ตอนที่ 326 ก่อกบฏ
ถังเฉียนได้ยินเสียงร้องบอก ทันใดนั้นก็นึกออกทันทีว่านี่เป็นการสร้างเรื่องเพื่อใส่ร้ายนาง ทั้งนางยังไม่มีวิธีขัดขวางการถูกใส่ร้าย แต่นางย่อมไม่อาจยอมแพ้เช่นนี้
ถังเฉียนมองดูถุงผ้าแพรสีเหลือง นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืออะไร ได้แต่จ้องมองข้าหลวงใหญ่เปิดถุงออก หยิบตุ๊กตาผ้าของหมอผีกับหนังสือราชโองการปึกหนึ่ง
“”นี่เป็นหลักฐานว่าเผ่ากุ้ยลี่จะก่อกบฏ นี่เป็นรายชื่อคน ยังมีคุณไสยที่พวกเจ้าใช้ทำร้ายฝ่าพระบาท หลักฐานอยู่นี่แล้ว เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก”
ก่อกบฏ ข้อหาหนักเช่นนี้ นางไม่อาจรับได้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายต้องการใส่ร้ายตน แล้วนางจะมีวิธีอะไร
“ท่านข้าหลวงอยากใส่ร้ายข้าก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ต้องเสียเวลาทำแบบนี้ให้ท่านอ๋องดูหรอก ไม่มีใครโง่ ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเผ่ากุ้ยลี่คืออะไร”
เห็นได้ชัดว่าข้าหลวงใหญ่ไม่อยากเสียเวลาพูดไร้สาระกับถังเฉียน เขาโบกมือทันทีแล้วพูดว่า
“ใครใช้ให้เจ้าชอบยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่ง คราวนี้เจ้าตายแน่ ต่อให้เป็นท่านอ๋องก็ช่วยเจ้าไม่ได้”
ถังเฉียนเดินผ่านเขาไป ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นของเขา เห็นได้ชัดว่านางรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ คนพวกนี้ต้องการให้เหาเก๋อตาย ไม่แปลกที่ตัวเสิ้งกับพวกจะร้อนใจมาขอความช่วยเหลือจากพวกเขาเช่นนี้ ที่แท้พวกเขาเผยตัวต่อหน้าข้าหลวงใหญ่คนนี้ก่อนแล้ว
วันที่ถังเฉียนเตรียมช่วยเหลือพวกเขาก็ตระหนักแล้วว่าเรื่องนี้ย่อมไม่จบลงง่ายๆ ท่านอ๋องเคยพูดว่าข้าหลวงใหญ่ย่อมไม่ยอมปล่อยนางไปง่ายๆ เช่นนี้
“เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวหรือ ท่านข้าหลวง จะทำอะไรก็อย่าทำสุดโต่งเกินไป มังกรผยองยากจะเอาชนะงูเจ้าถิ่น ท่านกล่าวหาว่าข้าอยู่ที่นี่ร่วมมือกับกลุ่มทาสวางแผนโค่นล้มอำนาจของเซวียนกั๋ว ตอนที่ท่านพูดแบบนี้เคยคิดบ้างหรือไม่ ข้ากับพวกเขามีความเชื่อต่างกัน อีกทั้งเผ่าของสามีข้าเคยเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเขา”
ถังเฉียนถูกผลักไปข้างหน้า แต่นางก็ยังหันมาพูดกับข้าหลวงใหญ่ว่า
“ท่านข้าหลวง ท่านทำแบบนี้แสดงว่าจนปัญญาแล้ว แต่ข้าอยากให้ท่านตระหนักว่า ตอนนี้หากท่านไม่ทำอะไรเลย คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือเบื้องบนของท่าน แต่ถ้าท่านลงมือทำ ต้องเป็นตัวท่านเอง ท่านจะกลายเป็นคนบาปของภาคเหนือไปชั่วลูกหลาน หึ…”
ถังเฉียนพูดจบเท่านี้ เป็นทั้งการขู่และการแสดงความแข็งกร้าวของนาง แต่นางกังวลมาก เพราะนางไม่อาจไปรักษาเหาเก๋อได้ นางวิตกอาการป่วยของเขา
นางถูกส่งตัวมาขังในคุก ข้าหลวงผู้นี้ยังมีเมตตา ไม่ส่งนางไปใช้แรงงานหนัก บางทีอาจจะรู้สึกว่าหมอผีอย่างนางคงทำอะไรไม่เป็น และยังอาจจะไปหลอกลวงผู้คน จึงขังนางไว้ในห้องที่ทั้งสี่ด้านเป็นกำแพง
เขาคิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะขังนางไว้ได้ แสดงว่าเขาประเมินนางต่ำเกินไป หรืออาจบอกว่าดูถูกความร้ายกาจของเสี่ยวจิน
ของที่ติดตัวมาของถังเฉียนถูกยึดไปหมด แต่เขาไม่รู้ว่าปกติเสี่ยวจินไม่อยู่บนตัวนาง เสี่ยวจินขุดกำแพงมาหานาง ยังขุดรูบนกำแพงเพื่อให้นางเห็นข่าวที่ส่งเข้ามาได้ นางรู้ว่าขณะนี้เป็นยามหน้าสิ่วหน้าขวาน การที่ข้าหลวงใหญ่จับนางทำให้พันธมิตรระหว่างฉู่จิ่งเหยากับพวกของตัวเสิ้งแตกออก ถึงตอนนั้นความร่วมมือกันระหว่างพวกเขาจะแตกหัก ที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาจะสงสัยว่าอีกฝ่ายหักหลังถังเฉียน ทั้งยังจะกล่าวโทษกัน ถึงตอนนั้นจะทำอะไรไม่ได้เลย
“ต้องรอบคอบเต็มที่ เหาเก๋อบาดเจ็บหนัก ตัวเสิ้งหายไป แผนการชะงักงันชั่วคราว”
แน่นอนว่านี่คือผลที่ข้าหลวงใหญ่อยากเห็น แต่ถังเฉียนไม่เข้าใจ ข้าหลวงใหญ่ที่โง่เขลาตลอดมา เขาก็แค่คนโง่ที่รู้จักสู้รบเท่านั้น เขาคิดแผนนี้ออกมาได้อย่างไร
ตอนที่ 327 ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว
ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว ขอเพียงจับตัวถังเฉียนไว้ก่อน กล่าวหานางได้แต่ไม่ทำร้ายนาง รอเพียงจัดการกับเผ่ากุ้ยลี่แล้วค่อยปล่อยนาง ถ้าพบหลักฐานที่พวกเขาร่วมมือกันค่อยลงโทษนาง ถ้าไม่มีก็เพียงแค่ปล่อยนางไป
วิชาหมอผีเดิมก็เป็นเรื่องที่เข้าใจยากที่สุด
“คนที่คิดวิธีนี้ได้ จะต้องเจ้าเล่ห์มาก”
ขณะนี้นางคิดไม่ออกว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังข้าหลวงใหญ่ผู้นี้ เพราะนางไม่รู้ว่าเถิงอวิ๋นมาถึงที่นี่แล้ว ทั้งยังกลายเป็นแขกคนสำคัญของอ๋องอุดรด้วย
ขณะนี้นางทำได้แค่เพียงเพียงร้อนใจอยู่ในห้องขัง นางหงุดหงิดมากที่ในมือไม่อะไรที่จะใช้เขียนได้ นางให้เสี่ยวจินเจาะรูให้ใหญ่ขึ้น แต่ก็อาจถูกทหารที่เฝ้าพบเห็นได้ง่าย ตอนนี้นางถูกขังไว้ในห้องลับของข้าหลวงใหญ่
ถังเฉียนกรีดแขนตัวเอง จากนั้นหยดเลือดลงบนเศษผ้าชิ้นหนึ่ง ให้เสี่ยวจินเอาผ้าชิ้นนี้ไปหาฉู่จิ่งเหยา หวังว่าเขาจะเข้าใจ ยังหวังว่าเขาจะช่วยเหาเก๋อได้
ถังเฉียนกรีดแขนตัวเองสองครั้งในวันเดียว การเสียเลือดแบบนี้ทำให้ร่างกายนางไม่อาจทนได้ แม้ว่าระยะนี้นางฝึกฝนร่างกายได้ผลบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกหนาวเป็นพักๆ และอ่อนเพลียมาก
“ก่อนนี้ก็แค่รู้สึกไม่มีแรง อยากนอน แต่ตอนนี้ยังรู้สึกหนาวด้วย หรือว่าห้องนี้มีปัญหา”
ถังเฉียนไม่รู้ว่าที่นางอยู่ขณะนี้เป็นห้องขังซึ่งเถิงอวิ๋นตั้งใจสร้างขึ้น เขารู้ว่าถ้านางสูญเสียเลือดจะอ่อนแอ เขาตั้งใจอยากเห็นนางอ่อนแอเช่นนี้ จึงสร้างห้องขังนี้ขึ้นเป็นพิเศษ
นางรู้สึกทั้งง่วงทั้งหนาวหนักขึ้นทุกที
เพราะกำแพงสองข้างของห้องเป็นห้องเก็บน้ำแข็ง อีกทั้งช่องระบายอากาศเพียงช่องเดียวยังถูกรมด้วยควันกล่อมประสาท ทำให้นางสะลึมสะลือจะหลับเต็มทน
“จะหลับไม่ได้ จะหลับไม่ได้…”
ขณะนี้ถังเฉียนทำได้เพียงสู้กับตัวเอง ถ้านางไม่สู้ก็อาจจะเผชิญกับความตาย ก่อนนี้นางแค่รู้สึกอ่อนแรง แต่บัดนี้หนาวจนเข้าถึงกระดูกเช่นนี้ ทำให้นางรู้ว่าถ้าหลับไปอาจจะตายได้
“เสี่ยวจิน เจ้ารีบไปตามท่านอ๋องเร็ว…”
ถังเฉียนปล่อยเสี่ยวจินบินออกไป ต่อให้เถิงอวิ๋นไตร่ตรองถึงนางอย่างแล้ว ต่อให้กำชับอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่อย่างไรก็เป็นการควบคุมคนเหล่านี้ให้ช่วยทำงานให้จากที่ห่างไกล ยากที่จะไม่เกิดช่องโหว่ ดังนั้นพวกเขาจึงลืมความสามารถพิเศษของเสี่ยวจินไป
เสี่ยวจินบินไปมา ทำให้ฉู่จิ่งเหยาพบสถานที่ซึ่งซ่อนถังเฉียนไว้
“ท่านอ๋อง ท่านแน่ใจหรือว่าอาหรูน่าอยู่ข้างล่างนี้”
หันเทียนซวี่ตรวจดูพบว่าไฟชีวิตของถังเฉียนอ่อนมาก เขารีบไปหานางแล้วพบว่าห้องนางถูกรื้อกระจุยกระจาย ต่อมาพบว่าฉู่จิ่งเหยาก็กำลังตามหาถังเฉียน แต่ยิ่งน่ากลัวเพราะไม่มีใครรู้ว่านางอยู่ไหน
จนกระทั่งเสี่ยวจินเอาผ้าเปื้อนเลือดมาหาฉู่จิ่งเหยา พวกเขาจึงรู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นกับถังเฉียนแล้ว
พวกเขาตามเสี่ยวจินไปบนภูเขาจำลองของข้าหลวงใหญ่
“เสี่ยวจินมีการเชื่อมโยงกับพิเศษถังเฉียน ไม่หลอกเราแน่นอน รีบค้นดู ต้องมีทางเข้าแน่ๆ”
“ท่านอ๋องจะทำอะไรขอรับ”
ข้าหลวงใหญ่มาถึงพอดี เห็นฉู่จิ่งเหยากำลังให้คนตรวจค้น ฉู่จิ่งเหยามองเจิ้งจยาเฉิง เขารีบนำคนเข้าล้อมพวกนั้นทันที สองฝ่านยืนประจันหน้ากัน ข้าหลวงใหญ่คิดไม่ถึงว่าฉู่จิ่งเหยาจะลงมือ จึงรีบพูดว่า
“ที่นี่เป็นจวนของผู้น้อย เป็นสถานที่ทำงาน เหตุใดท่านอ๋องจึงพาคนบุกเข้ามา”
ฉู่จิ่งเหยาพูดตรงๆ
“ท่านข้าหลวงจับอาหรูน่าไว้ เจ้าจะฆ่านาง ข้าย่อมไม่ยอม ข้ารู้ว่าเจ้าซ่อนนางไว้ข้างล่าง ข้าจะพาตัวนางกลับไปเดี๋ยวนี้”
“ไม่ได้!”