ตอนที่ 192 ไร้ยางอาย
สภาพถังเฉียนไม่สู้ดีนัก แม้ว่าเวลานี้จะใช้ยาวิเศษเพื่อรักษาชีวิตนางไว้ แต่อย่างไรก็ทำให้พลังจิตของนางเสียหาย เถิงเฟิงรู้สึกถึงผลร้ายที่มีต่อตัวนาง เขาจึงตัดสินใจไปพบหงหลิงเอ๋อร์เพื่อเอาวิญญาณของถังเฉียนคืนมา หากนางไม่ยอมคืนให้ เขาก็เตรียมใช้กำลังบีบบังคับ
เถิงเฟิงเฝ้าอยู่ข้างตัวถังเฉียนตลอดเวลา จึงไม่รับรู้เรื่องราวภายนอก ไม่รู้ว่าข้างนอกมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วแล้ว เขาออกจากห้องตรงไปที่เรือนพักของหงหลิงเอ๋อร์
“คุณชายเถิงเฟิงมาผิดเวลา ตอนนี้ศิษย์น้องหลิงเอ๋อร์เข้านอนแล้ว ท่านมามืดค่ำเช่นนี้มีเรื่องสำคัญอะไรหรือ”
ดูเหมือนถงถงเอ๋อร์แน่ใจอยู่ก่อนแล้วว่าเขาต้องมา จึงรอเขาอยู่ที่นี่
“หึ ในเมื่อนอนแล้ว ก็ไปปลุกนางขึ้นมา ข้ามาหาเรื่องกับนาง ไม่ใช่มาพูดคุย”
“เอ๊ะ นี่เป็นห้องของหญิงสาว ถ้าทำให้คุณหนูหลิงเอ๋อร์เสียชื่อเสียง คงไม่ดีแน่…”
เถิงเฟิงเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วได้ยินที่ถงถงเอ๋อร์พูด ทำให้เขาหัวเราะ แล้วหันมาพูดว่า
“ข้ามีหญิงที่ข้าเลือกแล้ว หากทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง นางต้องใช้ความตายเป็นเครื่องตอบแทน”
คำพูดที่เผ็ดร้อนไม่รักษาน้ำใจเช่นนี้หลุดออกจากปากเถิงเฟิง หงหลิงเอ๋อร์ซึ่งหลบอยู่หลังประตูไม่สามารถทนฟังได้ นางผลักประตูเปิดออก แล้วตะคอกว่า
“เถิงเฟิง เจ้ามันไร้ยางอาย!”
เถิงเฟิงเห็นนางยืนวางอำนาจอยู่ที่หน้าประตู ท่าทางโกรธเกรี้ยวสุดขีด แต่เขากลับยิ้มที่มุมปาก ถอยหลังหนึ่งก้าว มองดูหญิงตรงหน้าทั้งสองนาง แววตาฉายความเย้ยหยันและดูแคลนออกมา
“เข้าไปพูดข้างในหรือจะพูดตรงนี้ แค่อุบายตื้นๆ ของเจ้า ยังสู้เด็กสามขวบไม่ได้”
หงหลิงเอ๋อร์ส่งสายตา แล้วตัวเองเดินเข้าไปในห้อง ปล่อยให้เถิงเฟิงเข้ามา พอเข้ามาในห้องนางก็พูดเย้ยหยันว่า
“ข้าสู้เด็กสามขวบไม่ได้จริง เทียบกับหญิงสาวในดวงใจของคุณชายเถิงเฟิงไม่ได้ เป็นผู้หญิงหลายใจ อายุยังน้อยก็รู้จักล่อลวงผู้ชายแล้ว”
“หุบปากซะ อย่าบีบให้ข้าต้องลงมือกับเจ้า รีบมอบวิญญาณอาหรูน่าออกมา”
หงหลิงเอ๋อร์รู้ดีว่าด้วยนิสัยของเขา ย่อมบุกมาถึงที่ แต่นางก็ยังรู้ว่าตอนนั้นมีเพียงเถิงเจินคนเดียวที่ตรวจสอบดวงวิญญาณของเค่อหมิง คนอื่นไม่มีใครรู้รายละเอียด
“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าวิญญาณนางอยู่ที่ใด ข้ามาเพื่อช่วย แม้ข้าจะไม่ชอบนาง แต่เจ้าก็อย่าใส่ร้ายข้า อะไรที่ข้าไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ”
เถิงเฟิงฟังที่นางพูดกลับไม่โมโห
“ได้ ขอเพียงเจ้าสาบานในนามของเทพมังกรและเทพแมลงปีศาจ สาบานว่าที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายอาหรูน่า ที่อาหรูน่าบาดเจ็บนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าโดยสิ้นเชิง หากมีคำโกหกแม้แต่คำเดียว ขอให้ตายตกลงในนรกแห่งเทพมังกร ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ไม่ได้ผุดได้เกิด”
“เจ้าช่างอำมหิตจริงๆ ข้าเกลียดนางจริงและเคยข่มเหงนาง แต่นางในเวลานี้ไม่เกี่ยวกับข้าแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะคนเผ่าพีส่าเจ้าแอบฝึกวิชาลับของนิกายเทพมังกร เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ข้าไม่สาบาน เหตุใดข้าต้องสาบานด้วย”
เถิงเฟิงมองดูด้ายแดงในมือตนเอง ครั้งก่อนเขาฝืนรักษาถังเฉียน จนตัวเองบาดเจ็บเพิ่งหายดี ขณะนี้เขากำลังจะใช้วิชาลับ ก็เกรงว่าจะส่งผลร้ายต่อตัวเอง แต่ถ้าเขาไม่ใช้วิชาลับ ย่อมไม่อาจสยบหงหลิงเอ๋อร์และถงถงเอ๋อร์ได้
“อ้า!”
เถิงเฟิงไม่เกรงใจแล้ว เขาคว้าตัวหงหลิงเอ๋อร์ บีบคอนางไว้ กระพรวนในมือแบ่งเป็นสองสายมัดหงหลิงเอ๋อไว้กับผนังห้อง แล้วถามเสียงกร้าว
“ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย บอกมาว่าเจ้าขังวิญญาณอาหรูน่าไว้ที่ใด หากเจ้าไม่บอก ข้าจะตรวจสอบวิญญาณเจ้า”
“ข้าเป็นธิดาเทพแห่งเผ่าหมอผี เจ้าบังอาจทำกับข้าเช่นนี้ ข้าต้องการพบอาจารย์ เถิงเฟิง เจ้าลอบโจมตีข้า ไม่ใช่สุภาพบุรุษ”
หงหลิงเอ๋อร์คาดไม่ถึงว่าเถิงเฟิงจะทำเช่นนี้ ถึงกับล่ามดวงวิญญาณของนางไว้ แผนนี้ช่างร้ายกาจนัก ไม่เปิดช่องให้นางเลย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวนางเองที่คิดว่าเถิงเฟิงน่าจะมีใจต่อนางบ้าง คงไม่กล้าทำเรื่องร้ายกาจเช่นนี้
ตอนที่ 193 เงื่อนไขแลกเปลี่ยน
หลังจากเถิงเฟิงควบคุมนางได้แล้วก็ไม่พูดอะไรที่ไร้สาระอีก หงหลิงเอ่อร์มองตาเขา รู้ดีว่าขืนตนไม่พูด เขาย่อมใช้วิชาตรวจสอบวิญญาณแน่ หงหลิงเอ๋อร์รู้นิสัยเขาดี เขากล้าพูดกล้าทำ
“ได้ ให้เจ้าก็ได้ แต่ข้ามีเงื่อนไข”
หงหลิงเอ๋อร์ยื่นข้อเสนอ ถงถงเอ๋อร์แอบฟังอยู่ข้างนอก นางเตรียมจะไปพาคนมาช่วย แต่เถิงเฟิงไม่ให้โอกาสนาง ด้ายแดงพร้อมกับกระพรวนในมือเขาล่ามคอถงถงเอ๋อร์ไว้ ตรึงไว้ที่ประตู
“เผ่าพีส่าคอยสยบเผ่าหมอผีโดยเฉพาะ พวกเจ้าอย่าดิ้นรนเลย”
ถงถงเอ๋อร์จะอ้าปาก แต่เมื่อนางขยับด้ายแดงที่คอก็รัดแน่นขึ้น ทำให้นางไม่กล้าขยับเขยื้อน ได้แต่แอบฟังเสียงพูดคุยในห้อง
“สุนัขของเจ้า ข้าช่วยล่ามให้แล้ว วันหลังดูแลให้ดีหน่อย ถ้านางยังรังแกอาหรูน่าอีก ข้าไม่มีวันปล่อยนางแน่”
มีแววอำมหิตวาวโรจน์ขึ้นในดวงตาเถิงเฟิง คำพูดเหล่านี้เป็นการพูดกับถงถงเอ๋อร์ พอพูดจบประตูก็ปิดจากด้านใน หงหลิงเอ๋อร์ล้วงกล่องเล็กใบหนึ่งออกจากอกเสื้อ เป็นกล่องที่มีสลัก เถิงเฟิงเห็นก็มองออกทันทีว่าเป็นเครื่องล่ามวิญญาณของเผ่าหมอผี มิน่าเขาถึงตามหาวิญญาณถังเฉียนไม่เจอ ที่แท้อยู่ที่นี่เอง
“บอกมา เจ้าต้องการสิ่งใด”
หงหลิงเอ๋อร์ถือกล่องเล็กไว้ในมือ ยิ้มแล้วพูดว่า
“อาจารย์ต้องการให้สังหารนางอย่างลับๆ ป้องกันไม่ให้เราสองคนบาดหมางกัน ใครจะคิดว่าเค่อหมิงจะฝึกวิชาของนิกายเทพมังกร ข้าไม่รู้มาก่อน เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ ก็ต้องบอกว่าอาหรูน่าหาเรื่องใส่ตัวเอง ตอนนี้ข้าคืนคนให้เจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องเลิกการหมั้นหมายกับนาง”
ที่บอกว่าเลิกการหมั้นหมาย ก็คือการเอาพรศักดิ์สิทธิ์ที่มอบให้กลับคืนมา แต่เถิงเฟิงไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด
“เจ้าเองก็รู้ว่านี่เป็นเงื่อนไขที่ข้าไม่อาจตกลง ทางที่ดีพูดเงื่อนไขที่ข้าทำได้จะดีกว่า อย่าให้ข้าต้องลงมือ ไม่เช่นนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อเราทั้งคู่”
หงหลิงเอ๋อร์ครุ่นคิด กำมือแน่นแล้วพูดว่า
“หากข้อนี้ไม่ตกลง ข้าก็ไมมีเงื่อนไขอื่นแล้ว เจ้าเองก็รู้ดีว่าข้าต้องการเจ้า!”
เถิงเฟิงเชิดมุมปากขึ้น เขาไม่เชื่อคำพูดนางแม้แต่คำเดียว เขายิ้มหยันแล้วพูดว่า
“ที่เจ้าต้องการก็คืออำนาจและตำแหน่ง อาศัยการเป็นเมียข้าเพื่อควบคุมการปกครองภายใน อย่างข้าให้โอสถทิพย์เจ้าสามเม็ดดีกว่า จะช่วยให้เจ้าฝึกวิชาได้ก้าวหน้าขึ้น เจ้าไปเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากย่ารองดีหรือไม่”
หงหลิงเอ๋อร์เหลือบมองถงถงเอ๋อร์ข้างนอก ดวงตาฉายแววคาดหวังออกมา เถิงเฟิงเข้าใจหงหลิงเอ๋อร์ดี นางมีพรสวรรค์โดดเด่นจริง แต่นางไม่ได้เก่งอย่างที่คิด เมื่อเทียบกับหญิงเผ่าหมอผีคนอื่นแล้ว นางมีของวิเศษแห่งฟ้าดินมากมายคอยกระตุ้นให้เติบโต แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งอ่อนแรง
แม้ว่าขณะนี้นับว่านางยังพอใช้ได้ แต่ถ้าหากอยากก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่ง ก็ต้องอาศัยของวิเศษที่ดียิ่งขึ้น และของแบบนี้จะหาได้ในเผ่าพีส่าเท่านั้น
“เจ้าพูดจริงหรือ”
เถิงเฟิงไม่อยากเสียเวลากับนาง เขาวางโอสถทิพย์สามเม็ดลงบนโต๊ะ หลงหลิงเอ๋อร์รีบคว้าไว้ในมือ นางอยากได้มาก แต่นางก็อยากฆ่าถังเฉียนเช่นกัน นางมองดูกล่องเล็กในมือ แล้วมีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก มองดูของเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในนั้น
“แลกก็แลก ถ้าเกิดข้าฆ่านางจริงๆ เจ้าคงแค้นข้าแทบตาย อาจารย์ไม่อยากทำ แต่ให้ข้าเป็นคนเลว ข้าเองก็ไม่ใช่คนโง่”
เถิงเฟิงคาดไม่ถึงว่านางจะยอมตกลงง่ายๆ เช่นนี้ เขารับกล่องใบนั้นไว้แล้วผละไป ไม่อาลัยอาวรณ์หงหลิงเอ๋อร์แม้แต่น้อย
ถงถงเอ๋อร์เป็นอิสระแล้ว นางอดถามไม่ได้
“เจ้าปล่อยอาหรูน่าแล้วหรือ เราวางแผนตั้งนาน เพื่อโอสถทิพย์สามเม็ดอย่างนั้นหรือ”