ตอนที่ 258 ส่งข่าว
“ที่ท่านหมอฮว่าเหยียนพูดหมายความว่า ท่านลุงอยากฆ่าเฟิงเอ๋อร์ แต่เฟิงเอ๋อร์เป็นหลานของท่านลุง คำพูดนี้ไม่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้คนเชื่อ อีกอย่างเวลานี้ไม่ว่าคนที่ทำร้ายอินทรีเงินจะเป็นอาหรูน่าหรือคนอื่นก็ตาม ล้วนชี้ให้เห็นว่าอาหรูน่าไม่เป็นไร จินซิวอ๋องเองก็ไม่เป็นไร ขณะนี้มีเสียงลือมากมาย อย่าทำลายความสงบเลย”
เถิงเจินพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ที่อวิ๋นเอ๋อร์พูดมีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม ก็ต้องสืบให้รู้แน่ชัด ควรส่งคนไปที่เมืองตามังกร ถามให้รู้แน่ว่าท่านอ๋องกับอาหรูน่าปลอดภัยหรือไม่ รวมทั้งถามเรื่องที่อินทรีเงินถูกทำร้ายด้วย”
เถิงเฟิงสังเกตดูเชือกที่ผูกติดมา รู้สึกคุ้นตามาก เขาแทบจะมั่นใจว่านี่เป็นการกระทำของถังเฉียนแน่นอน แต่วันนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่สะดวกที่จะพูด วันนี้เมื่อเขายิ่งเห็นสิ่งเหล่านี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของถังเฉียนก่อนจากไปมีความหมายเป็นพิเศษ ไม่เหมือนท่วงทำนองของนางที่ผ่านมา
เถิงเฟิงไม่ให้คนอื่นเห็นเชือกเส้นนั้น เขาแอบเอากลับไปค้นคว้าที่ห้องอย่างละเอียด
เขาพลิกดูเชือกเส้นนั้นไปมาอยู่ในห้อง กำอยู่ในฝ่ามือคิดทบทวนไปมาแล้วรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล คืนนั้นอิ๋นซานมาหาเขาที่ห้อง เพราะนางกลัวว่าเถิงเฟิงจะคิดถึงเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ แล้วเอาแต่หมกมุ่นอยู่คนเดียว จึงมาหาลูกชายเพื่อเป็นเพื่อนคุย
พอเข้ามาในห้องก็เห็นเถิงเฟิงนั่งถือเชือกท่าทางเหม่อลอย จนนางมาถึงข้างตัวแล้วแต่เถิงเฟิงก็ยังไม่รู้สึกตัว
“เด็กโง่ ลูกกำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ”
เถิงเฟิงวางเชือกเส้นนั้นลง ค้อมคารวะอิ๋นซาน จากนั้นจึงค่อยๆ ตั้งสติ แล้วพูดว่า
“วันที่นางจากไป ลูกรู้สึกว่าคำพูดนางมีความหมายแฝงอยู่อย่างลึกซึ้ง วันนี้เห็นเชือกเส้นนี้ ลูกจำได้ว่านางเคยใช้เชือกนี้พันแผลให้ นางบอกว่าจะทำให้แผลดูดีขึ้น เวลาป่วยจะหาเจอง่าย พอหายดีแล้วก็จะจางลงได้ง่าย ลูกคิดไม่ออกว่าในนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร”
อิ๋นซานตบศีรษะลูกชายเบาๆ แล้วพูดว่า
“เวลาที่ผู้หญิงโกรธมักจะทำเรื่องโง่ๆ ก็เหมือนที่ลูกถือเชือกเส้นนี้ไว้แล้วคิดสะเปะสะปะ ไม่แน่หรอก นางอาจแค่ผูกเชือกเส้นไว้เฉยๆ อาหรูน่าเป็นเด็กที่แข็งกร้าวเกินไป เหตุใดจึงกล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าผู้คน เวลานี้ยังทำให้อินทรีเงินของลุงเจ้าเป็นเช่นนี้ มิน่า ลูกถึงชอบนาง ล้วนแต่ชอบก่อเรื่องเดือดร้อนเหมือนกัน”
เถิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะทันที ถือเชือกไว้พลางหัวเราะร่า อิ๋นซานไม่รู้ว่าตนพูดอะไรผิดไป ถึงทำให้ลูกชายหัวเราะ
“ลูกแม่…”
“แม่ ลูกไม่เป็นไรหรอก เพียงแต่ลูกเข้าใจความหมายของเชือกเส้นนี้แล้ว แม่ ท่านลุงเตรียมจะจัดการกับอินทรีเงินตัวนั้นอย่างไร”
อิ๋นซานถอนหายใจ
“สีแดงบนตัวมัน ล้างอย่างไรก็ไม่ยอมหลุดออก ลุงเจ้าโกรธมาก จับมันโยนทิ้งในเขตหวงห้ามปล่อยให้เป็นตายตามยถากรรม เวลานี้คงอยู่ในเขตหวงห้าม”
เถิงเฟิงได้ฟังก็วิ่งออกไปจากห้องทันที อิ๋นซานเอามือกุมขมับ รู้สึกปวดศีรษะ ยังดีที่หรูอี้พูดปลอบว่า
“ฮูหยิน เหตุใดถึงปวดหัวอีกเจ้าคะ ท่านกังวลใจว่าคุณชายจะคิดไม่ตก เวลานี้คุณชายก็คิดตกแล้ว เหตุใดยังกังวลอีกเจ้าคะ”
อิ๋นซานนับสายประคำในมือแล้วยื่นมือออกไป หรูอี้พยุงนางเดินออกไป อิ๋นซานเดินไปพลางพูดว่า
“แม้ข้าจะอยู่กับอาหรูน่าไม่นาน แต่ชีวิตนางเชื่อมโยงกับเฟิงเอ๋อร์ ถ้าเด็กคนนี้อวดเก่งถือดีเกินไป ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ อีกอย่างคนอย่างหงหลิงเอ๋อร์ก็เป็นพวกเรื่องเยอะ”
หรูอี้ได้ยินเช่นนั้นก็พูดด้วยความหงุดหงิดว่า
“ฮูหยินไม่ควรเอาใจหงหลิงเอ๋อร์เช่นนี้ ในเมื่อคุณชายหมั้นหมายแล้ว ก็ถือเป็นคนที่มีเจ้าของ นางเองก็เป็นคุณหนู แต่กลับทำเรื่องต่ำช้า บ่าวเองยังดูถูกนาง เหตุใดฮูหยินจึงปกป้องนาง”
ตอนที่ 259 ที่พักพิง
อิ๋นซานโบกมือ หยุดยืนแล้วพูดว่า
“แต่นางจริงใจต่อเฟิงเอ๋อร์ นางมีชาติกำเนิดสูงส่ง อารมณ์ร้อนดั่งไฟ แต่กลับดูดีกว่าอาหรูน่าซึ่งมีความเป็นมาไม่ชัดเจน ถ้านางสามารถทำให้เฟิงเอ๋อร์เปลี่ยนใจได้ ใช้วิธีเหล่านั้นแล้วจะอย่างไร”
“ฮูหยิน ท่าน”
หรูอี้แทบไม่อยากเชื่อว่าอิ๋นซานจะพูดเช่นนี้ออกมา ฮูหยินซึ่งปกติยึดถือคุณธรรมและรักษาแบบแผน เหตุต้องสนับสนุนหงหลิงเอ๋อร์ด้วย หรือนางเห็นความสำคัญของชาติกำเนิดถึงเพียงนี้
“ที่ฮูหยินทำเช่นนี้ก็เพื่อความมั่นคงภายในเผ่า อาหรูน่านั่นไม่ใช่ชาวหนานเจา ไม่ใช่คนเผ่าเรา ย่อมมีความคิดต่างออกไป จะอย่างไรก็ถือว่าเป็นภัยร้าย”
จี๋เสียงนานๆ ครั้งจึงจะได้ออกมา ปกตินางแทบจะไม่พูด แต่คิดไม่ถึงว่าพอพูดออกมาก็ปฏิเสธถังเฉียนอย่างสิ้นเชิง หรูอี้ไม่สามารถโต้แย้ง แต่สีหน้าก็ยังคงไม่ยอมรับ
เถิงเฟิงไปที่เขตหวงห้ามช่วยอินทรีเงินตัวนั้นออกมา แล้วเลือกยอดเขาแห่งหนึ่งให้เป็นที่พักพิงของมัน แม้อิ๋นจ้านจะรู้เรื่องที่เถิงเฟิงทำลงไป แต่คิดว่าหลานชายตนเองเกิดใจอ่อนเท่านั้น เขาถือว่าอินทรีเงินตัวนั้นถูกถังเฉียนฆ่าตายไปแล้ว เถิงอวิ๋นกลับมาที่ห้องทดลองของตน รู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ เวลานี้ถังเวยหายดีแล้ว ทำและพูดอะไรคล่องแคล่วขึ้นมาก ถ้าถังเฉียนได้มาเห็นนางขณะนี้คงจะดีใจมาก
“วันนี้คุณชายใหญ่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่ได้ยินว่าท่านลุงโมโหมาก”
เถิงอวิ๋นไม่มีท่าทีจะปิดบังอะไร เขาเชยคางถังเวยขึ้นแล้วพูดว่า
“เจ้าไม่รู้หรอกว่าพี่สาวเจ้าเกือบทำให้ท่านลุงอกแตกตาย โลกนี้มีเพียงนางที่กล้าเล่นงานคนเช่นนี้ สนุกจริงๆ”
ถังเวยหน้าแดงเมื่อถูกเถิงอวิ๋นสัมผัสตัว นางก้มหน้าเดินตามหลังเถิงอวิ๋น แล้วได้ยินเขาพูดว่า
“เจ้าเตรียมของที่ข้าต้องการเสร็จหรือยัง เวลานี้ท่านลุงเราอารมณ์ไม่ดี เขาต้องการให้รีบส่งไปให้เขา เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถึงตอนนั้นจะโทษว่าเป็นความผิดของเรา คนอย่างเขาเวลาโกรธไม่มีเหตุผลที่สุด”
ถังเวยค้อมคารวะ ใบหน้านางแดงระเรื่อ
“ฮัดเช่ย!”
ฉู่จิ่งเหยาวางถังเฉียนลงบนพื้น นางจามออกมา เขามองเสื้อผ้านาง ออกจะบางเกินไป ยิ่งเดินทางขึ้นเหนืออากาศก็ยิ่งเย็นลง โดยเฉพาะขณะนี้มืดค่ำมากแล้ว
“เร่งเดินอีกนิดก็จะถึงโรงเตี๊ยมแล้ว คืนนี้พักผ่อนดีๆ พรุ่งนี้เราจะไปที่ค่ายใหญ่ทางเหนือ ที่นั่นมีลูกน้องข้า ถึงตอนนั้นเราจะเดินทางขึ้นเหนือโดยตรงเลย”
ฉู่จิ่งเหยาพูดพลางประคองไหล่ถังเฉียนตรงไปยังโรงเตี๊ยม คืนนี้ทั้งสองพักในห้องใหญ่ ถังเฉียนนอนบนเตียงด้านใน ฉู่จิ่งเหยานอนบนตั่งด้านนอกมีฉากผ้าแพรกั้นกลาง
“ท่านอ๋อง ครั้งนี้พวกนั้นฆ่าเราไม่สำเร็จ จะลงมืออีกหรือไม่? ถ้ามีซูซินเหลียนอยู่ด้วยก็คงดี บางทีนางอาจจะบอกได้ว่ามีมือสังหารหรือไม่”
ฉู่จิ่งเหยารู้ว่าถังเฉียนวิตกว่าคืนนี้จะมีคนมาลอบฆ่า แม้ว่าหลายวันมานี้ทั้งสองจะไม่พบคนร้าย แต่มีสุนัขป่าและเสือเพ่นพ่านตามทาง ถ้ามีอินทรีเงินอยู่ด้วย สัตว์พวกนี้จะไม่กล้าเข้าใกล้พวกเขา แต่ขณะนี้เข้ามาในตัวเมืองแล้ว ถังเฉียนกลับหวั่นใจ
“ไม่หรอก แม้แต่เราเองยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วพวกนั้นจะมีโอกาสหาเราเจอหรือ ถ้าคิดจะลอบสังหารอย่างน้อยก็ต้องรอให้อ๋องอย่างข้าอยู่บนถนนสายหลักมุ่งไปยังเจาหยางก่อน”
ถังเฉียนร้องอืม พลิกตัวไปแล้วดึงผ้าห่มขึ้น ฉู่จิ่งเหยาหันมา อาศัยแสงจันทร์มองดูเงาร่างหลังฉากผ้าแพร มีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก
ถังเฉียนไม่รู้ถึงสายตาข้างนอก นางครุ่นคิดในใจแล้วพลิกตัวไปข้างๆ