม่ช้าเขาก็พบบท ‘การสร้างการ์ดอารมณ์อย่างแม่นยำ’

ความรู้ในตำราเรียนของภาคเรียนแรกและปีแรกอยู่ที่ระดับของการทำ ‘การ์ดแสดงอารมณ์อย่างง่าย’ เท่านั้น

หากดาร์กต้องการปรับปรุง [อัตตา I] เขาต้องเรียนรู้วิธีการสร้างระดับสูงที่ซับซ้อนมากขึ้น

“ปรากฏว่าวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หมายเลข 7 ถือเป็นแค่รูปแบบการถูซึ่งจะส่งพลังแห่งอารมณ์ลงไปในการ์ดเวทมนตร์เท่านั้น”

“เพื่อปรับแต่งอารมณ์ จำเป็นต้องมีวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หมายเลข 13”

“เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หมายเลข 9”

“เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงาน จำเป็นต้องมีวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หมายเลข 18”

“เพื่อให้สามารถใช้ซ้ำได้ จำเป็นต้องมีวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หมายเลข 21 หมายเลข 33 และหมายเลข 34”

“ไม่คิดเลยว่าจะมีกฎมากมายในการสร้างการ์ดอารมณ์เล็ก ๆ เช่นนี้”

ดาร์กสูดหายใจเข้าลึก ๆ

นอกเหนือจากวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์แล้ว การขัดเกลาการ์ดอารมณ์ยังต้องการไอเทมอื่น ๆ ช่วยด้วย

เขาเหลือบดูคะแนนบางส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ และรู้สึกว่าอาจเป็นความคิดที่ดีที่จะสมัครขอสิทธิ์ใช้ห้องทดลองชั่วคราวจากศาสตราจารย์ด้านวิชาเวทมนตร์พื้นฐาน

ท้ายที่สุด เขาสามารถหาส่วนประกอบการทดลองมากมายในห้องทดลองได้ฟรี ๆ

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset