ตอนที่ 318 อพยพ
ตัวเสิ้งกับคนข้างๆ ต่างพยักหน้า แล้วพูดว่า
“พวกข้าคิดดีแล้ว เราตัดสินใจจะพาคนในเผ่ากับภาพร่างของอาวุธที่เป็นแกนกลางของพวกเรา อพยพไปยังเทือกเขาที่สูงขึ้นไปทางเหนือ เมื่อไปถึงที่นั่น คงไม่ถูกพวกนั้นค้นเจอแล้ว”
ถังเฉียนรู้ว่านี่เป็นวิธีสุดท้ายแล้ว เมื่อเห็นท่าทางสิ้นหวังของพวกเขา ถังเฉียนจึงยิ้มแล้วพูดว่า
“พวกเจ้าเคยได้ยินชื่อจินซิวอ๋องหรือไม่”
ถังเฉียนไม่รู้ว่าทำไมจึงนึกถึงดินแดนเหมียวเจียง ยังนึกถึงเขาด้วย บางทีคงเพราะนางรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่สามารถฝากชีวิตไว้ได้
“เจ้าหมายความว่าจะให้พวกเราติดตามเขาอย่างนั้นหรือ แต่เขาอยู่ที่ดินแดนทุรกันดารอย่างเหมียวเจียงไม่ใช่หรือ ถ้าพวกเราไปที่นั่นกลัวว่าคงจะมีชีวิตรอดได้เพียงไม่กี่วัน เราเป็นคนทางเหนือ ทนกับอากาศชื้นไม่ได้”
“ใช่แล้ว เหมียวเจียงเต็มไปด้วยไอพิษ ไปที่นั่นก็เท่ากับตาย”
นางฟังพวกเขาพูดแสดงความเห็น ทุกคนห่วงใยอนาคตของตนเอง
“เขากำลังจะมาที่นี่เพื่อรับข้า ข้าเชื่อว่าจินซิวอ๋องมีวิธีช่วยหาที่พักพิงให้พวกเจ้า ต่อให้แย่ที่สุด เขาก็ยังคุ้มครองพวกเจ้าอพยพขึ้นเหนือได้ สรุปก็คือถ้ามีเขาจะต้องช่วยพวกเจ้าได้แน่”
ถังเฉียนพูดมากมายเช่นนี้ นางไม่ได้คิดเลยว่าฉู่จิ่งเหยาในใจนางจะมีความยิ่งใหญ่เช่นนี้ นางถึงกับเชื่อมั่นเขาถึงขนาดนี้
“คนคนนี้ เป็นสามีเจ้าหรือ”
นางรีบโบกมือปฏิเสธ ตัวเสิ้งจึงวางใจที่จะพูด
“เขาไม่ใช่เทวดา ทั้งยังไม่ใช่ฮ่องเต้ แต่ก็เป็นอ๋อง สามารถนั่งเสมอกับอ๋องอุดรได้ ถ้าบอกว่าเขาสามารถพาคนจำนวนหนึ่งไปได้ ข้ายังพอเชื่อ แต่คิดจะคุ้มครองทุกคนที่นี่ ข้าไม่เชื่อหรอก จะอย่างไรก็ต้องขอบใจในความปรารถนาดีของเจ้า แต่ต้องรบกวนเจ้าให้ช่วยพาพี่ชายข้ากลับมา เราต้องการเขาจึงจะเปิดประตูที่ศูนย์กลางได้”
ถังเฉียนร้องอืม แล้วพูดว่า
“ได้ ข้าจะพยายามเต็มที่ แต่ถ้าเขาไม่ยอมมากับข้า แล้วจะทำอย่างไร”
ตัวเสิ้งบอกว่า
“เช่นนั้นเจ้าก็บอกเขาว่า ถ้าเขาไม่ไป ข้าขอชิงระเบิดสถานที่บ้าๆ นี่ก่อน ทุกคนจะตายด้วยกัน”
นางเห็นตัวเสิ้งอายุไม่มาก แต่อารมณ์รุนแรงเหลือเกิน ผิดใจด้วยคงไม่คุ้มนัก
ระยะนี้ถังเฉียนวุ่นวายกับเรื่องของตนเองตลอด นางไม่รู้ว่าทางฉู่จิ่งเหยานั้นมีก็การเคลื่อนไหวใหญ่มากมาย
คนที่เหมียวเจียงสังหารเขาครั้งหนึ่งไม่สำเร็จ ย่อมไม่ยอมรามือ ข้าหลวงใหญ่ที่ถูกส่งมายังเหมียวเจียงอย่างต่อเนื่องแต่ละคนมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสามปี ภายในสามปีต้องจบชีวิตเพราะความวุ่นวาย ไข้ป่าหรือโรคอื่น แม้ฮ่องเต้จะไม่พอพระทัย แต่พวกเขาก็ไม่เคยประกาศตัวเป็นกบฏ จึงไม่อาจยกทัพไปปราบ
เนื่องจากจินซิวอ๋องฉู่จิ่งเหยาไม่เป็นที่โปรดปรานจึงถูกส่งมาที่นี่ จะเห็นได้ว่าฮ่องเต้ทรงคิดจะประหารเขา อันกุ้ยเฟยฉวยโอกาสนี้ลงมือระหว่างทาง แล้วโยนความผิดให้แปดเผ่าแห่งเหมียวเจียง แต่คิดไม่ถึงว่าฉู่จิ่งเหยารอดชีวิตมาได้ ทั้งยังได้รับการช่วยเหลือจากหมอผีของแปดเผ่า
แต่นางไม่ยอมรามือง่ายๆ ดังนั้นจึงส่งหลานสาวตนเองไปที่เหมียวเจียง ข้อแรกเพื่อเป็นสายสืบ ข้อสองเป็นมือสังหาร คงมีสักวันที่นางจะสามารถจบชีวิตฉู่จิ่งเหยาได้
ฉู่จิ่งเหยาจงใจเดินทางช้าลง เพื่อให้คนของเหมียวเจียงตามมาทัน เขาจะได้นำคนไปล้อมจับ แล้วพาคนผู้นี้กลับเมืองหลวง กลายเป็นตัวประกันของกันและกัน
ถังเฉียนนึกแปลกใจ ใครกันแน่ที่เป็นตัวประกันของฉู่จิ่งเหยา และยิ่งอยากรู้ว่าซูซินเหลียนมอบป้ายคำสั่งโยกย้ายทหารให้ท่านอ๋องหรือไม่ ถ้าขณะนี้ในมือเขายังไม่มีป้ายคำสั่งนี้ เกรงว่ายังไม่ทันถึงเจาหยางก็คงตายเสียก่อน
ตอนที่ 319 เขามาแล้ว
คนผู้นี้ไม่อาจทนต่อการถูกกล่าวถึงได้ ถังเฉียนกับพวกกำลังปรึกษาหาวิธีรับมือ คิดว่าวันนี้เป็นค่อนข้างพิเศษ พวกเขาก็ออกไปไม่ได้ จึงกลับไปอีกครั้ง แต่เพิ่งกลับมาถึงห้องตนเองไม่นานก็ได้ยินเสียงเอะอะข้างนอก เงี่ยหูฟังจึงรู้ว่าฉู่จิ่งเหยาพาคนมาถึงแล้ว
นางเกาะอยู่ที่หน้าต่าง มองดูกลุ่มคนที่มามุงดู รู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก
“ท่านอ๋องมาแล้ว เจ้าดีใจขนาดนี้เชียว คนอื่นไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของท่านอ๋อง”
นางยืนขึ้น ไม่ใส่ใจที่หันเทียนซวี่หยอกล้อ แต่เพิ่งเปิดประตูออกไปก็เห็นเขายืนอยู่ที่หน้าประตู สีหน้าร้อนรน
เดิมกำลังจะเคาะประตู เลยกลายเป็นเคาะหน้าผากนางแทน
“ยังดี ศีรษะเจ้ายังตั้งอยู่บนคอเจ้า”
เขายิ้มเมื่อเห็นถังเฉียนดูร่าเริง เพียงแต่เก็บความรู้สึกยินดีไว้ลึกมาก เมื่อเข้ามาในห้องก็เห็นหันเทียนซวี่
“ผู้น้อยคารวะท่านอ๋อง ได้ยินเสียงอึกทึกข้างนอก ผู้น้อยเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านหมอ จึงตั้งใจมาดู เวลานี้ท่านอ๋องมา ย่อมไม่มีเรื่องแล้ว ผู้น้อยขอลาไปก่อน”
ฉู่จิ่งเหยาเพียงแต่โบกมือให้เขาลากลับไป ถังเฉียนเห็นเขาก็รู้สึกปลอดภัยที่สุด ฉู่จิ่งเหยาเองไม่ถือว่าตนเองเป็นคนนอก พอเข้ามาก็ปิดประตูดังปัง แล้วพูดว่า
“พักเสีย พรุ่งนี้ยามเหม่าสือสามเค่อ กลับ”
“กลับ? กลับไปไหน”
ฉู่จิ่งเหยาดึงมือนาง ไม่ให้นางพูดเรื่อยเปื่อย จากนั้นจึงนอนลงบนเตียงนาง แล้วร้องสั่ง
“น้ำ”
ถังเฉียนยกน้ำมาให้เขาอย่างคล่องแคล่ว เห็นเขาดื่มน้ำจนหมดถ้วย จึงยื่นน้ำให้อีก นางมองดูเขาดื่มแล้วเทน้ำให้เขาอีก ฉู่จิ่งเหยาดื่มต่อกันสามถ้วยจึงหยุดดื่ม
“ข้าขี่ม้ามาห้าวัน ทำม้าตายไปสามตัว เพราะกลัวว่าศีรษะเจ้าจะถูกคนพื้นเมืองตัดออกไป คนอย่างอ๋องอุดรไม่รู้จักเหตุจักผล ไร้ความสงสาร เจ้าช่างใจกล้าเหลือเกิน ไม่ว่าอันตรายแค่ไหนก็เอาตัวเข้ามายุ่งด้วย”
นางรู้ว่าเขาคงได้ข่าวว่านางถูกฮ่องเต้ส่งมาที่นี่ จึงรีบมาด้วยความร้อนใจ
“เรื่องทางเจาหยาง ท่านอ๋องจัดการเรียบร้อยหรือยัง”
ฉู่จิ่งเหยายกถ้วยชาขึ้น แล้วถามว่า
“ทายสิ ใครมาด้วย”
ถังเฉียนฟังที่เขาถาม น่าจะเป็นคนที่ตนเองรู้จัก เรื่องนี้น่าสนใจแล้ว
“ข้ารู้จัก?”
ฉู่จิ่งเหยาพยักหน้า เขาถอดเสื้อเกราะออก ปลดกระบี่ที่คาดเอวมาแขวนไว้ที่หัวเตียง ยังเอามีดสั้นวางไว้ใต้หมอน แล้วจึงนอนพิงผ้าห่มเตรียมจะพักผ่อน
“หรือว่าเป็นพี่เถิงอวิ๋น?”
ฉู่จิ่งเหยาเดิมหลับตาพักผ่อนอยู่ พอได้ยินที่นางพูดก็ลืมตาขึ้นทันที เห็นนางมีท่าทางทั้งแปลกใจและดีใจ
“เจ้ากลับฉลาดกว่าที่ข้าคิด ข้าคิดว่าเจ้าถูกคนมอมยา ถึงเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง ทิ้งโอกาสงานดีๆ ให้คนอื่น ตัวเองมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ที่นี่”
นางฟังออกว่าในคำพูดแฝงด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง จึงขยับเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า
“ท่านอ๋องไม่ได้ฆ่าเขา?”
เขาเพียงยิ้มแต่ไม่พูดอะไรอีก ต้องให้นางคอยนึกถึงเรื่องวันนั้นเสมอ เขาจึงไม่อยากให้นางรู้คำตอบเร็วเกินไป
ถังเฉียนรู้ว่าท่านอ๋องเดินทางมาด้วยความเหนื่อยยาก จึงไม่รังเกียจที่เขานอนหลับบนเตียงของตนเอง แล้วนางหลบมานอนบนตั่งในห้องด้านนอก พอได้ยินเสียงกรนเบาๆ ของเขา ก็นึกว่าเขาควบม้าห้าวันเพื่อมาถึงที่นี่ได้อย่างไร
“ท่านอ๋อง คงกลัวว่าข้าตายไปแล้วจริงๆ”