จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 109
“เฮ้อ…”
“ยอดเยี่ยม ช่างน่าประทับใจอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ”
“เจ้าหนูตระกูลฉินกลับบ่มเพาะเคล็ดวิชาปีศาจ ทั้งยังเป็นถึงปีศาจโบราณอย่างปีศาจสวรรค์ น่ากลัวเกินไปแล้ว”
หลูตงไห่ตื่นเต้นยินดีจนเผลอปลดปล่อยกลิ่นอายอันแข็งแกร่งออกมา เขาพลุ่งพล่านใจเกินไป มีชีวิตอยู่มาเกินร้อยปี ไม่เคยมีใครทําให้เขารู้สึกพลุ่งพล่านใจได้ถึงขนาดนี้มาก่อน ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มตื่นเต้น จิตต่อสู้ลุกโชนขึ้นมา
จักรพรรดิหลึกงที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว กลิ่นอายที่หลุดรอดอออกมาของหลูตงไห่ทําให้เขาเข้าใจได้ว่าหากว่าฉันเทียนได้รับบาดเจ็บ หลูตงไห่จะยื่นมือเข้าช่วยทันที
หากแต่นี่จะเป็นกลายเป็นภัยแฝงต่ออาณาจักรต้าหลี่หรือไม่?
“บรรพชนตระกูลหยางตื่นขึ้นแล้ว”
คําพูดที่กล่าวขึ้นของจ้าวฉางชิงทําให้หลูตงไห่ถึงกับชะงักค้าง แววตาของเขาเปลี่ยนไปขณะที่ พึมพําออกมาดังคาด”
“เจ้าหนูตระกูลฉินนั่นตกอยู่ในอันตรายแล้ว!”
ฉินเทียนสัมผัสได้ถึงดวงตาคู่หนึ่งที่จับจ้องมองมา กระทั่งใช้กลิ่นอายนักล่าแล้วก็ยังหาตัวเจ้า ของดวงตาคู่นี้ไม่ได้ ฉุนเทียนตกใจ แต่ไม่ช้าก็ดึงสติกลับมา สิ่งที่เขาต้องทําเป็นอันดับแรกก็คือปลิดชีพหยางฮงก่อน
” พร้อมหรือยัง?”
ฉินเทียนเอ่ยถาม ตัวอ่อนปีศาจก็ผงกศีรษะ
คลื่นพลังมังกรคชสารชาระล้างแผ่พุ่งออก ครั้งนี้เขาจะต้องฆ่าหยางฮงให้จงได้ มิเช่นนั้นการฟื้นฟูพลังปราณภายในร่างคงแบกรับภาระจํายออกไม่ไหว ไม่ว่าทักษะจะทรงพลานุภาพอย่างไร หากไม่มีพลังปราณคอยเกื้อหนุน มันก็กลายเป็นไร้ค่า
“ไม่เจียมตัว!”
เห็นฉินเทียนพุ่งเข้ามาอีกคํารบ หยางฮงก็คําราม ปราณเพลิงทมิฬโหมกระพือทั่วแผ่นฟ้า ในใจสุมไว้ด้วยเพลิงโทสะ สภาพจิตใจของหยางฮงในตอนนี้กลายเป็นปั่นปวนยุ่งเหยิง
เพลิงโทสะที่ล้นเหลือได้ครอบงําจนทําให้จิตใจไม่สงบ
และนี่ก็คือโอกาสที่ฉินเทียนเฝ้ารอคอย
“ลุย”
“ตายซะ!”
เปรี้ยง
พลังมังกรคชสารชําระล้างและปราณเพลิงทมิฬพุ่งเข้าปะทะกัน ก่อเกิดเป็นเสียงดังปานฟ้าผ่า ดังกึกก้อง แรงกระแทกจากการปะทะของพลังทั้งสองขุมได้สาดซัดจนสิ่งก่อสร้างภายในเมืองข อบนภาพังทลายกลายเป็นซาก หากยังมีแรงกระแทกเช่นนี้อีก อีกไม่นานเมืองขอบนภาคงหลงเหลรือเพียงแต่ชื่อ กลายเป็นซากเมืองอย่างแท้จริง
เรื่องที่หยางหลินหวั่นเกรงได้เกิดขึ้นแล้ว
มีผู้คนรับเคราะห์เกินหนึ่งล้าน และตระกูลหยางก็คงไม่พ้นถูกผู้คนก่นด่าสาปแช่ง แน่นอนแล้วว่าเมืองขอบนภาจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากมวลชน ทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบยังจะลุกฮือ เรียก ได้ว่าอาณาจักรต้าหลีไม่แม้แต่จะต้องสูญเสียกําลังพลสักนายในการยึดคืนดินแดนแห่งนี้
ในตอนนี้หยางฮงไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว ในความคิดของเขาเหลืออยู่เพียงอย่างเดียว นั่นก็ การฆ่าฉินเทียน
หยางหลินทําได้เพียงหวังให้บิดาสังหารฉินเทียนโดดยเร็วที่สุด พ่อปลุกขวัญกําลังใจคนของพวกเขา
แต่ความหวังนั้นเกิดได้เพียงชั่ววูบก็ดับมอดลง
หลังจากประลองกําลัง ฉินเทียนและหยางฮงก็ต่างคนต่างถอยไปหลายก้าว ฉินเทียนเผยยิ้ม “ได้เวลาแล้ว ”
ตัวอ่อนปีศาจทําหน้าจริงจัง พลังวิญญาณสุดแกร่งแผ่พุ่งจากร่างของฉันเทียนและเจาะทะลวง เข้าไปในจิตใจของหยางฮง
หยางฮงพลันรู้สึกสับสน ร่างกายกลายเป็นไม่อาจขยับเคลื่อนไหว เขาขมวดคิ้วมุ่น เพลิงโทสะ ภายในลุกโหมขึ้นอีกคราจนจิตใจบอบช้ำแทบรับเอาไว้ไม่ไหว
เม็ดเหงื่อผุดขึ้นทั่วร่างของตัวอ่อนปีศาจ
แค่หนึ่งวินาที ฉินเทียนต้องการเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาที หรือน้อยกว่านั้นก็ได้
วินาทีนั้น เงาโลหิตนับพันร่างก็ปรากฏขึ้นก่อนจะมุ่งตรงเข้าสู่ร่างของหยางฮง….
ไม่ถึงครึ่งลมหายใจ เงาโลหิตทั้งหมดก็เข้าสู่ร่างหยางฮงได้สําเร็จ
ตัวอ่อนปีศาจรู้สึกราวกับร่างกายกําลังพังทลาย จิตใจของมันเริ่มรู้สึกเลื่อนลอยอ่อนล้า แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น มันได้บรรลุหน้าที่ของมันแล้ว ใช้ทักษะควบคุมชั้นสูงจัดการจนหยางฮงขยับตัวไม่
สําหรับฉินเทียน หนึ่งวินาทีนี้ก็เพียงพอแล้ว
“ฮ่าๆ..” ฉุนเทียนหัวเราะดีใจ “เตรียมตัวรับความตายเถอะ!”
หยางฮงหน้าซีดเผือด วินาทีที่เงาโลหิตมากมายพุ่งเข้าสู่ร่าง หยางฮงก็จบสิ้นแล้ว หยางฮงมั่นใจว่าฉันเทียนจะต้องใช้สมบัติประเภทควบคุมจิตใจเป็นแน่ เมื่อมีเงาโลหิตอยู่ในร่างกายนับพันร่าง หยางฮงก็จินตนาการถึงตอนที่มันระเบิดออก “ไอ้สารเลว ไอ้หน้าไม่อาย!”
จิตสังหารพุ่งทะยานเทียมฟ้า
ฉินเทียนแสยะยิ้มเย็นราวมัจจุราช “ระเบิด!”
เงาโลหิตนับพันที่กักเก็บพลังชั่วร้ายของปีศาจสวรรค์พลันระเบิดพลังออกทั้งหมด เจอกับกระ บวนท่านี้ไม่ว่าผู้ใดก็ยากที่จะรอด ต่อให้เป็นหยางฮง ฉิยเทียนก็มั่นใจมากว่าอีกฝ่ายจะตายจนไม่รู้จะตายยังไง
ยิ้ม………….
ยิ้ม…..
หยางฮงยกมือที่สั่นเทาขึ้นขณะสูดหายใจลึก ปราณเพลิงทมิฬถูกดึงกลับเข้าร่างจนคนกลาย สภาพเป็นเตาหลอมขนาดใหญ่ เตาหลอมนั้นขยายตัวออกทุกครั้งที่เกิดการระเบิด ก่อนที่สุดท้ายจะมีหยาดโลหิตไหลซึมออกมา
ฉินเทียนตกตะลึง ระดับเก้าช่วงปลายขั้นกลั่นวิญญาณนี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ ถึงกับรีดเค้นพลัง ของสมบัติระดับต่ำออกมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า
แต่ฉินเทียนย่อมไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายรอดชีวิตไปได้
มีสมบัติระดับอมตะแล้วอย่างไร?
บิดาไม่เชื่อว่าเจ้าจะมีชีวิตรอด!
เสียงระเบิดจากการระเบิดของเงาโลหิตยังดังให้ได้ยินอย่างต่อเนื่อง ฉินเทียนรวมรั้งพลังมังกรคชสารชาระล้างไว้ที่ฝ่ามือก่อนจะโจมตีไปยังเตาหลอมนั้น
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง
หลังจากต่อยไปหนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบหมัด พลังหมัดเหล่านี้ต่อยออกด้วยพลังทั้งหมดที่มี เกิดเป็นเสียงแหวกอากาศดังไกลออกไปหลายกิโลเมตร
” พูด.”
หยางฮงย่ำแย่ถึงที่สุด หน้าอกราดรดไปด้วยเลือด ทั้งเงาโลหิตระเบิด ทั้งถูกต่อยอีกหนึ่งพัน แปดร้อยเก้าสิบหมัด หยางฮงย่อมทนไม่ไหวจนกระอักโลหิตออกมา คนกลายเป็นว่าวที่ขาดสาย ป่านลอยลิ่วออกไปกลางอากาศหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ ระเบิดให้กับบิดา!”
กระดูกทั่วร่างของฉันเทียนพลันส่งเสียงดังเกลียวกลาวขณะที่รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า โครตบอสกําลังจะตาย เป็นธรรมดาที่เขาจะตื่นเต้น ของที่ตกคราวนี้ต้องดียิ่งกว่าครั้งไหนๆแน่ คิดได้แบบนี้ ฉินเทียนก็ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆ…………………………………”
ต่อหน้าบอสที่กําลังจะให้ของล้ำค่ามากมายแล้ว เป็นใครก็ต้องดีใจราวถูกหวย
ฉินเทียนดีใจอย่างบ้าคลั่ง ดีใจยิ่งกว่าตอนที่ฆ่าปีศาจเก้าสวรรค์ได้เสียอีก
ระดับเก้าช่วงปลายขั้นกลั่นวิญญาณถูกจัดการโดยตนเอง เรื่องที่น่ายินดีขนาดนี้ ฉินเทียนรู้สึกมีความสุขที่สุดในโลก
ฟุบ
ร่างของฉันเทียนพุ่งออกราวกับลูกธนูที่หลุดจากแล่งก่อเกิดเป็นเสียงฝ่าอากาศดังออกมา
ขณะที่เขาเตรียมจะต่อยหมัดออกนั้นเอง จู่ๆสายลมก็พัดขึ้นอย่างรุนแรง แผ่นดินเกิดการสั่น ไหว ฉินเทียนพลันรู้สึกกดดันถึงที่สุด เขาแอบร้องว่าแย่แล้วในใจ เขาไม่อาจเรียกใช้พลังจนทําให้ร่างกายพลันร่วงลงจากฟ้า
“มังกรคชสารชําระล้าง ปะทุ!..”
“บ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง!”
พลังมังกรคชสารชําระล้างแผ่ออกปกป้องร่าง ในเวลานั้นเอง ฉินเหลียนก็ตะโกนออกมา “บัวศักดิ์สิทธิ์เยียวยา!”
พลังปราณสีรุ้งพลันควบรวมกลายเป็นดอกบัวแปดกลีบตรงเข้าห่อหุ้มร่างของฉันเทียน ฉิน เทียนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ลดลง แต่เขาก็ทําได้เพียงเรียกใช้พลังปกป้องตนเอง ไม่อาจใช้พลังแม้แต่เศษเสี้ยวไปต้านทานแรงกดดันนั้น
“บรรพชนนั้นตื่นขึ้นแล้ว”
หยางซานที่อายุสองร้อยกว่าปีมีดวงตาราวกับสัตว์ป่า แรงกดดันอันไร้ประมาณแผ่กําจายจาก ร่างขณะที่เขากล่าวออกมา “โอหัง!”
ฉันเรียนรู้สึกประหนึ่งมีฟ้าร้องดังกรอกหูจนมึนงง
ตัวตนอันไร้เทียมทาน เจอกับศัตรูระดับนี้ ฉันเทียนรับมือไม่ไหว ต่อหน้าหยางซานแล้ว ตัวเขา ก็ไม่ต่างอะไรจากหนอนแมลง
สําหรับผู้บ่มเพาะขั้นสวรรค์แล้ว ผู้บ่มเพาะที่ขั้นต่ำกว่าก็มีค่าไม่ต่างจากมดปลวก………….