ตอนที่ 152 หมู่บ้านน้ำศักดิ์สิทธิ์
เถิงเสวี่ยสั่นศีรษะแล้วพูดว่า
“ในเมื่อมันลงไปในน้ำ ย่อมแสดงว่าน้ำที่นี่ไม่ธรรมดา ที่นี่เป็นเขตปกครองของฉู่จิ่งเหยา เราระดมคนมาตักน้ำไว้ก่อน”
ถงถงเอ๋อร์เหลือบมองถังเฉียน รู้สึกไม่พอใจ แล้วถามว่า
“อาจารย์ แล้วของพวกนี้เล่า”
เถิงเสวี่ยโบกมือ
“รอก่อน ถ้าคนป่วยอาการไม่กระเตื้องขึ้น เราค่อยมาดู ทุ่มเทมากมายเช่นนี้ ถ้าได้สมุนไพรแค่ต้นเดียวจะมีความหมายอะไร”
ถงถงเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่านี่หมายความว่าอย่างไร แต่ถังเฉียนกลับเข้าใจดี หากเป็นสระน้ำแห่งนี้ พวกเขาจะกลายเป็นพันธมิตรกัน แล้วแบ่งส่วนหนึ่งให้ฉู่จิ่งเหยา พวกตนยังคงยึดครองแหล่งที่มาไว้ แต่หากเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง นั่นย่อมมีทั่วป่าเขา ที่นี่หูตามากมาย ความลับย่อมถูกเปิดเผย ถึงเวลานั้นก็ไร้ความหมายแล้ว
“ท่านผู้อาวุโสใหญ่ คนป่วยที่ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วล้วนอาการดีขึ้น ดูแล้วน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ผล เราเจอแล้ว”
คนเผ่าอินทรีมาแจ้ง สีหน้าปลาบปลื้ม นับว่าสามารถเอาชนะไอพิษร้ายแรงในเผ่าม้งครั้งนี้ได้แล้ว
“ดีมาก แต่ข้าเพิ่งมาถึง เหตุใดจึงได้ผลเร็วอย่างนี้”
คนเผ่าอินทรีเงินตอบด้วยความดีใจ
“ต้องขอบคุณท่านหมออาหรูน่า เมื่อนางมาถึงก็จัดให้ทดลองดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ทันที”
เถิงเสวี่ยหันมามองถังเฉียน พยักหน้าพลางยิ้มให้ แล้วพูดว่า
“โคน้อยย่อมไม่กลัวพยัคฆ์ กล้าคิดกล้าทำมาก อาจารย์ได้ยินว่าเมื่อครู่เจ้าห้ามไม่ให้ถงถงเอ๋อร์ขัดแย้งกับคนของจวนจินซิวอ๋อง ใช่หรือไม่”
ถงถงเอ๋อร์ฟังน้ำเสียงของเถิงเสวี่ย ก็รีบพูดทันที
“อาจารย์ จะอย่างไรศิษย์น้องเล็กก็ยังเด็กมาก พูดจาเหลวไหล ไม่อย่างนั้นเวลานี้เราจะเป็นฝ่ายที่ครอบครองเพียงผู้เดียวแล้ว”
“อ้อ อย่างนั้นหรือ”
ถังเฉียนพยักหน้า แล้วพูดทันที
“อาจารย์ อาหรูน่าตัดสินใจไปเอง เพราะคิดว่าเมื่อครู่ไม่เหมาะที่จะเกิดความขัดแย้ง ต่อให้ภายหลังเราจะแตกแยกกัน แต่เวลานี้ไม่เหมาะที่จะเกิดการต่อสู้ จวนจินซิวอ๋องเป็นพันธมิตรกับเราในการต่อต้านเผ่าครึ่งคน ก่อนที่สงครามจะยุติ การมีมิตรมากขึ้นย่อมดีกว่าการมีศัตรูมากขึ้น”
เถิงเสวี่ยได้ยินถังเฉียนพูดเช่นนี้ก็ถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนล้า
“มิน่า เถิงเฟิงถึงได้ชอบเจ้า รู้จักสถานการณ์ รู้จักรุกรู้จักถอย สมกับที่เป็นหมอผีที่มาจากตระกูลใหญ่”
ถังเฉียนคิดไม่ถึงว่าอาจารย์จะชมตนต่อหน้าถงถงเอ๋อร์ นางชำเลืองเห็นใบหน้าถงถงเอ๋อซีดเผือด เกิดความคิดในใจว่านางคงจะเดือดร้อน
ถังเฉียนแม้จะเข้าใจดี แต่ภายนอกต้องแสร้งเป็นไม่เข้าใจ ไม่เช่นนั้นถงถงเอ๋อร์จะยิ่งเคียดแค้น และยิ่งมุ่งร้ายต่อนาง
“อาจารย์ ที่จริงอาหรูน่ามีใจลำเอียง ที่ผ่านมาท่านอ๋องดีกับข้ามาก ข้าไม่อาจลืมบุญคุณคนอื่นได้”
เถิงเสวี่ยเดินเข้ามาหาถังเฉียน ลูบเส้นผมนางเบาๆ
“เด็กดี รู้หรอกว่าเจ้าเป็นคนมีน้ำใจ ในเมื่อเจ้าเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ แล้วต่อจากนี้เจ้าคิดว่าควรจะจัดการอย่างไร”
ถังเฉียนหันมาดูสีหน้าถงถงเอ๋อร์ แล้วถามว่า
“อาจารย์ก็รู้ว่าอาหรูน่ายังเด็กอยู่ ทำอะไรตามอารมณ์ ยังดีที่ไม่ได้ทำผิดพลาด ถ้าจัดการงานอย่างรอบคอบแล้ว ยังต้องศึกษาจากศิษย์พี่ ศิษย์พี่คิดว่าต่อจากนี้ควรจะทำอย่างไร”
ถงถงเอ๋อร์มองดูอาจารย์ เถิงเสวี่ยพยักหน้า นางจึงพูดว่า
“รอเจ็ดวันก่อน หากภายในเจ็ดวันนี้อาการไข้ป่าไม่กำเริบ น้ำที่นี่ก็คือน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้ให้ตักน้ำเก็บไว้ แล้วล้อมที่นี่ป้องกันแหล่งน้ำไว้”
ถังเฉียนพยักหน้าเห็นด้วย เถิงเสวี่ยพูดว่า
“อาหรูน่า เจ้าคิดว่าควรจะทำอย่างไร”
ถังเฉียนครุ่นคิด แล้วตอบว่า
“ฟังที่ศิษย์พี่พูดแล้ว อาหรูน่าเห็นว่าตอนนี้เก็บน้ำไว้สิบถัง จากนี้ไปไม่ใช้อีก แล้วล้อมที่นี่ไว้ สร้างหมู่บ้านน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้น วางกำลังดูแลทั้งภายในภายนอก ทำอย่างนี้แล้วจะประกันได้ว่าหากมีไอพิษระบาดอีกครั้งต่อไป เราจะมีวิธีรับมือ หรืออย่างน้อยก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง”
เถิงเสวี่ยพยักหน้า
“เช่นนั้นก็ทำตามวิธีของพวกเจ้า หมู่บ้านน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย”
ตอนที่ 153 ไม่กลับไปแล้ว
หลังเจ็ดวันผ่านไป ปรากฏว่าไข้ป่าสลายหายไปแล้ว ผู้ป่วยไข้ป่าจำนวนมากก็ได้รับการช่วยเหลือ จวนจินซิงอ๋องร่วมกับเผ่าอินทรีเงิน เผ่าเกาลี่และเผ่าอี๋ซานช่วยกันสร้างหมู่บ้านน้ำศักดิ์สิทธิ์จนสำเร็จ
น้ำศักดิ์สิทธิ์บรรจุถุงหนังถูกทยอยส่งไปทั่วดินแดนเผ่าม้งอย่างต่อเนื่อง สงครามที่เกิดจากไข้ป่าก็ยุติลงเมื่อไข้ป่าได้รับการรักษาแล้ว
เมื่อไม่มีการทารุณกรรมเพราะไข้ป่า ไฟสงครามในชายแดนใต้ก็ค่อยๆ สงบลง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่เกิดความวุ่นวายอีก เผ่าหมอผีกู้ชายแดนภาคใต้อีกครั้ง จึงยังคงดำรงไว้ซึ่งฐานะสูงส่ง จวนจินซิวอ๋องจึงกลับคืนสู่ความสงบเช่นเดิม แต่ยังมีเรื่องหนึ่งที่ยังคาใจถังเฉียนอยู่
หมอผีศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อจีหมิง โชคร้ายเสียชีวิตบนแท่นบวงสรวง เถิงเสวี่ยทำตามข้อตกลงในตอนนั้นส่งศพนางไปฝังในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ถังเฉียนฉุกคิดถึงคำพูดของถงถงเอ๋อร์ เวลานี้แปดเผ่าม้งกับจวนจินซิวอ๋องรักษาความมั่นคงไว้ได้อย่างฝืนๆ เพราะชาวเผ่าม้งหวั่นเกรงสมญานามเทพแห่งสงครามของฉู่จิ่งเหยา ขณะเดียวกันหายนะจากธรรมชาติครั้งนี้ ทำให้จิตใจผู้คนหวาดหวั่น ไม่มีกำลังต่อต้าน แต่คงมีสักวันที่พวกเขาจะสลัดออกจากการเป็นข้าทาส
การดูดรับไอทิพย์จากฟ้าดินของถังเฉียนยังคงสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างเช่นเดิม นางเคยถามถงถงเอ๋อร์ บนร่างนางมีมังกรดำตัวเดียว และนางยังเคยถามเถิงเสวี่ยถามฮว่าเหยียน หมอผีศักดิ์สิทธิ์ทุกคนบนร่างล้วนมีมังกรดำตัวเดียวเท่านั้น ไม่เคยมีมังกรแดงอะไรนั่นเลย นางเคยถามว่าเคยมีหมอผีที่มีมังกรสองตัวบนร่างหรือไม่ ฮว่าเหยียนบอกว่าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คนคนหนึ่งจะมีมังกรได้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น
เมื่อถังเฉียนได้ฟังเช่นนี้ก็รู้สึกหวั่นใจมาก นางไม่กล้าเผยความลับของตนเอง ไม่ใช่เพราะนางไม่ไว้ใจเถิงเสวี่ย แต่นางเชื่อว่าบางเรื่องนั้นถ้าเป็นสิ่งที่ดีอาจถูกคนอื่นอิจฉาและจ้องทำร้าย หากนางเผยออกไปก็คงจะถูกผู้อื่นเพ่งเล็ง เวลานี้ยังนับว่าสามารถรักษาความสงบไว้ได้ รอจนถึงวันหนึ่ง เมื่อนางไร้ประโยชน์แล้ว บางทีอาจตายก่อนคนอื่น
เถิงเสวี่ยยังกล้าใช้ประโยชน์จากฉู่จิ่งเหยา และทันที่ที่ฐานะของนางถูกยืนยัน แล้วนางยังจะมีมีไพ่อะไรในมือ
เถิงเสวี่ยแปลกใจมาก แต่ในพิธีบวงสรวงครั้งนี้ ถังเฉียนกลับไม่เกิดอาการอ่อนล้าใดๆ ไม่มีความแตกต่างจากหมอผีขั้นสูงคนอื่นๆ จื่อเย่ว์กับพวกเห็นแล้วจึงรู้สึกประหลาดใจ
แม้ว่าเถิงเสวี่ยจะแปลกใจกับเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่มีเวลาอยู่ที่นี่ต่อ อินทรีเทพของเผ่าอินทรีเงินมาถึงแล้ว เถิงเสวี่ยมีคำสั่งให้บรรจุน้ำศักดิ์สิทธิ์ในถังที่ทำขึ้นพิเศษ ให้อินทรีเทพเอาติดตัวบินไปส่งตามหมู่บ้านต่างๆเพื่อช่วยชีวิตชาวบ้าน ถังเฉียนยังอยู่ที่หล่งชวน กราบลาเถิงเสวี่ยกับพวก อยู่ต่อตามลำพังเพื่อค้นคว้าการโคจรพลังทิพย์ของตน
โลกนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม สิ่งเดียวที่ต่างออกไปก็คือ ผู้คนพากันเคารพยำเกรงถังเฉียนมากขึ้น
“ท่านหมออาหรูน่า พระชายารองเชิญท่านไปพบ”
เมื่อถังเฉียนได้ยินชื่อนี้ก็แปลกใจ นางยังไม่ได้กลับบ้านหรอกหรือ ก่อนหน้านี้ได้ข่าวแล้วว่าฉู่จิ่งเหยาตกลงให้ส่งนางกลับบ้าน เหตุใดนางยังอยู่ต่อ แต่นางก็ยังไปยังเรือนเซียงหาน
เรือนที่ไม่ใหญ่โตนักแห่งนี้ ขณะนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ครั้งนี้ซูซินเหลียนไม่ได้ถูกมัดติดกับเตียง นางนั่งอยู่นิ่งๆ แต่มีโซ่ตรวนที่เท้า ดูราวกับนักโทษ
“แม่นางจื่อเย่ว์ ท่านอ๋องสั่งให้ล่ามโซ่เช่นนี้หรือ”
จื่อเย่ว์เหลือบมองซูซินเหลียน จากนั้นจึงยิ้มแล้วตอบว่า
“ท่านอ๋องเราใจดีอยากส่งนางกลับไปเจาหยางพักฟื้น จะอย่างไรดินแดนเผ่าม้งก็เต็มไปด้วยไอพิษไม่เหมาะกับการรักษาโรค แต่พระชายารองไม่ยอมรับความหวังดี”
ถังเฉียนฟังแล้วก็มองดูซูซินเหลียนด้วยความแปลกใจ ก่อนหน้านี้นางอาละวาดอยากกลับบ้าน เหตุใดตอนนี้ถึงเปลี่ยนใจไม่กลับแล้ว จิตใจผู้หญิงเหมือนเข็มในมหาสมุทรจริงๆ