จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่ 73 ดาร์ก เดม่อนต้องตาตะขอแห่งโชคชะตา

บทที่ 73 ดาร์ก เดม่อนต้องตาตะขอแห่งโชคชะตา

เวอร์เธอร์ กาวด์โชคดีมากที่เขามาช้าเพราะเจ็บก้นอยู่

เดิมที เด็กชายคิดว่าเหล่าสมาชิกภาคีจะไม่มารวมตัวกันในคืนนี้หลังจากชุมนุมกันไปแล้วเมื่อคืน เพราะงั้นเขาจึงอยากจะมาดูว่ารูปปั้นของเทพธิดาได้ถูกชายชุดดำเมื่อคืนทำลายไปหรือไม่

แต่ดูจะเกินกว่าที่คาดไว้ เพราะไม่เพียงแต่สมาชิกของภาคีเท่านั้นที่มา มันยังมีพวกเขาอีกหลายคนอยู่ด้วย

ด้วยท่าทางนอบน้อมและก้มกราบของพวกเขาซึ่งดูถ่อมตัวมาก ได้ขับประกายความศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาออกมา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวอร์เธอร์ได้เห็นการรวมตัวของพวกเขา

แต่เด็กชายมักจะรู้สึกว่าตัวเขาไม่เหมือนกับพวกสมาชิกภาคี

มันคือความแตกต่างทางลำดับชั้น

สิ่งนี้ทำให้เวอร์เธอร์รู้สึกว่าเขาเป็นคนพิเศษ

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาอยู่ต่อ

จากมุมมองของเวอร์เธอร์ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นดวงตาของเทพธิดาได้ แต่ในใจกลับรู้สึกว่ารูปปั้นเทพธิดานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น

เขาถอยกลับไปอย่างเงียบ ๆ

แม้จำนวนรอยแตกร้าวบนรูปปั้นเทพธิดาจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมี ‘ช่างฝีมือ’ คอยซ่อมแซมนางอยู่

เขาไม่จำเป็นต้องกังวลไป

บรรยากาศในสถาบันเซนต์แมเรียนนั้นรื่นเริงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เพราะข่าวที่ว่าเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรกำลังจะเสด็จมาเข้าร่วมงานวันฮาโลวีนได้แพร่กระจายออกไปราวกับไฟป่า ทำให้เกิดเป็นกระแสต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ

นักเรียนของสถาบันจึงตื่นเต้นกันไม่หยุด

นี่ไม่ใช่แค่นักเรียนปีหนึ่งเท่านั้น

แต่เป็นทั้งปราสาทที่กำลังเดือดพล่านไปด้วยความตื่นเต้น

เจ้าหญิงคนโต เอลิซา พระองค์เป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์ที่ทรงอำนาจที่สุดเช่นเดียวกับเจ้าชาย ทำให้มีผู้คนมากมายชื่นชมในรูปลักษณ์และคุณธรรมของเธอ

ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า เด็กผู้ชายมากกว่าครึ่งในปราสาทต่างก็ชื่นชมเธอ

แน่นอนว่าความชื่นชมและความรักนั้นไม่เหมือนกัน

กำหนดการเข้าร่วมของเจ้าหญิงได้ยกระดับงานเฉลิมฉลองวันฮาโลวีนโดยตรงจนพุ่งสูงขึ้น

นักเรียนที่ถือว่างานนี้เป็นงานที่มีเพียงปีละครั้ง ก็เริ่มคิดว่ามันน่าสนใจขึ้นมา

เด็กผู้ชายอยากแต่งตัวให้เป็นทางการและหล่อเหลามากขึ้น

สาว ๆ ก็ต้องการทำให้ตัวเองดูสวยขึ้น จะดีที่สุดถ้าพวกเธอสามารถจัดเต็มคอสตูมประชันกับเจ้าหญิงได้!

เพราะนี่คือปาร์ตี้คอสตูม หรือจะเรียกอีกนัยหนึ่งว่า งานเลี้ยงเต้นรำใต้หน้ากากก็ได้ ด้วยมันเป็นงานเลี้ยงที่มีความพิเศษ ดังนั้น แม้แต่คนทั่วไปก็สามารถสวมชุดเจ้าหญิงได้โดยไม่ถูกผู้อื่นเหยียดหยาม

แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนอยากเป็นเจ้าหญิง

ยิ่งไปกว่านั้น งานครั้งนี้จะมีเจ้าหญิงตัวจริงอยู่ร่วมในปาร์ตี้ด้วย!

“เด็กชะมัด!”

เอ็มม่าพึมพำขณะเลือกกิ๊บติดผมที่น่ารักน่าใส่อย่างระมัดระวัง

ว่ากันว่าร้านเสริมสวยที่เปิดโดยเอลฟ์มีสารสกัดจากพืชซึ่งสามารถยืดผมได้ชั่วคราว

เธอไม่ได้ไม่ชอบผมนุ่มฟูของตัวเอง แต่บางครั้งก็มีการอยากลองสไตล์อื่นบ้าง

วันศุกร์สัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม

จอมเวทฝึกหัดต่างมีคะแนนกันมากขึ้นแล้ว และในขณะเดียวกัน พวกเขายังมีข้ออ้างอย่าง ‘เตรียมวัตถุดิบหลักสำหรับทำการ์ดวิญญาณ’ ด้วย ดังนั้นถนนนักเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์นี้จึงคึกคักเป็นอย่างมาก ถึงกับบอกได้ว่า คุณสามารถเห็นนักเรียนปีหนึ่งได้อยู่ทุกที่

ในที่สุดก้นของเวอร์เธอร์ก็หายเจ็บ ตอนนี้เขากับโรเบิร์ตกำลังซื้อของด้วยกันใน ‘ร้านสิบคะแนน’ โดยหวังว่าจะได้วัตถุดิบราคาถูกแต่ของพิเศษ

เวอร์เธอร์ถูกหักคะแนนห้าสิบคะแนนจากการใช้ [ความรักต้องห้าม] กับศาสตราจารย์เคเซอร์

และถึงแม้ว่าโรเบิร์ตจะเป็นเหยื่อในคืนนั้น แต่เขาก็ยังโดนหักสิบคะแนน โทษฐานอยู่นอกหอพักในยามวิกาล…

เขาบ่นว่าศาสตราจารย์ซิลเวอร์ใจดำจริง ๆ และซิสเตอร์คาไลด์ใจดีกว่ามาก

ในขณะเดียวกัน

ดาร์กก็มาที่ถนนนักเดินทางเช่นกัน

เขาซื้อของบางอย่างที่หญ้าแมวชอบ และคิดเกี่ยวกับวัถตุดิบที่จะใช้ขัดเกลาการ์ดวิญญาณในคาบวิชาเวทมนตร์ของวันจันทร์ที่จะถึง

เด็กชายเบื่อที่จะใช้ขนหญ้าของแมวเป็นวัตถุดิบแล้ว เขาต้องการลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง

ตัวอย่างเช่น ขนหนูกับไม้ฟ้าผ่ารวมกัน?

เขาได้ยินมาว่า มันมีสปิริตชื่อหนูสายฟ้าอยู่ แม้ว่าจะแค่สองดาว แต่มันกลับมีความรวดเร็วมาก เหมาะสำหรับถือลูกบอลเวทมนตร์เพื่อหลบเลี่ยงการถูกโจมตีในการแข่งประลอง

สำหรับจอมเวทฝึกหัดที่ไม่สามารถใช้พลังเวทมนตร์ควบคุมลูกบอลเวทมนตร์ในอากาศได้ นี่คือสปิริตที่คุ้มค่าคุ้มราคากับพวกเขามาก

นอกจากนี้ การผสมผสานกิ้งก่าเปลี่ยนสีและเห็ดร่มโปร่งแสงก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน ว่ากันว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่จะขัดเกลาสปิริตที่มีสกิลพรางตัวได้!

สปิริตเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ย่อมเป็นสิ่งที่จอมเวทฝึกหัดผู้ไม่พร้อมจะโต้กลับของฝ่ายตรงข้ามกลัวมากที่สุด

ด้วยอัตราของจำนวนการ์ดเวทมนตร์ที่เพิ่มขึ้น จึงมีแนวโน้มว่าก่อนวันฮาโลวีน จะมีนักเรียนชั้นปีหนึ่งบางคนได้สิทธิ์เข้าร่วมชมรมการประลอง

การเข้าร่วมการแข่งขันประลองเวทมนตร์เป็นวิธีหลักในการหาคะแนนเพิ่ม

ดาร์กกำลังเตรียมการสำหรับเรื่องนี้อยู่แล้ว

เขาหวังจะมีการ์ดวิญญาณขั้นที่สอง (4-6 ดาว) ก่อนหน้านั้นด้วย

แม้ว่าการใช้การ์ด [ราคะ III] จะทำให้อีบุยวิวัฒนาการเป็นแบล็คบุยสี่ดาวได้ แต่ ‘การไม่เชื่อฟัง’ เจ้านายนั้นร้ายแรงเกินไป ทำให้ไม่สามารถใช้ในเกมปกติได้

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมหาบาปของ ‘เทพธิดา’ แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าของตัวเขาเอง

ดาร์กก้าวเข้าไปในร้านขายวัตถุดิบ

ร้านขายวัตถุดิบที่ชื่อว่า ‘ร้านนักเดินทางสายลม’ เป็นร้านค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักเรียนอายุน้อยบนถนนนักเดินทาง

นักเรียนสองชั้นปีแรกมีคะแนนแค่เล็กน้อยเท่านั้น พวกเขาจึงต้องการร้านค้าประเภทนี้เพราะราคาของไม่แพงมากเกินไป

ดาร์กมองดูกิ้งก่าแห้ง หนูแห้ง ตะขาบแห้ง แมงป่องแห้ง… เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพ่อมด

วัตถุดิบธรรมดาบางอย่างเหล่านี้ต้องการคะแนนเพียงไม่กี่คะแนน และวัตถุดิบที่แพงที่สุดก็ไม่เกินหนึ่งร้อยคะแนน

เด็กชายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อกระดองเต่าสีดำอายุหนึ่งร้อยปีมาพร้อมกับเศษเกราะเวทมนตร์จำนวนหนึ่ง

แต่เขาจะใช้มันหรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่อง

ภายใต้กรณีที่ว่าแบล็คบุยไม่สามารถอัญเชิญได้ เขาก็ต้องการการ์ดวิญญาณที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสำหรับบางกลยุทธ์

เช่น [สัตว์อสูรมายา: ปราสาท] ของโรเบิร์ตก็เป็นตัวอย่างที่ดี

→ และคงจะดีถ้ามันมีดาวมากกว่านี้

จากนั้นเขาก็ได้รับการ์ดดอกไม้จากเจ้าของร้านนักเดินทางสายลมอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งการจะได้รับมันก็ต่อเมื่อมีคนใช้จ่ายเกินหนึ่งร้อยคะแนน

ดูเหมือนว่า…

ร้านค้าบนถนนนักเดินทางจะแจกการ์ดดอกไม้อีกแล้วเหรอ?

แม้ว่าดาร์กจะไม่รู้สาเหตุ แต่นี่เป็นข่าวดีอย่างไม่ต้องสงสัย

เด็กชายเริ่มมีแรงจูงใจในทันที และความกระตือรือร้นในการจับจ่ายของเขาก็เพิ่มขึ้น

ร้านขนม ร้านดอกไม้ ร้านเครื่องประดับ ร้านเสื้อผ้า…

ดาร์กแวะเยี่ยมชมร้านค้าเกือบครึ่งบนถนนนักเดินทาง ก่อนที่เขาจะรู้ตัว

เด็กชายมองดูการ์ดดอกไม้แจกฟรีทั้งแปดใบในมือของเขาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ยามพระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยไปทางทิศตะวันตก เมฆาสีชาดเริ่มเข้าปกคลุมท้องนภา

แสงไฟหลากสีสว่างไสวไปตามถนนนักเดินทาง

ดาร์กมาหยุดอยู่หน้าร้านขายของโบราณร้านหนึ่ง ของโบราณบนแผงขายดึงดูดสายตาของเขาไว้ จนไม่อาจละสายตาและหันหลังจากไปได้

บังเอิญว่าดาร์กได้เห็นรูปร่างหน้าตาของโบราณวัตถุนี้จากหนังสือ ตอนที่เขากำลังหาวิธียับยั้งมหาบาปทั้งเจ็ดประการ

มันคือตะขอแห่งโชคชะตา!

ตามตำนานเล่าว่าในยุคโบราณ พระเจ้าจะทรงหย่อนสายเบ็ดจากฟากฟ้า โดยมีตะขอแห่งโชคชะตาแขวนอยู่บนสายเบ็ดนั้น

พระเจ้าเป็นนักตกปลา มนุษย์เป็นปลา และมนุษย์ที่ถูกตะขอเกี่ยวไว้จะถูกดึงไปบนสวรรค์

แม้ว่าบรรทัดสุดท้ายในหนังสือจะบอกว่า ‘เมื่อวิญญาณถูกเกี่ยวไป มันก็จะถูกนำขึ้นไปยังสรวงสวรรค์’

อย่างไรก็ตาม ดาร์กมีความประทับใจต่อตะขอนี้

นอกจากคราบสนิม รูปร่างของตะขอเกี่ยวนี้เหมือนกับที่บันทึกไว้ในหนังสือทุกประการ

แน่นอนว่ามีของเลียนแบบที่คล้ายกันมากมายในร้านขายของโบราณนี้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะได้มาโดยอาศัยความรู้เพียงเล็กน้อยจากหนังสือ

เขาแค่รู้สึกว่าสิ่งนี้มีค่ามากแม้ว่าจะเป็นของเลียนแบบก็ตาม

“เจ้าหนู เธอชอบอะไรล่ะ?”

ชายชราผู้มีรอยย่นบนหน้าเดินออกจากร้านขายของโบราณที่มืดสลัว ท่าทางของเขาดูใจดีมาก

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset