ตอนที่ 302 เหาเก๋อ
ถังเฉียนมองดูกลุ่มชายสวมหน้ากากปีศาจคุมตัวเหาเก๋อไป นางร้อนใจ รีบก้าวพรวดออกไป
“เหตุใดพวกเจ้าต้องพาตัวเขาไป เขาทำสิ่งใดผิดกัน”
นางผลุนผลันออกมา ทำให้คนกลุ่มนั้นชะงัก จากนั้นก็ชักดาบออกมา เป็นการขู่ว่าจะฟันนางคิดไม่ถึงว่าจะเจอกลุ่มโจรที่ไร้เหตุผล แต่ก็ไม่ทำให้นางถอย
“อย่าก้าวมาอีก ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้ว พวกเจ้าบอกมา เขาทำสิ่งใดผิด เหตุใดจึงพาตัวเขาไป”
นางกดไหล่เหาเก่อไว้แน่น แสดงว่าจะไม่ยอมให้เขาถูกคุมตัวไป คนกลุ่มนั้นทำท่าจะลงมือ แต่ถูกคนที่อยู่ข้างหลังตะคอกใส่
“เหาเก๋อไปยังที่ที่ไม่ควรไป ต้องจัดการด้วยกฎของพวกเรา ยังมีเวลาอีกสามวัน ถ้าเจ้ายังคิดหาวิธีรักษาโรคระบาดไม่ได้ ท่านหมอระวังศีรษะของตัวเองไว้เถอะ”
คนผู้นี้ก็คือคนที่นำทางพวกเขาเข้ามาในตอนแรก ท่าทางโหดเ**้ยมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้ำเสียงของเขา นางรู้สึกว่าคล้ายกับเสียงที่ได้ยินที่นั่นในคืนนั้น
“ข้าย่อมดูแลศีรษะตัวเองได้ แต่เป็นข้าที่ขอให้เหาเก๋อไปสำรวจหาแหล่งน้ำใหม่ ข้ากับนักพรตหันพบว่าแหล่งน้ำที่เราใช้ในเวลานี้มีซากศพเป็นจำนวนมาก แหล่งน้ำปนเปื้อนอย่างหนักแล้ว ถ้าเรายังดื่มหรือใช้น้ำที่สกปรกนี้ต่อไป โรคระบาดที่นี่จะไม่ทุเลา ตรงกันข้าม…”
“หุบปาก!”
ชายคนที่เป็นหัวหน้าโกรธแล้ว ตวาดใส่ถังเฉียน แต่เมื่อนางเอ่ยขึ้นแล้ว ย่อมไม่คิดจะหยุดลง เมื่อเห็นคนรอบข้างพากันแสดงความเห็น นางจึงพูดต่อ
“ใต้เท้าย่อมรู้ดี น้ำทางต้นน้ำปนเปื้อนเพราะศพที่เน่าเปื่อย เมื่อใครกินและใช้น้ำแบบนี้ ย่อมเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆ หากไม่แก้ไขแหล่งน้ำ จะรักษาโรคนี้ไม่ได้ ท่านไม่คิดที่จะรักษาโรคให้ชาวบ้านหายป่วยเลยหรือ”
“พูดเหลวไหล หมอผีหญิงผู้นี้กำลังทำให้ผู้คนสับสน ข้าบอกแล้วว่าชาวเซวียนกั๋วไว้ใจไม่ได้ เจ้าเป็นสายลับ จับตัวนางไว้ แล้วรีบไปเชิญเจ้าแม่มา”
ถังเฉียนได้ยินว่าจะไปเชิญแม่มดมา นางไม่ใช่ไม่นึกกลัว ถังเฉียนไม่รอบรู้เวทย์มนตร์อะไร แต่นางเชื่อว่าโลกนี้มีผีและเทพจริง และนางก็เคารพผีและเทพด้วย
แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุที่จะทำให้นางหวาดกลัว
“เจ้าแม่ โปรดดูนาง นางเป็นปีศาจร้ายใช่หรือไม่ นางจะทำลายเสิ้งจิง นำหายนะมาสู่เสิ้งจิงใช่หรือไม่”
ถังเฉียนร้องหึ แล้วพูดว่า
“น่าขันเสียจริง ข้าเพิ่งมาที่นี่แค่สี่วัน โรคระบาดที่นี่เกิดขึ้นสิบห้าวันแล้ว อย่าพูดเด็ดขาดว่าข้าที่อยู่ไกลออกไปนับพันลี้ก็สร้างหายนะให้กับที่นี่ได้ เห็นชัดๆ ว่าพวกเจ้าฆ่าคน ซ่อนศพไว้ ข้าไปพบเข้า พวกเจ้าจึงต้องการฆ่าปิดปาก”
เดิมทีหันเทียนซวี่เพียงแต่ยืนมองถังเฉียนเผชิญหน้ากับคนพวกนี้ แต่ถึงเวลานี้เขาจำเป็นต้องก้าวออกมาแล้ว
“พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ทุกคนคงรู้ดีว่าน้ำที่นี่มีรสชาติเปลี่ยนไป เพราะพวกเขาซ่อนศพไว้ในแม่น้ำใต้ดิน ทำให้เชื้อร้ายแพร่กระจายลงมา ทุกท่านเพิ่งอาการดีขึ้นบ้าง พอใช้น้ำนี้อาการก็กำเริบอีก คนพวกนี้ต้องการทำร้ายทุกท่านให้ตาย ทุกคนอย่าเชื่อคำหลอกลวงของพวกนี้”
ถังเฉียนดึงเหาเก๋อ แล้วพูดว่า
“เจ้าบอกกับทุกคน เจ้าเห็นศพมากมายที่แหล่งน้ำบนเขาด้วยตาตัวเองใช่หรือไม่”
ตอนที่ 303 พลิกลิ้น
คำพูดของถังเฉียนกับพวกไม่สามารถทำให้คนที่นี่เชื่อได้ มีเพียงเหาเก๋อซึ่งเป็นคนของที่นี่ ถ้าเขายอมพูด ทุกคนจึงจะยอมเชื่อพวกเขา ในเมื่อเห็นมากับตาตัวเอง ถังเฉียนเชื่อว่าเขาต้องพูดความจริงออกมา
“เหาเก๋อ เจ้าบอกทุกคนว่าที่ต้นน้ำมีสิ่งใด”
ถังเฉียนถาม เหาเก๋อไม่พูด เอาแต่ก้มหน้า ตั้งแต่ต้นจนจบถังเฉียนช่วยโต้แย้งแทนเขา แต่เขากลับไม่พูดแก้ตัวอะไรเลย แม้กระทั่งขณะนี้นางถามเขา เขาก็ยังไม่เปิดปากพูด จนเมื่อนายทหารคนนั้นถามเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นพูดว่า
“บนนั้นมีแค่กองหิน ใต้เท้า ข้ามัวแต่ห่วงเล่นเลยหลงเข้าไปในเขตหวงห้าม ใต้เท้าโปรดยกโทษให้ข้าสักครั้งเถอะ”
ถังเฉียนคิดไม่ถึงว่าเขาจะพลิกลิ้นในเวลานี้ เขาไม่ใช่คนแบบนี้ หรือว่าเขาถูกข่มขู่ แต่ว่า…
นางถือขยุ้มกระดาษที่เขาให้อยู่ในมือ แล้วรู้สึกเครียดขึ้นมาทันที รีบซ่อนไว้ในที่ลับ
หันเทียนซวี่มองดูถังเฉียน แล้วหันไปมองเหาเก๋อซึ่งคุกเข่านิ่งเงียบอยู่ จากนั้นดึงมือนางที่กดอยู่บนไหล่เหาเก๋อกลับมา
“เข้าใจผิด เข้าใจผิดแล้วนายท่าน เราให้เด็กคนนี้ไปหาแหล่งน้ำ ท่านหมอของเราท่านนี้เกิดในตระกูลสูง ต้องดื่มน้ำจากบ่อน้ำพุที่รสหวานเท่านั้น ข้าก็แค่อ้างเหตุผลเรื่อยเปื่อยเพื่อให้คนไปช่วยหาแหล่งน้ำเท่านั้นเอง ใต้เท้าโปรดให้อภัยด้วย”
มือนางอยู่ห่างจากเหาเก๋อมากขึ้นทุกที นางเห็นเหาเก๋อไม่ยอมอธิบาย ก็ยิ่งกำกระดาษในมือแน่นขึ้น บางทีเหาเก๋ออาจจะรู้แต่แรกแล้วว่าการพูดสิ่งใดที่นี่ไม่มีประโยชน์
“เจ้าตัวแสบ ข้าตั้งใจจะช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับแว้งกัดข้า คนป่าเถื่อนที่ไม่มีอนาคตจริงๆ”
นางหลังหลังกลับจะผละไป นายทหารคนนั้นยังจะคุมตัวนาง เขาก้าวตามมา แต่หันเทียนซวี่ดึงตัวเขาไว้ แล้วเอาทองแท่งยัดใส่มือเขาแท่งหนึ่ง
“ใต้เท้าย่อมไม่ถือสาผู้น้อย หมอผีหญิงท่านนี้ของเราเป็นฮูหยินของว่าที่หัวหน้าผู้บวงสรวงแห่งเผ่าม้ง ฐานะสูงส่ง ท่านย่อมรู้แบบแผนของผู้บวงสรวง มีเรื่องน้อยหน่อยจะดีกว่า”
สุดท้ายที่ถังเฉียนรอดตัวเพราะฐานะของนางที่เถิงเฟิงมอบให้ แต่ว่าแม่มดนางนั้นอัญเชิญวิญญาณศํกดิ์สิทธิ์ลงมาแล้ว แววตานางเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันที นางมองดูแวบเดียวก็รู้สึกเหมือนถูกอสรพิษจ้องมอง
“เจ้าแม่มีความเห็นเช่นไรขอรับ”
แม่มดมองดูถังเฉียนไม่วางตา แล้วรีบเก็บพลังเวทย์ของตน เมื่อกี้ในชั่วพริบตานั้น ถังเฉียนรู้สึกเหมือนเห็นงูเหลือมขนาดยักษ์พันรอบตัวหญิงแม่มด มันจ้องมองนางอย่างดุร้าย ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมอบให้ได้ ทำให้นางหวาดผวา
“บนตัวนางมีตราประทับจริง นางคือผู้หญิงของผู้บวงสรวงแห่งเผ่าม้ง ไม่ผิดแน่ นางคงจะมีเจตนาดี อยากช่วยเด็กนั่น แต่ที่พูดถึงศพออกจะไร้สาระเกินไป แต่นางยังอายุน้อย ควรให้อภัย ขอให้ครั้งนี้เท่านั้น อย่าทำผิดซ้ำอีก”
แม่มดหญิงถอนพลังทิพย์ของตัวเองออกอย่างสิ้นเชิง ทำให้ถังเฉียนหายใจคล่องขึ้นมาก ต้องย่อมรับว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า
ถังเฉียนกลับมาที่ห้องของตน หันเทียนซวี่ตามเข้ามา ถังเฉียนบอกว่า
“เหตุใดเจ้าจึงบอกฐานะข้าออกไป”
หันเทียนซวี่ร้องหึ แล้วพูดว่า
“ใครให้ท่านผลีผลามออกไปเช่นนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะฐานะฮูหยินแห่งผู้บวงสรวง ท่านคิดว่าแค่ทองแท่งเดียวพวกนั้นจะยอมปล่อยท่านหรือ”
ถังเฉียนไม่เข้าใจฐานะของฮูหยินผู้บวงสรวง อยู่ห่างไกลนับพันลี้ยังใช้ได้หรือ
“ต่อให้ข้าเป็นฮูหยินผู้บวงสรวง แต่เส้นทางไกลขนาดนั้น หรือว่าเถิงเฟิงจะพาคนมาบุกที่นี่ได้”