ตอนที่ 110 ถูกสงสัยแล้ว
ถังหรงเจินต้องโทษถูกขังอยู่ในคุกฟ้า ถ้าหากกุ้ยเฟยมีข้อตกลงลับๆ กับเด็กสาวคนนี้ หรือเผ่าหมอผีมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกับกุ้ยเฟย ถังเฉียนจะกลายเป็นตัวอันตราย เมื่อเขาคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระยะใกล้ๆ นี้ เจิ้งจยาเฉิงก็ยิ่งสงสัยว่าในจวนมีคนคอยส่งข่าวให้ภายนอกรู้ เขาคิดทบทวนไปมา แล้วก็มักรู้สึกว่าคนคนนั้นน่าจะเป็นถังเฉียน
อาการบาดเจ็บของฉู่จิ่งเหยายังไม่หายดี เผ่าม้งเต็มไปด้วยไอพิษ จิตใจผู้คนสั่นไหว ขณะนี้เจิ้งจยาเจิ้งรู้สึกหวั่นวิตก เขาและจวนจินซิวอ๋องไม่อาจรับมือกับการถูกลอบโจมตีอีกครั้ง เพราะเวลานี้พวกเขาไม่มีต้นทุนที่จะแพ้ได้อีกแล้ว ตั้งแต่ฉู่จิ่งเหยาได้รับบาดเจ็บจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังจับดาบไม่ได้ ขืนออกแรงมากหน่อยก็จะทำให้แผลฉีกออก เวลานี้ดูเหมือนเผ่าม้งจะปลอดภัยมาก แต่ถ้าฉู่จิ่งเหยายังคงไม่หายดี ที่เรียกว่าความสงบก็จะถูกทำลายลงได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นสามเผ่าบนหรืออีกห้าเผ่าล้วนไม่เปิดโอกาสให้จวนจินซิวอ๋องได้ผ่อนลมหายใจ จะกลืนกินพวกเขาทันทีเหมือนน้ำป่า เหมือนสัตว์ร้าย เวลานี้แค่อาศัยทหารของจวนแปดร้อยนายกับทหารเก่าของฉู่จิ่งเหยารวมกันแล้วแค่สองหมื่น ฝืนตั้งมั่นอยู่ในพื้นที่แคบๆ แต่ถ้าเขายังไม่หายป่วย ใครจะใส่ใจกับอ๋องที่เจ็บป่วยอ่อนแอกันเล่า
ดังนั้นถ้ายังคงไม่หายป่วย ทุกอย่างเวลานี้ก็จะสูญสลาย
เมื่อวานต่อให้ถังเฉียนไม่ได้ทำถ้วยชาคว่ำจนเห็นสามคำนั้น เขาก็จะยังคิดหาวิธีบอกถังเฉียน จากนั้นก็ล่องูออกจากโพรง แต่เขาคิดไม่ถึงว่าถังเฉียนกลับไม่ลงมือทำอะไรเลย
“ใต้เท้าเจิ้ง”
ถังเฉียนออกมาจากห้องหนังสือของฉู่จิ่งเหยา แต่เจิ้งจยาเฉิงยืนอยู่กลางประตู ขวางทางเดินของนาง ถังเฉียนใช้นิ้วแตะเขา เจิ้งเจียเฉิงจึงตื่นจากภวังค์ เมื่อหันมามองถังเฉียนก็เห็นนางถอนหายใจ แล้วคิดว่านางเป็นแค่เด็กสาวอายุสิบสี่ ถ้าคอยแต่ระแวงนางไม่หยุดก็รู้สึกทำใจยาก
“เพราะคุณชายเถิงเฟิงจากไปแล้ว หมอผีน้อยจึงหมดสนุกใช่หรือไม่”
ถังเฉียนได้ยินคำถามนี้จึงย้อนถามกลับว่า
“เถิงเฟิงไปแล้ว เขาไปเมื่อไหร่ ไปไหน ทำไม…ทำไมจึงไม่บอกให้ข้ารู้”
เดิมทีเจิ้งจยาเฉิงยังคงนึกสงสัยนาง แต่ถ้าบอกว่าเด็กสาวอายุสิบสี่สามารถซ่อนงำความคิดได้ลึกเช่นนี้ก็คงแปลกแล้ว ขณะนี้น้ำเสียงที่ร้อนรนของนางได้เผยความรู้สึกในใจออกมาจนหมด น่าจะเป็นหวังหลงที่บอกนาง เนื่องจากอายุยังน้อย ไม่ประสีประสา กลัวว่าจะถูกคนอื่นรังแกหรือหลอกใช้ จึงต้องคอยระวังตัว
“คุณชายเถิงเฟิงไปเมื่อวานตั้งแต่ยังไม่ค่ำ ส่วนหมอผีศักดิ์สิทธิ์น่าจะไปหลังเที่ยงคืน คงเพราะพวกเขาไปอย่างฉุกละหุกจึงไม่ได้แจ้งท่านหมอ”
ถังเฉียนฟังคำอธิบายเช่นนี้ ในใจก็กลับคิดว่าเถิงเฟิงแสดงละครไม่ถึงขั้น จึงลืมที่จะแกล้งหลอกนางต่อ หรือไม่อยากพานางกลับไปเพื่อทำยาให้เขาแล้วหรือ
ถังเฉียนยิ่งคิดเช่นนี้ก็ยิ่งโมโห ร้อง “หึ” ออกมาแล้วเดินผละไป กลับเป็นเจิ้งจยาเฉิงที่ชนตอ เขาเดินเข้าไปในห้องหนังสือของฉู่จิ่งเหยาอย่างงุนงง ฉู่จิ่งเหยาเห็นเขาเข้ามาก็มองดูเขาด้วยแววตาลึกล้ำ แล้วถามว่า
“จยาเฉิง จนเดี๋ยวนี้เจ้าก็ยังสงสัยนาง ต้องทำอย่างไรกันแน่เจ้าจึงจะวางใจ”
เจิ้งจยาเฉิงถอนหายใจแล้วพูดว่า
“ท่านอ๋อง ไม่ใช่จยาเฉิงใจแคบพ่ะย่ะค่ะ แต่อาหรูน่าคนนี้ซ่อนความลับไว้ไม่น้อย ท่านอ๋องเคยเห็นหน้าตาของนางหรือไม่ แม้แต่หมอผีศักดิ์สิทธิ์เวลาที่พบท่านยังถอดหน้ากากออก แต่จนถึงยามนี้นางก็ไม่เคยถอดหน้ากากเลย ตามที่หมอผีศักดิ์สิทธิ์บอก นางยังเป็นเด็กสาว เหตุใดต้องมีท่าทางหลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี้ ท่านอ๋องก็ไม่รู้สึกแปลกบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ”