ผู้สูงศักดิ์
“อาหรูน่า ไปกับข้าเถอะ ตามข้ากลับเผ่าพีส่า หรือเจ้าจะไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าหมอผีก็ย่อมได้ ข้าจะไปกับเจ้าทั้งนั้น เหตุใดจะต้องอยู่ที่นี่อย่างอกสั่นขวัญแขวนด้วย ทุกวันยังต้องสละเลือดเลี้ยงชีวิตอีก…”
เถิงเฟิงพูดถึงตรงนี้ก็มองดูถังเฉียนซึ่งหลุบตาลงก็ยิ่งรู้สึกทุกข์ใจ เดิมทีเขาตั้งใจจะเอ่ยถึงคนคนนั้นแต่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ เขายื่นมือมาลูบผมถังเฉียนเบาๆ แล้วทำได้เพียงถอนหายใจ
“เถิงเฟิง ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเพื่อนที่ดีของข้า แต่ข้าก็มีเรื่องที่ตัวเองอยากทำและจำเป็นต้องทำด้วย ข้าไม่ได้เกิดมาจากก้อนหินนะ”
พอถังเฉียนพูดจบ เถิงเฟิงก็เข้าใจเรื่องหนึ่งขึ้นมาในทันที ถังเฉียนไม่ใช่ชาวเผ่าม้ง นางมาจากแคว้นเซวียนกั๋ว เพราะเหตุนี้นางจึงตั้งใจอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่ ตัวเขาเองอยู่ที่เผ่าม้ง อยากได้อะไรก็ได้ตามที่ใจตนปรารถนา แต่เขาไม่รู้ว่าเซวียนกั๋วเป็นอย่างไร
“เจ้าไม่อยากเล่าอดีตที่ผ่านมาของเจ้าให้ข้ารู้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าโปรดอย่าได้ทำร้ายตัวเองเพื่อบุรุษคนอื่น รวมถึงแมลงตัวนั้นก็ไม่ได้เช่นกัน”
ถังเฉียนฟังเขาพูดจบก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
“อ๊ะ อย่างนั้นก็แปลกแล้ว ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าเสียหน่อย”
เถิงเฟิงฟังที่นางพูดก็หน้าแดงทันที เขาลุกขึ้นยืนแล้วว่า
“ก็ได้ ถือว่าข้ายุ่งเรื่องคนอื่นเกินไป ถ้าเช่นนั้นชายารองอะไรนั่น ผีสาวอะไรนั่น เจ้าไปจับเองเถอะ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”
ถังเฉียนเอานิ้วแตะกัน ดวงตากลอกไปมา เถิงเฟิงแกล้งทำเป็นจะจากไป ถังเฉียนอยากรั้งเขาไว้ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่อาจลืมคำพูดตนเองเร็วอย่างนี้ เถิงเฟิงเห็นสีหน้าของนางดูหนักใจ จึงแกล้งเดินออกไปพร้อมกับพูดว่า
“ผีสาวเอย ผีร้ายเอย ปีศาจเอย…”
เถิงเฟิงพูดแต่ละคำ ถังเฉียนก็เม้มปากแน่นขึ้นทุกครั้ง ถังเฉียนกำมือตัวเองแน่น สุดท้ายเป็นเพราะตื่นเต้นและกลัวจริงๆ
“เจ้าตัวคนเดียว…”
เถิงเฟิงแอบหันกลับมา แล้วค่อยๆ ย่องมาอยู่ข้างหูถังเฉียน ทันใดนั้นก็พูดเสียงดัง
“จับได้แล้ว!”
ถังเฉียนกรีดร้องออกมา หันมาแล้วใช้มือปิดตา โผเข้าหาอ้อมอกของเถิงเฟิง เถิงเฟิงแอบยิ้ม ทันใดนั้นประตูข้างหลังของถังเฉียนถูกผลักเปิดออก หมอผีศักดิ์สิทธิ์เถิงเสวี่ยยืนอยู่ที่ประตู พอเห็นภาพตรงหน้าจึงรีบเบือนหน้าไป
เถิงเฟิงตบหลังถังเฉียนเบาๆ พูดอย่างเขินๆ ว่า
“ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว ไม่ปล่อยให้เจ้าจับผีคนเดียวหรอก”
มีเสียงกระแอมไอดังขึ้นมาจากด้านนอก ถังเฉียนยังคงหดตัวอยู่ที่เดิม นางตกใจกลัวมาก เถิงเฟิงหันไปเห็นย่ารองของเขาจึงพูดปลอบถังเฉียนเบาๆ
“ย่ารองมาหาเจ้าน่ะ คงจะมีเรื่องสำคัญ”
ถังเฉียนฟังแล้วยังคงมุดหัวตามเดิม นางเป็นแค่เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อครู่ตกใจจนขวัญเสีย คิดแต่จะหลบอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ยังดีที่เถิงสวี่ยรู้ว่าเถิงเฟิงเป็นตัวแสบ นางเดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือออกมาจับศีรษะถังเฉียน
นางมีความสามารถทำให้คนใจสงบลง เพียงแค่ทำท่าง่ายๆ เช่นนี้เท่านั้น ก็ทำให้ร่างที่สั่นระริกของถังเฉียนค่อยๆ สงบลงแล้ว เมื่อถังเฉียนเงยหน้าขึ้นมองเห็นเถิงเสวี่ยก็ยิ่งรู้สึกสำนึกบุญคุณและเคารพนางเพิ่มขึ้น
“ย่ารอง ท่านมาผิดเวลาจริงๆ”
เถิงเสวี่ยถือกิ่งไม้สีทองอันหนึ่งในมือ นางตีที่ศีรษะเถิงเฟิงเบาๆ
“รู้จักแต่ก่อเรื่อง! ยังไม่รีบออกไปอีก ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับอาหรูน่า”
หลายวันนี้เถิงเสวี่ยตั้งใจค้นคว้าเลือดของถังเฉียน ประสานกับที่เถิงเฟิงเล่าให้นางฟัง รวมทั้งคำบอกเล่าของฉู่จิ่งเหยา บวกกับผลการทดลองของนางเอง นางก็ได้ข้อสรุปแล้ว