ตอนที่ 148 ไม่เหมือนแล้ว
ฉู่จิ่งเหยาเจ็บปวดอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าจึงค่อยๆ ฟื้นกลับมาเป็นปกติ เขานอนบนตักถังเฉียน มองดูสีหน้าที่เคร่งเครียดของนาง เขารู้สึกว่าฉากนี้เหมือนเคยเกิดขึ้น เขายื่นมือออกไปจะเขี่ยเส้นผมนางออก แต่พอเขายื่นมือมาถังเฉียนก็เบือนหน้าหนีอย่างไม่รู้ตัว ฉู่จิ่งเหยามองมือตัวเองอย่างกระอักกระอ่วน ยิ้มแล้วพูดว่า
“หมอผีน้อย ร้องไห้แล้ว”
ถังเฉียนเช็ดใบหน้าตัวเอง ไม่รู้ว่าตามองไปที่ใด นางหยิบหน้ากากจากข้างตัวขึ้นมาใส่ ฉู่จิ่งเหยายังคงนอนมองดูนาง จนได้ยินเสียงสวดข้างนอกที่ดังขึ้น ท่วงทำนองถี่ขึ้น ฉู่จิ่งเหยากำหมัดแน่น ความเจ็บปวดบนร่างเกิดขึ้นเป็นระลอก ราวกับต้องสู้รบครั้งแล้วครั้งเล่า
“ท่านอ๋อง เป็นอะไรไป”
ถังเฉียนเห็นท่าทางฉู่จิ่งเหยาทรมานมาก จึงถามด้วยความเป็นห่วง อาจารย์บอกแล้วว่าเพียงครู่เดียว เพียงครู่เดียวก็จะหาย แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจ็บปวดขนาดนี้ ฉู่จิ่งเหยาดึงชายแขนเสื้อถังเฉียนกำไว้แน่น
“อาหรูน่า ข้าปวดหน้าอก”
ถังเฉียนคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ ทำได้เพียงกุมมือเขาไว้ พูดอย่างตึงเครียดว่า
“ท่านอ๋อง อาจารย์บอกว่าท่านจะรู้สึกเจ็บปวดบ้าง แต่ต้องอดทน อดทนอีกเดี๋ยวก็จะผ่านไปท่านอ๋องต้องยืนหยัด”
ถังเฉียนเห็นใบหน้าเขาเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง ทั้งร่างเข้าหากัน ตัวแข็งทื่อ ยิ่งถังเฉียนร้องเรียกเขาก็พบว่าใบหน้าที่แดงกลับเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดแล้ว
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง…”
ถังเฉียนร้องเรียกอีกสองครั้ง แต่ฉู่จิ่งเหยาไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดใด ร่างของเขาเย็นเฉียบ ถังเฉียนดึงเสื้อเขาออก แผลที่อกซึ่งสมานแล้วกลับมีคราบเลือดปื้นใหญ่ ถังเฉียนไม่รู้ว่าอยู่ดีๆ เหตุใดเขาถึงกลับมาบาดเจ็บสาหัสอีก ไม่รู้ว่าที่จู่ๆ เขาบาดเจ็บหนักสาเหตุเกิดจากการบวงสรวงหรือไม่ ถังเฉียนไม่ลังเลเลย ล้วงมีดสั้นเรียวยาวออกมาจากอกเสื้อ กรีดที่แขนตัวเอง
“ฟื้นเถอะ ท่านอ๋อง”
ถังเฉียนตะโกนเรียกอย่างร้อนใจ แต่ฉู่จิ่งเหยาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ บาดแผลยังมีเลือดออก นางนึกกลัว นางมองดูรอบๆ ฉุกคิดว่าจะใช้พลังทิพย์ของตนมารักษาร่างเขา แล้วก็ยืนขึ้นทันที หยิบไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์มา กรีดฝ่ามือใช้เลือดทาลงบนไม้เท้า แล้วถ่ายทอดพลังทิพย์ลงไปในนั้น มังกรแดงบนร่างนางเลื้อยพันขึ้นทันที
“อาหรูน่า จิตใจที่อ่อนไหวของเจ้าส่งผลต่อพิธี หยุดใช้พลังทิพย์เดี๋ยวนี้ ถ้าเกิดเหตุร้ายกับท่านอ๋อง รอให้ศิษย์พี่เจ้าไปจัดการ”
ถังเฉียนไม่รู้ว่าเพราะอะไร จึงได้ยินเสียงอาจารย์ดังขึ้นในสมอง ฟังดูเคร่งเครียดแต่อาจารย์เดาสาเหตุที่ถังเฉียนทำเช่นนี้ออก ถังเฉียนเก็บพลังทิพย์ของตน ประคองศีรษะฉู่จิ่งเหยาไว้ ยิ่งร้อนใจมากยิ่งขึ้น
“ท่านอ๋อง ฟื้นเถอะ”
ถังเฉียนวิตกมาก แต่ไม่ช้าถงถงเอ๋อร์ก็มาถึง นางก้มมองร่างฉู่จิ่งเหยา แล้วเหลือบมองแขนถังเฉียน จากนั้นจึงถามว่า
“เขาทำร้ายเจ้าหรือ”
ถังเฉียนสั่นศีรษะ
“ไม่ใช่ ข้าเลี้ยงต้าฝู”
ถงถงเอ๋อร์ร้องอืม แล้วพูดว่า
“อาจารย์กำลังดูดเลือดทิพย์แห่งเทพสงครามของเขา อดทนสักชั่วหนึ่งก้านธูป เขาจะไม่ตายเพียงแต่จะเจ็บป่วยระยะหนึ่ง”
ถังเฉียนดึงแขนนาง รู้สึกไม่อยากเชื่อ แล้วจึงถามว่า
“ตอนที่อาจารย์บอกท่านอ๋อง ไม่ได้บอกว่าจะดูดเลือดทิพย์ เขาเพิ่งได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว หากยังดูดเลือดทิพย์ต่อไป ไม่เท่ากับฆ่าเขาหรอกหรือ”
ตอนที่ 149 สังเวยอีกครั้ง
ถงถงเอ๋อร์พลิกฝ่ามือมาคว้าตัวถังเฉียนไว้ แล้วพูดเสียงกร้าว
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย เจ้าเป็นชาวเผ่าหมอผี หาใช่ชาวเซวียนกั๋วไม่ เขาเป็นเทพสงครามแห่งเซวียนกั๋ว เป็นศัตรูสำคัญของเผ่าม้งเรา อีกอย่างเขายอมเป็นเครื่องสังเวยเอง พิธีบวงสรวงครั้งนี้ใช้อายุขัยของหมอผีศักดิ์สิทธิ์รวมกันถึงร้อยปี โลกนี้ไม่เคยมีทางลัดหรอกนะ อาจารย์ย่อมไว้ชีวิตเขา”
ถงถงเอ๋อร์มองดูแววตาถังเฉียน แล้วน้ำเสียงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลง
“ท่านอ๋องเป็นเทพสงคราม วันหลังคุณชายเถิงเฟิงก็จะเป็นเทพสงครามของเรา หากเขาไม่กลายเป็นคนธรรมดาสามัญ แล้วคุณชายเถิงเฟิงจะนำเผ่าม้งเราไปสู่ความรุ่งเรืองได้อย่างไร”
ถังเฉียนฟังที่ถงถงเอ๋อร์พูด แล้วคิดในใจว่าถ้านางเป็นชาวเผ่าม้งจริงจะดีใจหรือไม่
การเอาชนะผู้ชายคนหนึ่งด้วยวิธีที่ต่ำช้าเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เถิงเฟิงจะทำ เขาไม่ยินดีแน่นอน นางเองก็ไม่ยินดี ไม่มีใครยกย่องสรรเสริญอุบายครั้งนี้ พวกเขาไม่เคยเป็นผู้ปกครองที่เลวร้าย
ถังเฉียนมองดูฉู่จิ่งเหยาซึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น นางฟังที่ถงถงเอ๋อร์พูดอย่างไม่ใส่ใจ นางใช้ชีวิตตนเองเพื่อช่วยให้เทพสงครามกลับมา เพื่อให้เขามีชีวิตเยี่ยงคนทั่วไปเท่านั้นหรือ
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขามีชีวิตก็เพื่อใช้กระบี่ในมือพิทักษ์ความสงบสุขของดินแดนนี้ เขาไม่ใช่นักยุทธศาสตร์ที่ปราดเปรื่อง เพียงหวังที่จะให้ผู้คนที่นี่อยู่อย่างสงบสุขเท่านั้น ไม่ต้องมีภัยสงครามและการสูญเสียอีก
ถังเฉียนนึกถึงฉู่จิ่งเหยาเช่นนี้ แล้วฟังที่ถงถงเอ๋อร์พูดก็รู้สึกบาดหู
“ศิษย์พี่ ไปช่วยอาจารย์เถอะ ข้ารู้ว่าควรจะทำเช่นไร”
ในสายตาถงถงเอ๋อร์นั้น ถังเฉียนคือผู้หญิงที่เถิงเฟิงกำหนดไว้แล้ว ย่อมต้องทำเพื่อเถิงเฟิง แต่ถังเฉียนกลับไม่ได้ทำตามที่นางคิดไว้
“ท่านอ๋อง ขอโทษด้วย ข้าไม่รู้ว่าพวกนั้นจะทำกับท่านเช่นนี้ สิ่งเดียวที่ข้าพอจะทำได้คือช่วยให้ท่านเจ็บปวดลดลง วันหน้าจะอยู่ช่วยท่านฟื้นฟู ข้าจะคิดหาวิธี พออาจารย์เริ่มพิธีแล้วก็ไม่อาจหยุดกลางคันได้ หวังว่าเราจะสามารถฟื้นกลับมาได้”
ถังเฉียนถอดเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ ใช้เมื่อเลิกเสื้อด้านในออก ถือมีดสั้นที่ยังเปื้อนเลือดนางอยู่
“ท่านอ๋อง ขอให้ข้าสังเวยให้ท่านอีกครั้ง ครั้งก่อนยังสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ ครั้งนี้หวังว่าเทพแมลงปีศาจและเทพมังกรจะคุ้มครองให้ข้ามีชีวิตรอดได้”
ถังเฉียนพูดจบก็ใช้มีดสั้นจ่อที่หน้าอกเตรียมแทงอีกครั้ง
“เด็กโง่”
ความรู้สึกเจ็บปวดที่คิดไว้ไม่ได้เกิดขึ้น แม้มีดจะจ่อที่อกตัวเอง แต่ไม่สามารถรุกคืบไปข้างหน้าได้ ฉู่จิ่งเหยาลืมตาที่เจิดจ้าขึ้น สองมือที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกดมือนางไว้ ถังเฉียนเห็นเขาฟื้นขึ้นก็น้ำตาไหล
“ท่านอ๋อง ท่านไม่ตาย”
ฉู่จิ่งเหยามองดูนาง แล้วค่อยๆ ผลักมือนางออกไป มีดสั้นเรียวยาวเล่มนั้นร่วงลงบนพื้น ส่วนนางโผเข้าสู่อ้อมกอดเขา น้ำตาทำให้เสื้อฉู่จิ่งเหยาเปียก
“วันหลังเปลี่ยนชื่อหมอผีน้อยเป็นเด็กโง่ดีหรือไม่”
ฉู่จิ่งเหยาเกาะตัวนางแล้วหยัดตัวลุกนั่ง ใบหน้าเขายังคงซีดเผือด เขาซ่อนบาดแผลของตนไว้ แล้วล้วงผ้าแพรออกมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้านาง
“ท่านอ๋อง ข้า ข้า…”
ถังเฉียนอยากอธิบายเรื่อที่เกิดขึ้นทั้งหมดครู่นี้ แต่นางไม่มีโอกาสพูดให้ชัดเจน เพราะเทพมังกรข้างหลังฉู่จิ่งเหยาได้กลิ่นเลือดของถังเฉียนจึงเลื้อยขึ้นมาบนแขนนาง ดูดกินเลือดนางอย่างตะกละตะกลาม
“ต้าฝู เจ้าแอบกินอีกแล้ว”