บทที่ 92 เจ้าหญิงทั้งสามเข้าร่วมสมรภูมิ
บทที่ 92 เจ้าหญิงทั้งสามเข้าร่วมสมรภูมิ
ปราสาทของเซนต์แมเรียนมีเก้าชั้น ไม่นับห้องใต้ดินที่ไม่มีใครรู้จัก พื้นที่ที่นักเรียนใช้เป็นชั้นเรียนนั้นเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น
แม้แต่ผู้ที่เรียนจบไปแล้ว ซึ่งเคยได้อยู่ในปราสาทแห่งนี้เป็นเวลานานถึงหกปีเต็ม ก็มีเพียงจำนวนน้อยนิดที่สามารถสำรวจพื้นที่ได้จนทั่ว
หากไม่มีกิจกรรมอย่างงานเลี้ยงสวมหน้ากาก จำนวนนี้ก็น่าจะยิ่งน้อยลงไปอีก
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการสำรวจพื้นที่
…
ในขณะเดียวกันกับที่นักเรียนหลั่งไหลเข้าไปในปราสาท เจ้าหญิงทั้งสามแห่งอาณาจักรก็ก้าวเข้ามาในปราสาท พร้อมด้วยอาจารย์ใหญ่อาร์เต้ด้วย
เจ้าหญิงคนโต ‘เอลิซา’
เจ้าหญิงคนรองคือ ‘แอนนา’ ซึ่งเกิดเร็วกว่าน้องสาว ‘แองจี้’ เจ้าหญิงคนสุดท้องสามวินาที
เจ้าหญิงทั้งสามเริ่มสวมชุดและปกปิดใบหน้าของตนเอง
อาจารย์ใหญ่อาร์เต้กล่าวว่า “พวกเธอไม่ต้องการให้ฉันไปด้วยจริง ๆ เหรอ?”
เจ้าหญิงเอลิซาพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่ฉันจะได้พักผ่อน ฉันชอบอยู่คนเดียว หากเป็นไปได้ ฉันอยากจะขอให้อาจารย์ใหญ่ดูแลน้องสาวสุดแสบของฉันสองคนด้วย”
แองจี้ที่พยายามจะสวมชุดหมี เงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างโกรธเคือง “พี่ใหญ่ พี่สัญญากับฉันแล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับคนนอก!”
เจ้าหญิงเอลิซายื่นมือออกไปบีบแก้มเด็กตรงหน้า แววตาตำหนิส่งไปยังน้องสาวตัวน้อย “อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ไม่ใช่คนนอก”
แองจี้ยังคงทำแก้มป่อง
แอนนาที่ยืนอยู่ข้างแองจี้ จู่ ๆ ก็เอื้อมมือมาจิ้มแก้มเธอด้วย ทั้งยังยิ้มอย่างร่าเริง “โอ๋ ๆ นะน้องสาวแสนซนของฉัน!!”
แองจี้พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เธอต่างหากที่เป็นน้องสาว!”
แอนนาเชิดหน้ามองราวกับหงส์ขาว “ฉันเป็นพี่สาว เพราะงั้นฉันจะไม่เถียงกับน้องสาว”
ขณะที่เล่นกันอยู่ เจ้าหญิงแอนนาก็หันกลับมาถาม “จะว่าไป ป้าซินเทียคะ เจ้าตัวน่ารำคาญดาร์ก เดม่อนนั่นอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”
อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ยิ้มอย่างนุ่มนวล “ใช่แล้ว เขาเพิ่งเข้าเรียนในปีนี้ และปีหน้าเขาจะกลายเป็นรุ่นพี่ของเธอ”
“ถามจริง?” เจ้าหญิงแอนนาดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างและพูดอย่างแข็งกร้าวว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่เข้าเรียนปีหน้าได้ไหม?”
เอลิซาดีดหน้าผากเธอ “ตลกแล้ว เธอบอกเองว่าอยากเรียนสถาบันเดียวกับฉันไม่ใช่เหรอ?”
แอนนา “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว โอ๊ย!”
“ฮ่า ๆๆ เด็กน้อย ห่วงแต่ตัวเอง!”
แองจี้ก็ดีดหน้าผากของแอนนาด้วย เธอใส่ชุดแล้วรีบวิ่งหนีไป
แอนนารีบวิ่งไปจับเธอทันที
เอลิซาหันไปมองไปที่อาร์เต้อย่างรวดเร็ว “อาจารย์ใหญ่คะ”
อาจารย์ใหญ่อาร์เต้พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นวิญญาณเล็ก ๆ สองดวงที่ถือการ์ดคัดสรรก็บินออกจากตัวเธอ และตามแอนนากับแองจี้ไปอย่างรวดเร็ว
เอลิซาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วหันกลับมาสวมหน้ากากอันประณีตที่เผยให้เห็นเพียงจมูกและปากของเธอเท่านั้น “อาจารย์ใหญ่ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปก่อนนะคะ”
…
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาท บนชั้นสองในเวลานี้
ดาร์กล้มเหลวในการหนีจากไดแอนนาและโรส ดังนั้นเด็กชายจึงทำได้เพียงเดินไปกับพวกเขาสักพัก
นักเรียนชั้นปีที่สองขึ้นไปต่างมีประสบการณ์ และทุกคนก็มีแผนอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นพวกเขาจึงรีบเร่งไปยังทั่วทุกมุมของปราสาท
ส่วนนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งกระจัดกระจายกันอย่างสมบูรณ์
“ดาร์ก เราควรตามพวกเขาไปไหม?”
ไดแอนนาดูวิตกกังวลราวกับเด็กที่กลัวว่าจะมีใครมาขโมยขนมของเธอ
โรสก็มองไปที่ดาร์กเช่นกัน
ดาร์กตบหน้าผากตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าเขาจำเป็นจะต้องอยู่กับพวกเธอไปอีกสักพักจริง ๆ
ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างอดทนว่า “ไม่ต้องห่วง ศาสตราจารย์ต้องเตรียมผีไว้ให้เพียงพออยู่แล้ว ในตอนต้นของงานเลี้ยง แม้ว่าเธอจะไม่ตามหาพวกมัน พวกมันก็จะมาหาเธอเอง”
ขณะที่พูด เขาก็ชี้ขึ้นไปยังเหนือหัวของตนเอง
ไดแอนนาเงยหน้าขึ้นและทันใดนั้นก็เห็นผีที่มีคอยาวมากห้อยลงมาจากเพดาน!
“ว้าว~”
“กรี๊ด!”
ไดแอนนาดึงการ์ดเวทมนตร์และอัญเชิญ [สัตว์อสูรมายา: หมีขั้วโลก] ออกมาทันที
หมีขั้วโลกปรากฏตัวในแสงสีขาว มันลุกขึ้นและกระโจนไปคว้าผีทันที!
โรสกรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะคว้าแขนของดาร์กไว้โดยไม่รู้ตัว
ไดแอนนาเห็นแล้วก็คว้าแขนอีกข้างของดาร์กไว้ด้วย
ดาร์กที่ถูกจับแขนทั้งสองข้างไว้ ได้แต่มองอุ้งเท้าหมีขั้วโลกทะลุผ่านร่างของผีไปอย่างทำอะไรไม่ได้ ผีตอบโต้โดยการแลบลิ้นยาวสีแดงเลือดของมันออกมา แล้วเลียหลังคอของหมีขั้วโลก
หมีขั้วโลกพลันตัวสั่นสะท้าน มันโกรธจัด!
“เคี้ยก ๆๆๆ!”
เจ้าผีหัวเราะเยาะและหยอกล้อหมีขั้วโลกด้วยลิ้นของมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และหมีขั้วโลกก็กลายเป็นเหมือนลูกแมวที่วิ่งไล่ผีเสื้อ…
ประสิทธิภาพการโจมตีทางกายภาพของหมีขั้วโลกที่มีต่อผีนั้นต่ำมาก
แม้ว่าจะเป็นเพียงผีระดับหนึ่งดาว แต่หมีขั้วโลกก็ยังมีปัญหาในการจัดการกับมัน ท้ายที่สุด โรสก็รวบรวมความกล้าและอัญเชิญ [สัตว์อสูรมายา: กระต่ายหิมะ] ออกมา และในที่สุดเธอก็ส่งผีขึ้นสวรรค์ด้วยหมอกเย็นยะเยือก
เมื่อผีหายไป ลูกอมก็ตกลงมาทันที
ในที่สุดดาร์กก็ถูกปล่อย เขาก้มลงหยิบขนมบนพื้นและเริ่มลอกกระดาษห่อขนม
ตัวขนมดูเหมือนลูกอมธรรมดามาก แต่กระดาษห่อขนมกลับถูกแกะสลักด้วยเส้นละเอียด
ดาร์กตระหนักได้ทันที “อย่างนี้นี่เอง!”
ไดแอนนาสังเกตเห็นความสุขบนใบหน้าของดาร์ก จึงถามเขาด้วยความสงสัย “ดาร์ก นายเจออะไรเหรอ?”
เดิมทีดาร์กต้องการทิ้งลูกอมไป แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นไดแอนนามองมาที่เขาอย่างตั้งใจ เด็กชายจึงเก็บกระดาษห่อลูกอมไว้แล้วส่งลูกอมให้อีกฝ่ายแทน
ไดแอนนากินลูกอมในคำเดียว
ดาร์กดึงกระดาษห่อลูกอมออกมาสังเกตอย่างละเอียด
“มันเป็นการ์ดเวทมนตร์แบบใช้ครั้งเดียว ดูท่าว่าน่าจะใส่พลังเวทไว้ล่วงหน้า และให้มันอยู่ได้จนถึงเที่ยงคืน”
ดาร์กสนใจงานฝีมือชิ้นนี้มาก เขาเก็บกระดาษห่อขนมไว้อย่างระมัดระวัง
“ไปต่อกันเถอะ”
…
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ทั้งสามคนก็เดินไปจนสุดทางเดินบนชั้นสอง
ดาร์กเอื้อมมือไปเช็ดครีมที่มุมปากของไดแอนนา แล้วใส่กระดาษห่อที่สิบสามลงในกระเป๋าของเขา
ผีที่พวกเขาพบระหว่างทางส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่หนึ่งดาวหรือสองดาวเท่านั้น บ้างก็มีลูกอมตกออกมา บ้างก็มีแอปเปิ้ลแคนดี้ บ้างก็เป็นพายฟักทองชิ้นเล็ก ๆ… แต่ทั้งหมดนั้นล้วนบรรจุอยู่ในกระดาษห่อเป็นอย่างดี
“เป็นงานเลี้ยงขนมหวานที่วิเศษจริง ๆ”
หลังจากที่ดาร์กจัดการพายฟักทองชิ้นสุดท้ายเสร็จแล้ว เขาก็บอกไดแอนนาและโรสว่า “เดี๋ยวหลังจากนี้แยกย้ายกันไปนะ อืม เราจะมาพบกันอีกครั้งที่โถงทางเข้าชั้นหนึ่งในอีกห้าชั่วโมงแล้วกัน”
ไดแอนนาพูดอย่างเชื่อฟังว่า “อืม งั้นเจอกันที่งานเต้นรำนะ!”
โรสยิ้มให้ “ไม่ต้องห่วงพวกเรานะ”
ในช่วงครึ่งชั่วโมงที่แล้วดาร์กไม่ได้ทำอะไรเลย เขาแค่บอกให้ไดแอนนากับโรสร่วมมือกันล่าผีเท่านั้น
ทั้งสองคนจึงติดอันดับของบ้านขุนนางปีหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังติดอยู่ในสิบสองอันดับแรกอีกด้วย
ดูเหมือนว่าต่อให้พวกเขาจะจัดการแค่ผีระดับต่ำ แต่พวกเขาก็ยังก้าวหน้าเร็วกว่าคนจำนวนมาก
ส่วนตัวดาร์กเองนั้น ถึงตอนนี้ก็ยัง +0
…
แม้ว่าดาร์กจะไม่สนใจ แต่ที่มุมหนึ่งของปราสาท ดูเหมือนว่าจะมีคนให้ความสนใจกับอันดับของเขาอยู่เสมอ
เวอร์เธอร์อยู่ในอันดับที่สามของบ้านอัศวินปีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีชื่อของดาร์กในอันดับของบ้านขุนนางปีหนึ่ง เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้
“เราทำได้ โรเบิร์ต!”
“ใช่แล้ว!”