บทที่ 53 ธุลีแห่งเทพบรรพกาล
หลังจากทนโดนอีกฝ่ายหยอกล้อ ดาร์กก็ได้รู้ตำแหน่งของหนังสือเกี่ยวกับหญ้าแมวจากรุ่นพี่แพนดอร่า และไม่นานก็พบสำเนาของ ‘การจำลองของโลกพืช’ ในห้องสมุด
ในคืนวันศุกร์มีคนในห้องสมุดค่อนข้างน้อย
ดาร์กรินชาดำไร้กลิ่นให้ตัวเองแล้วอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ
‘การจำลองหมายถึง ปรากฏการณ์การปรับตัวทางนิเวศวิทยา โดยที่สิ่งมีชีวิต ‘เลียนแบบ’ สิ่งมีชีวิตอื่น หรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีชีวิตในแง่ของสัณฐานวิทยา พฤติกรรม และลักษณะอื่น ๆ ของมันที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย ถือเป็นพฤติกรรมพิเศษที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตในการวิวัฒนาการระยะยาวของธรรมชาติ’
‘ปรากฏการณ์ทางชีวภาพของหญ้าแมวเกิดจากการจำลอง’
‘ตัวอย่างการจำลองทั่วไป ประกอบด้วยผู้จำลอง วัตถุที่จำลอง และผู้ถูกหลอกลวง’
‘ยกตัวอย่าง หญ้าแมว’
‘ผู้จำลองคือ หญ้าแมวเอง’
‘วัตถุที่จำลองคือ แมว’
‘ผู้ถูกหลอกลวงคือ มนุษย์’
…
“อวัยวะสำคัญทั้งหกของพืช ได้แก่ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล และเมล็ด”
“แยกหญ้าแมวตามโครงสร้างต้นไม้”
“ส่วนที่ฝังอยู่ในดินคือราก”
“หางคือลำต้น”
“แล้วขนรอบ ๆ ตัวของมันคือ… ใบไม้งั้นเหรอ?”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ดาร์กก็ตกตะลึง
ตามภาพต้นฉบับ เขาคิดว่าส่วน ‘แมว’ ของหญ้าแมวน่าจะเป็น ‘ผล’
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
ขนของแมวคือใบไม้ ส่วนลำตัว แขนขา และหัวนั้นเหมือนกับลำต้นหลักของกระบองเพชร มันคือส่วนลำต้น
ในส่วนของดอกและผลนั้น…
ทุกฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ดอกไม้แสนสวยงามจะเติบโตบนยอดหญ้าแมว
เมื่อดอกไม้เหี่ยวเฉาก็จะออกผล
ส่วนเมล็ดนั้นก็อยู่ในผลโดยธรรมชาติ
…
ดาร์กอ่านหนังสือต่อไปและค่อย ๆ เข้าใจระบบนิเวศของหญ้าแมวอย่างละเอียดมากขึ้น
เมื่อใกล้บานสะพรั่ง พวกมันจะลำเลียงสารอาหารส่วนใหญ่ในลำต้นไปยังส่วนบนของยอด จากนั้นพวกมันก็จะออกดอกตูม กระบวนการคือผลิใบ ผสมเกสร และออกผลในที่สุด
“นี่เป็นกระบวนการที่สำคัญ”
ดาร์กวาดกระบวนการทั้งหมดเป็นกราฟลงในสมุดบันทึกของเขา จากนั้นจึงวาดวงกลมบนรูปยอดหญ้าแมวเป็นเครื่องหมายว่าเขาพบสาเหตุแล้ว
เพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตัวเอง เขาต้องอ่านหนังสือมากมาย จนกระทั่งสามทุ่มดาร์กก็ยืม ‘เจ้าแห่งมิมิค’ อีกเล่มหนึ่ง แล้วจึงออกจากห้องสมุด
รุ่นพี่แพนดอร่าไม่ได้อยู่ในห้องสมุดเสมอไป หากแต่เป็นคุณเบลล่าที่ทำหน้าที่เกือบตลอดเวลา
หลังจากดาร์กกลับมาที่หอพัก เขาก็เปิดไฟ วางหนังสือที่ยืมไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปที่ระเบียง
“เมี้ยว~”
หญ้าแมวเดินด้วยขาสั้น ๆ มาหาดาร์ก เด็กชายคุกเข่าลงและเกาคางมัน อีกมือหนึ่งตรวจสอบตรารับรอง [อัตตา] ที่อยู่บนหัวของเจ้าตัวน้อยอย่างระมัดระวัง
จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นรอยนูนขนาดเล็กบนตรารับรอง [อัตตา]!
เมื่อสัมผัสรอยนูนด้วยปลายนิ้ว ดาร์กก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
หญ้าแมวที่ดูดซับ [อัตตา] เข้าไปจะให้ผลแบบไหนออกมานะ?
“หากพูดถึงผล มีน้ำยามากมายที่ทำจากผลหลากหลายชนิด และแม้แต่การ์ดวิญญาณบางใบก็ต้องการผลพิเศษเป็นวัตถุดิบหลัก ก่อนที่มันจะออกผลสำเร็จ ฉันอาจต้องวิจัยยาหรือสปิริตที่เกี่ยวข้องกับมันซะก่อน”
เมื่อคิดถึงอนาคต ดาร์กก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ลูบคลำแมวอีกครั้ง
ค่า [โทสะ] ในใจเขาก็ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน
สักพักดาร์กก็อุ้มหญ้าแมวไปล้างที่ห้องน้ำ พอล้างเสร็จเขาก็วางมันลงบนโต๊ะข้างเตียง เขาอ่านหนังสือ ‘เจ้าแห่งมิมิค’ อยู่ครู่ใหญ่แล้วจึงผล็อยหลับไป
…
หากแต่คืนวันศุกร์ยังไม่สิ้นสุด
ไดแอนนาและโรสยังคงส่งเสียงดังอยู่ในห้องนั่งเล่น
หลังงานเลี้ยงน้ำชา เอ็มม่าได้รับเชิญไปที่ชมรมอ่านหนังสือของบ้านนักปราชญ์ และเธอก็นอนหลับไปทั้งคืน
หลังจากพักผ่อนแล้ว แพนดอร่าก็เตรียมตัวสำหรับการประลองเวทมนตร์ในวันพรุ่งนี้
เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตสนุกสนานกันมาก พอกลับมาที่หอพักก็ดึกมากแล้ว
แต่ไม่นานหลังจากกลับมาที่หอพัก เวอร์เธอร์ก็เปิดประตูอย่างเงียบ ๆ เหลือบมองที่ห้องของโรเบิร์ต ก่อนจะออกจากหอคอยของบ้านอัศวินไป
เด็กชายเดินผ่านปราสาทอันเงียบสงบ เวอร์เธอร์อดนึกย้อนถึงเหตุการณ์ในตอนบ่ายไม่ได้
ประโยคสุดท้ายของเอ็มม่านั้นรุนแรงเกินไป
เกือบทำให้เขาตัดสินใจผิด
โชคดีที่โรเบิร์ตเสนอให้ไปทำการบ้านที่ห้องสมุด นั่นถึงทำให้เขาเห็นความหวังของการเปลี่ยนแปลง
‘คิดถึงพ่อแม่ที่ตายไปแล้วด้วย!’
แม้ว่าเวอร์เธอร์จะไม่เคยพบกับพ่อแม่ของเขา แต่เขาก็โตมากับการฟังเรื่องราวของวีรบุรุษ
วีรบุรุษเป็นบุคคลที่เขาชื่นชมเสมอมา
ในวันที่อาจารย์ใหญ่อาร์เต้บอกเขาว่าเขาเป็นบุตรชายแห่งวีรบุรุษ เขาดีใจมาก!
แต่ตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เขาทำในเดือนนี้
เวอร์เธอร์อยากจะขุดหลุมบนพื้นดินและฝังตัวเองให้มิด!
→ ตอนที่เข้าไปในห้องสมุดครั้งแรก เขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ
→ และเขายังตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ให้ตัวเองก้าวข้ามดาร์ก เดม่อนก่อนปิดเทอมนี้ด้วย!
แต่สองชั่วโมงต่อมา การคำนวณอย่างหนักได้ขจัดความประสงค์ของเวอร์เธอร์
หลังจากที่เขาและโรเบิร์ตจ้องตากัน สองเพื่อนซี้ก็ตกลงที่จะหยุดพัก
ใช่
พวกเขาเรียนรู้สิ่งที่ดาร์กสอนมา!
…
เสียงฝีเท้าเดียวก้องกังวานในทางเดิน
เวอร์เธอร์ดึงการ์ด [ความรักต้องห้าม] ออกมาและถ่ายเทพลังเวทมนตร์ลงไปเล็กน้อย หมอกสีชมพูกระจายออกบนพื้นผิวของการ์ดและค่อย ๆ กลายเป็นร่างมนุษย์ที่รางเลือน
เขาไม่ได้ลืมเป้าหมายเล็ก ๆ ของเขา นั่นคือเหนือกว่าดาร์ก!
เพื่อการนั้น วิธีการแบบเดิมดูเหมือนจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป และวิธีเดียวที่จะทำได้คือการหาวิธีอื่น
ตามการนำทางของหมอกสีชมพู เวอร์เธอร์ก็มาถึงวิหารเล็ก ๆ ที่เขาเคยมาเมื่อคืนนี้อีกครั้ง
กลุ่ม ‘ช่าง’ ที่กำลังโห่ร้องทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่นี่
เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง และยืนยันว่าไม่มีใครซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องเหมือนเมื่อคืนนี้ ถึงค่อยเดินมายืนอยู่หน้ารูปปั้น
ผิวของรูปปั้นเทพธิดานั้นละเอียดอ่อนขึ้นเรื่อย ๆ และใบหน้าที่บอบบางก็มีรัศมีที่นุ่มนวลราวกับสามารถลืมตาได้ตลอดเวลา
เวอร์เธอร์ดึงหนังสือ ‘วันวาน’ ออกจากกระเป๋าสะพายซึ่งเขายืมมาจากโรเบิร์ตเมื่อบ่ายนี้ จากนั้นจึงมองดูใบหน้าของรูปปั้นอย่างระมัดระวัง
‘วันวาน’ เป็นบันทึกเกี่ยวกับเทพเจ้าที่ครองโลกในอดีต
พวกเขาปรากฏตัวขึ้นเมื่อห้ายุคก่อนหน้าเป็นอย่างน้อย โดยเดินทางมาจากดวงดาวและมุ่งสู่ห้วงลึก ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยยิ่งใหญ่ และเคยปกครองอาณาจักรทั้งหมด… จนกระทั่งพวกเขาถูกลืมไปตามกาลเวลาแห่งประวัติศาสตร์ อีกทั้งพวกเขายังเป็นผู้ปกครองเก่าที่ถูกฝังอยู่ใต้ธุลีแห่งบรรพกาล!
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ดวงตาของเวอร์เธอร์ฉายประกายแห่งความสุข
เขาพบเทพธิดาที่มีใบหน้าคล้ายกับรูปปั้น
‘นางเกิดบนดวงจันทร์และลงมายังโลก ทั้งยังเป็นถึงเทพธิดาแห่งจันทราและมารดรแห่งผืนพิภพ ความสามารถของนางครอบคลุมทั้งการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตและมีนิสัยรู้คุณของแผ่นดิน นอกจากนี้นางยังเป็นเทพธิดาที่สวยที่สุด เจ้าแห่งอนธการ ความงามของนางเป็นนิรันดร์ และศักดิ์สิทธิ์ นางดูแลความอุดมสมบูรณ์และความรัก…’