ตอนที่ 34 เม็ดยาสยบ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อฉินเทียนกลับมาที่เหลาฟุหลง มันก็เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว
เมื่อได้เห็นสภาพบ้านที่เก่าโทรมของอวิ๋นม่าน มารดาของนางที่นอนล้มป่วยอยู่บนเตียง ฉินเทียนก็รู้สึกสงสารพวกนางแม่ลูกและคิดหาทางช่วยเหลือพวกนาง พวกนางได้บอกปัดเงินจากเขา หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สิ่งที่เขาสามารถกระทำได้ก็คือ หางานให้กับมารดาของนาง ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นงานจิปาถะอันเรียบง่าย
เมื่อกลับมาที่เหลาฟุหลงแล้ว ฉินเทียนก็มอบหมายให้จางต้าฟู่ไปจัดการเรื่องนี้ ค่าแรงจะต้องไม่แย่และงานจะต้องไม่หนัก ดังนั้นนางเพียงจะต้องคอยล้างจานในยามบ่ายของทุกวัน
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องมารดาของอวิ๋นม่านแล้ว ฉินเทียนก็กลับไปยังลานกว้าง เขาแทบจะทนรอทดสอบการปรุงยาไม่ไหวแล้ว เขาต้องการจะทราบว่าตนจะสามารถสร้างเม็ดยาอะไรได้บ้าง
ฉินเทียนนั่งขัดสมาธิบนม้านั่งหิน หลับตาลงทั้งสองข้าง จากนั้นจึงเรียกใช้ระบบด้วยความคิดและใช้ทักษะ ‘ปรุงยา’
ฉากภายในจิตใจของเขาได้เปลี่ยนไป แสงสีทองได้เปลี่ยนฉากให้กลายเป็นห้องปรุงยา ภายในห้องแห่งนั้นมีกลุ่มไอสีม่วงลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ที่กึ่งกลางของห้องตั้งไว้ด้วยเตาปรุงยาขนาดใหญ่ที่ส่งกลิ่นยาตลบอบอวล
ฉินเทียนไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาหยิบหญ้าวิญญาณออกมาสามต้นคือ ดอกบัวเงิน หญ้าเพลิงครามและหญ้าเฮาเฟิง จากนั้นจึงโยนพวกมันทั้งหมดลงไปในเตาปรุงยา ขณะเดียวกันเสียงของระบบก็ดังขึ้นในใจ
“ต้องการเริ่มการปรุงยาหรือไม่?”
“ตกลง”
“การปรุงยาจะใช้ค่าพลังปราณ 100 จุด”
“มารดามันเถอะ กระทั่งจะปรุงยาก็ยังต้องเสียพลังปราณ…”
ฉินเทียนบ่นอุบ เขาหันไปมองเตาปรุงยาที่มีเปลวเพลิงลุกโหมขึ้น
หนึ่งนาทีผ่านไป เตาปรุงยาก็ยังไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง….
สองนาทีผ่านไป ทมันก็ยังคงเหมือนเดิม….
สามนาทีผ่านไป สองตาของฉินเทียนเริ่มจ้องมองมันเขม็ง…
……………………………..
สิบนาทีผ่านไป เปลวไฟในเตาปรุงยาก็เริ่มอ่อนกำลังลง ระบบพลันส่งเสียง ‘ติ๊ง’
“การปรุงยาล้มเหลว ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?”
“บัดซบ! ข้าต้องเสียเวลาไปสิบนาทีเพื่อรอมันให้มันล้มเหลว?”
ฉินเทียนอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อนึกถึงมัน เขาเปิดดูไปที่ค่าความชำนาญของการปรุงยา มันทำให้ร่างของเขาสั่นเทิ้มทันที ค่าของมันยังคงเป็นศูนย์ นั่นหมายความว่าเขาจะต้องปรุงมันให้สำเร็จจะสามารถเพิ่มค่าความชำนาญได้
ในตอนนี้ฉินเทียนคร้านจะไปสนใจมันแล้ว
เขาหยิบต้นหญ้าวิญญาณออกมาอีกครั้งและหวังว่าโชคจะเข้าข้างเขา…..
สิบนาทีต่อมา เสียงของระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“การปรุงยาล้มเหลว ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?”
หญ้าวิญญาณสลายหายกลายเป็นอากาศธาตุ เขาพลันหยิบหญ้าวิญญาณออกมาอีก
หลังจากผ่านไปสิบนาที เสียงของระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“การปรุงยาล้มเหลว ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?”
“ไอ้บัดซบเอ๊ย! ข้าจะฆ่าเจ้า!…”
………………………..
หลังจากใช้หญ้าวิญญาณไปนับร้อยต้น ต้นหญ้าวิญญาณที่เขามีก็กลายเป็นแห้งเหือด
เหลือบดูหญ้าวิญญาณอีกแปดต้นที่เหลืออยู่ภายในแหวนมิติ เขากัดฟันก่อนจะหยิบพวกมันทั้งหมดใส่ลงไปในเตาทันที
ความล้มเหลวนับสิบครั้งทำให้เขาแทบเสียสติ ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่ประสบความสำเร็จ นี่ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก
แน่นอนว่าค่าพลังปราณนับพันหน่วยของเขาก็สูญสลายไปเช่นเดียวกัน การที่ต้องมาเสียพลังปราณไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับหัวใจกำลังถูกกรีด
ใบหน้าของฉินเทียนกลายเป็นเรียบเฉยขณะที่กำลังคาดเดาผลลัพธ์ เขากล่าวถามระบบ “ล้มเหลว?”
“การปรุงยาสำเร็จ ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่นที่ได้รับเม็ดยาคุณภาพต่ำ 1 เม็ด”
“เป็นความจริง? ข้าไม่ได้ยินอะไรผิดไปใช่หรือไม่? มันสำเร็จแล้ว?”
ฉินเทียนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สองตาของเขาเป็นประกายขณะที่เริ่มหัวเราะออกมา ฉับพลันเขาก็เปิดแหวนมิติขึ้นมา นั่นทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ความตื่นเต้นของเขาล่องลอยไปกับอากาศ เขาพึมพำว่า “เจ้าระบบ…ข้าเกลียดเจ้า…การปรุงยา ข้าเกลียดเจ้า…”
เม็ดยาระดับต่ำ
ค่าพลังปราณ: 1
ค่าพลังชีวิต: 1
รายละเอียด: เม็ดยาหยาบระดับต่ำ จงระวังที่จะใช้มัน ยาเม็ดนี้มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดความผิดปกติ…
เหม่อมองเม็ดยาที่มีสีดำราวกับถ่าน ฉินเทียนกลายเป็นสงสัยว่าเขาเป็นผู้ส้รางสิ่งนี้ขึ้นมาแน่หรือ แม้ว่ามันจะช่วยเพิ่มพลังปราณและพลังชีวิตให้ต่ำมาก มันก็ยังไม่สำคัญนัก แต่เป็นในส่วนที่ตามมา ผู้ที่กินมันเข้าไปจะมีโอกาสสูงที่จะติดสถานะผิดปกติ?
“ข้าทำอะไรผิดไปงั้นหรือ? ไฉนเม็ดยาที่ข้าสร้างจึงกลายเป็นเช่นนี้ไป?”
ฉินเทียนขุ่นเคืองอย่างยิ่ง เขาเรียกคืนสติกลับมาสู่ภายนอก จากนั้นจึงหยิบเม็ดยานั้นออกมาและตะโกนว่า “จางต้าฟู่!….”
“มาดูกันว่ามันจะสร้างสถานะผิดปกติอะไร…”
“ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอยู่แล้ว”
“มันจะทำอะไรได้บ้าง”
ฉินเทียนต้องการใครสักคนมาเป็นหนูลองยานี้ และแน่นอนว่าตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจของเขาย่อมต้องเป็นจางต้าฟู่
จางต้าฟู่รีบวิ่งมายังลานกว้างด้วยความวิตก เมื่อเห็นฉินเทียนที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าแล้ว มันก็รีบกล่าวว่า “นายน้อย ข้ามีข่าวร้ายขอรับ จ้าวเจียงหนานแห่งตระกูลจ้าวได้มาที่นี่แล้ว”
“จ้าวเจียงหนาน?” ฉินเทียนขมวดคิ้วและเริ่มคิดว่ามันเป็นใคร จางต้าฟู่รีบตอบรับ “มันเป็นบุตรของจ้าวอู่ตี้ เป็นอันธพาลที่สร้างเรื่องชั่วร้ายเอาไว้มากมายขอรับ”
ฉินเทียนจึงจดจำออกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดมืด เขาพลันหัวเราะออกมา “อ้อ ข้าเข้าใจแล้ว”
ฉินเทียนลุกขึ้นยืน กระนั้นจางต้าฟู่ที่อยู่ด้านข้างก็รีบกล่าวออกมาด้วยความวิตก “นายน้อย จ้าวเจียงหนานได้นำคนมาด้วย มันเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลจ้าว กระทั่งเสี่ยวหยูเฟิงก็ยังต้องหลบเลี่ยง นายน้อย ท่านรีบไปซ่อนตัวเถอะ”
“กระทั่งเสี่ยวหยูเฟิงก็ยังเกรงกลัว?”
ฉินเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา “ข้าอยากจะเห็นนักว่ามันเป็นใคร”
“นายน้อย นายน้อย…”
จางต้าฟู่พยายามห้ามฉินเทียนด้วยใบหน้าที่ดูกังวล ฉินเทียนจึงตบบ่าของมันและกล่าวว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่ใช่ฉินเทียนในอดีตอีกต่อไป”
เมื่อเขาเดินไปยังเหลาฟุหลง จางต้าฟู่ก็โพล่งขึ้นว่า “ท่านหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าไม่เหมือนกับในอดีต?”
“อา มีแขกมางั้นหรือ ยินดีต้อนรับ นายน้อยจ้าว สถานที่เล็กๆเช่นร้านเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
ฉินเทียนหล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม มองดูโต๊ะอาหารรอบข้างที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนนอกจากจ้าวเจียงหนานและบุรุษผู้หนึ่งที่นั่งอยู่แล้ว เขาก็เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
“เหอะ แสร้งทำเป็นจำข้าไม่ได้งั้นหรือ? พยายามจะประจบเอาใจข้า? ไม่ใช่ว่าการกระทำของเจ้าในตลาดมืดมันไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ?” มันยกขาพาดโต๊ะและชี้ตะเกียบใส่ฉินเทียนที่กำลังเดินเข้ามาและกล่าวด้วยความโกรธแค้น
จ้าวยี่ยังคงคีบเนื้อเข้าปากอย่างเงียบเชียบ มันยกมือขึ้นเช็ดปากและมองฉินเทียนอย่างเย็นชา มันคว้าจอกสุรามาดื่ม ขณะที่ดื่มอยู่นั้นก็ลอบรวบรวมพลังปราณ จากนั้นจิตสังหารของมันพลันปะทุออกมา
ขณะที่จิตสังหารปะทุออกมานั้น อากาศโดยรอบก็คล้ายกับถูกพลังที่มองไม่เห็นกดทับเอาไว้ ฉินเทียนคิดขึ้นอย่างตกตะลึง “ช่างเป็นปราณที่แข็งแกร่งนัก”
มันเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นก่อตั้งวิญญาณระดับสามและพลังปราณของมันเองก็อยู่ในระดับที่สาม แน่นอนว่ามันย่อมเป็นผู้เข้มแข็งผู้หนึ่ง
ผู้ที่สามารถเทียบได้กับเสี่ยวหยูเฟิงก็คือจ้าวยี่ผู้นี้ แต่ทั้งสองต่างก็เป็นผู้ที่ฉินเทียนยากจะเอาชนะ
เมื่อจ้าวยี่เห็นฉินเทียน มันก็สามารถรับรู้ได้ถึงความโกรธที่แผ่ออกมา
จ้าวเจียงหนานหัวเราะอย่างเย็นชา ฉินเทียนจะต้องถูกกำจัดอย่างแน่นอน
“นายน้อยจ้าวกล่าวอะไรเช่นนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเป็นเพราะข้ายังไม่ทราบตัวตนของท่าน”
“มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ไม่ต่อยตีก็ไม่รู้จัก และเพื่อเป็นคำขอโทษจากข้า ข้าตัดสินใจที่จะมอบของชดเชยให้กับท่าน….”
จ้าวเจียงหนานรับฟังด้วยความสนใจ และส่งสัญญาณไม่ให้จ้าวยี่ลงมือ เขาต้องการดูว่าฉินเทียนจะชดเชยเขาด้วยอะไร
ฉินเทียนเดินมาหาจ้าวยี่อย่างสุภาพ เขากวาดสายตามองรอบข้างอย่างระแวดระวังขณะที่ใจกลางฝ่ามือของเขาเผยให้เห็น ‘เม็ดยาระดับต่ำ’ จากนั้นเขาจึงกล่าวอย่างยินดี “นายน้อยจ้าว นี่คือ ‘เม็ดยาสยบ’ เมื่อกลืนมันเข้าไปแล้ว กระทั่งสตรีที่พยศก็ยังต้องสยบให้ท่าน ยิ่งหากท่านกลืนมันก่อนหน้าหนึ่งวัน มันก็จะยิ่งส่งผลมากยิ่งขึ้น”
‘เม็ดยาระดับต่ำ’ ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นนี้ได้แผ่กลิ่นหอมที่ไม่อาจต้านทานออกมา จิตใจของจ้าวเจียงหนานพลันคิดไปถึงฉากอันวาบหวาน ตอนนี้เสน่ห์ในการล่อลวงหญิงสาวของมันได้ถดถอยลงกว่าเดิมมาก ดังนั้นมันจึงต้องการหาทางแก้ไข เมื่อมองเห็นเม็ดยาตรงหน้า มันก็ยิ้มออกมา
ด้วยไม่อาจต้านทานความเย้ายวนของเม็ดยา มันคว้าเม็ดยามาและถามอย่างราบเรียบ “มันให้ผลเช่นนั้นจริงๆ?”
“น้องชายผู้นี้ย่อมไม่กล้าโป้ปด ยาเม็ดนี้สมควรกลืนมันตอนยังสดใหม่ มันจะส่งผลดียิ่งขึ้น เจ็ดวันเจ็ดคืนยังคงตั้งตระหง่านไม่มีล้ม”
มองดูสีหน้าของจ้าวเจียงหนานที่ไม่ค่อยเชื่อเท่าใด ฉินเทียนก็กล่าวใส่สีตีไข่เข้าไปด้วยการบรรยายสรรพคุณอันเหลือล้ำ
“นายน้อยจ้าว เม็ดยาเพิ่งถูกปรุงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง ตอนนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะกลืนมันเพื่อให้มันเปล่งประสิทธิภาพได้เต็มเปี่ยม! หากว่าท่านพลาดโอกาสอันดีเช่นนี้ไปล่ะก็ ข้าเกรงว่าผลของมันจะไม่มากเท่ากับที่ข้าบ่งบอกต่อท่าน”
มองดูยาเม็ดนั้น จ้าวยี่ก็ยังคงเงียบขรึม เมื่อกล่าวถึงเรื่องเม็ดยาแล้ว มันไม่รู้เกี่ยวกับพวกมันแม้แต่น้อย
จ้าวเจียงหนานเกิดความลังเลขึ้นมา มันพอจะมีความรู้เกี่ยวกับเม็ดยาอยู่บ้าง หากแต่ไม่ใช่กับยาเม็ดนี้ อย่างไรก็ตาม มันไม่เคยคาดคิดว่ายาเม็ดนี้จะมีขนาดใหญ่เกือบเท่ากำปั้น!
ทอดมองเม็ดยาที่อยู่ในฝ่ามือ จากนั้นจึงยกมันใส่เข้าปากไป รสหวานของตัวยาพลันติดอยู่ภายในปาก
ฉินเทียนก้าวถอยหลังไป ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังจ้าวเจียงหนานอย่างระมัดระวัง….