ตอนที่ 105 พิธีเปิดวิญญาณ
ถังเฉียนนิ่งเงียบ เป็นความจริงที่นางต้องขอร้องคนอย่างฮว่าเหยียน แต่ชั่วพริบตานั้นถังเฉียนก็นึกถึงการตายของถังอวิ๋น และนางกับถังเวยยังต้องพลัดพรากจากกัน ส่วนฮว่าเหยียนไม่รักษาสัญญาแม้แต่น้อย นางเป็นคนหลอกลวง นี่คือฮว่าเหยียนในใจของถังเฉียน เป็นหญิงชราต่ำช้าที่หลอกลวงนาง
“ข้าไปขอร้องหมอผีคนอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้า หมอผีที่ทรยศต่อเทพแมลงปีศาจก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นหมอผี ขอให้เจ้าออกไปจากเรือนของข้าเดี๋ยวนี้!”
ถังเฉียนไม่อยากโต้เถียงกับนางอีกแล้ว นางชิงชังหญิงชราผู้นี้ เมื่อเห็นหน้าหญิงเฒ่าผู้นี้ก็ทำให้นางคิดถึงน้องสาว พอคิดถึงน้องๆ ก็จะรู้สึกปวดร้าวในใจ
“หึ ดูแล้วเจ้าคงยังไม่รู้”
ถังเฉียนกำหมัดแน่น นางมองดูสีหน้ากระหยิ่มใจของฮว่าเหยียน ก็รู้สึกเหมือนมีหนามมาทิ่มแทงหลัง ราวกับตกลงไปในกระแสน้ำวนที่ไม่อาจหลุดพ้นได้
“อาจารย์ที่แสนดีของเจ้าก็นับว่าเอ็นดูเจ้ามาก นางรู้ฐานะของเจ้านานแล้ว และเพื่อทำให้เจ้าอยู่ต่อไปได้อย่างปลอดภัยในฐานะหมอผี นางจึงได้เขียนบนป้ายดวงชะตาของเจ้าว่า เจ้าคือลูกสาวข้าฮว่าเหยียนผู้นี้”
“อะไรกัน เป็นไปได้อย่างไร!”
ถังเฉียนเกือบจะกัดลิ้นตัวเองขาดเพราะตกใจกับข่าวนี้ นางจะเป็นลูกสาวหญิงโหดร้ายคนนี้ได้อย่างไร
“อาหรูน่า ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก เจ้าคงไม่ค่อยเข้าใจการสืบทอดของหมอผี ไม่ใช่แค่มีอาจารย์สืบทอดให้ก็จะเป็นได้ แต่ต้องสืบทอดผ่านทางแม่ เจ้าต้องมีแม่ที่เป็นหมอผีจึงจะมีคุณสมบัติศึกษาวิชาหมอผี หากไม่มีข้า เจ้าก็ไม่คู่ควรจะเป็นหมอผี”
ถังเฉียนเหมือนถูกฟ้าผ่าเมื่อได้ยินเรื่องนี้ นางรู้สึกหูอื้อ ไม่กล้าเชื่อและไม่อยากที่จะเชื่อ นางต้องไปหาความจริงที่นางอยากรู้
“ข้าจะไปพบอาจารย์!”
“ไม่มีประโยชน์หรอก เวลาตกฟากของเจ้า ลักษณะของเจ้า ใครเป็นแม่ของเจ้า รวมทั้งเลือดของเจ้า ถูกสลักไว้บนป้ายดวงชะตาส่งไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะตาย มิฉะนั้นจะไม่มีใครไปแตะต้องป้ายดวงชะตาอีก ไม่ว่าเจ้าจะยินยอมหรือไม่ ชั่วชีวิตนี้เจ้าก็คือลูกสาวข้า เป็นทาสของข้า”
ฮ่าๆ… ฮ่าๆๆ
เสียงหัวเราะที่น่ากลัวดังก้องไปทั่วเรือน เสียงหัวเราะเป็นเหมือนเสียงของปีศาจ ทำให้ถังเฉียนหวาดกลัวและรู้สึกสะอิดสะเอียน รวมทั้งความรู้สึกไม่ยอมรับและถูกเหยียดหยาม
“เจ้าอยากให้ผู้คนรู้ฐานะจอมปลอมของเจ้าหรือ”
ถังเฉียนวิ่งทะยานไปหาเถิงเสวี่ย ก็แค่แม่ปลอมๆ จะเป็นใครก็ได้ ขอเพียงไม่ใช่ฮว่าเหยียน จะเป็นคนตายก็ย่อมได้ นางวิงวอนขอร้องต่อเถิงเสวี่ย แต่เถิงเสวี่ยในใจของถังเฉียนซึ่งเดิมทีอ่อนโยน กลับเป็นครั้งแรกที่มีสีหน้าเย็นชาต่อนาง ถังเฉียนรู้ว่านางโมโหแล้ว ที่จริงถังเฉียนไม่ควรทำเช่นนี้ เพราะเถิงเสวี่ยช่วยนาง ทำทุกอย่างก็เพื่อนาง ส่วนนางกลับเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี แต่นั่นก็เป็นเพราะนางไม่อาจเล่าความทุกข์ในใจได้
ถังเฉียนคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตู นางรู้ว่าตัวเองทำให้เถิงเสวี่ยโกรธ แต่นางไม่สามารถอธิบายได้ นางไม่รู้ว่าในดินแดนเผ่าม้งนั้นไม่เคยมีความรักทะนุถนอมมาก่อน พิธีเปิดวิญญาณของถังเฉียนจะทำในตอนเที่ยงคืน ยังคงเป็นที่แท่นบวงสรวง ทุกอย่างจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่นางไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่ก็รู้ว่าเมื่อลูกธนูพาดสายแล้วต้องยิงออกไป นางจึงต้องคุกเข่าอยู่ที่นี่ มองดูฮว่าเหยียนวาดลวดลายหมอผีลงบนแขนนาง เป็นรูปมังกรดำขดบนแขน
หลังจากฮว่าเหยียนวาดเสร็จ เถิงเสวี่ยก็ใช้มีดปลายแหลมแทงลงบนแขนถังเฉียน เลือดอาบลงตลอดตัวมังกรดำ เถิงเสวี่ยและฮว่าเหยียนท่องคาถาพร้อมกัน ถังเฉียนคุกเข่าอยู่กับที่ รู้สึกเหมือนรอบๆ แปลกใหม่ ความรู้สึกที่นางไม่เคยรู้จักห้อมล้อมรอบตัว ขณะนี้ดวงตานางมองเห็นมังกรตัวนั้นบินขึ้นจากแขนนาง แยกออกเป็นมังกรสีแดงเลือดกับมังกรสีดำ แยกกันหมุนไปรอบตัวถังเฉียน มังกรดำวนไปทางซ้าย มังกรแดงวนไปทางขวา วนอยู่สามรอบจึงกลับมาที่ตำแหน่งเดิม หลังจากมังกรคำรามดังกังวานขึ้น เป็นอันเสร็จพิธี