ตอนที่ 364 เผชิญเรื่องเดือดร้อน
เหาเก๋อมองที่มือเถิงเฟิงแล้วพูดว่า
“พวกท่านเดินตามหลังกันดีกว่า”
ถังเฉียนจึงมีโอกาสคลายมือออก เดินตามหลังเหาเก๋อ เถิงเฟิงมีสีหน้าไม่พอใจ แต่ตรงนี้ทั้งเล็กและแคบจริงๆ ที่ผู้อาวุโสใหญ่เลือกเดินเส้นทางนี้เพราะเป็นไปตามการออกแบบแต่เดิมของชาวกุ้ยลี่
คนต่างเผ่าถ้าคิดจะเดินเข้าไป ก็ย่อมลำบากกว่า
เส้นทางเส้นนี้เป็นทางลับ ผู้อาวุโสใหญ่บอกว่าสามารถตรงไปที่ชั้นสามได้ เขาเชื่อว่าถ้าตัวเสิ้งพาคนพวกนั้นเดินไปตามบันได ก็จะเป็นการเดินอ้อมทางเดิม เวลาสองวันน่าจะพอทำให้คนพวกนั้นเสียกำลังคนและยังชะงักงันไปต่อไม่ได้
ขอเพียงพวกเขาซุ่มอยู่ที่ปากทางเข้าชั้นสาม คนพวกนั้นก็ย่อมไม่สามารถเข้าไปได้
พวกเขามุ่งลงข้างล่างตลอดทาง รู้สึกว่ายิ่งเดินก็ยิ่งมืดลงๆ และก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทางเดินเส้นนี้ทั้งเล็กและแคบลงทุกที นางเองก็ยังไม่แข็งแรงนัก คิดจะเดินผ่านจึงเหนื่อยแรงไม่น้อย
ผู้ชายเผ่ากุ้ยลี่ที่ตัวสูงที่สุดก็สูงเท่าเพียงถังเฉียน ดูแล้วการออกแบบที่นี่ก็เพื่อปิดกั้นคนนอก ถังเฉียนมองดูซ้ายขวา แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกว่าผนังศิลาสั่นไหว
“แย่แล้ว มีคนเปิดกลไก รีบเดินเร็วเข้า!”
ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนบอก ทุกคนจึงเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง วิ่งลงบันไดไปอย่างเร่งรีบ แล้วล้มกลิ้งลงในห้องที่มืดสนิทท่ามกลางความสับสน ผู้อาวุโสใหญ่จุดเทียนแล้วนับจำนวนคน
“แย่แล้ว คุณชายเหาเก๋อหายไป”
ผู้อาวุโสใหญ่มองออกแทบจะทันทีว่าในคณะมีคนที่สำคัญที่สุดหายไป เขาร้อนใจมาก แต่ถังเฉียนกลับแปลกใจ เหาเก๋ออยู่ข้างหน้านาง ก่อนเข้ามาในห้องนี้พวกเขาเดินตามกันมาติดๆ นางเดินตามหลังเหาเก๋อ
เหตุใดเมื่อเข้ามาก็หายไปแล้ว
“เขายังอยู่ที่นี่แน่ๆ ข้าจำได้ว่าเขาเข้ามาพร้อมกับข้า เขาอยู่ข้างหน้าข้า”
เถิงเฟิงมองดูคนเผ่ากุ้ยลี่ซึ่งตื่นตระหนกยิ่งขึ้น เขาจับมือถังเฉียนพลิกขึ้น แล้วใช้ด้ายแดงผูกข้อมือนาง แล้วพลิกนิ้วไปมาผูกเป็นปมที่สวยงาม
“ทำอะไรของเจ้า”
ถังเฉียนไม่เคยเห็นเขาแสดงฝีมืออย่างนี้ เวลานี้ดูแล้วน่าจะวิชาเฉพาะของเถิงเฟิง
“เจ้าเป็นคนสุดท้ายที่สัมผัสเหาเก๋อ ถ้าเขายังอยู่ใกล้ๆ โดยอาศัยพลังทิพย์ในตัวเจ้า เราจะตามหาเขาพบได้”
เถิงเฟิงพูดจบก็มัดด้ายเป็นปมแบบเดียวกัน แล้วโยนขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นก็เลือกประตูบานซ้ายสุดจากที่มีอยู่สี่บาน แล้วเดินเข้าไป
“เราต้องตามเข้าไปใช่หรือไม่”
“แน่นอน หรือเจ้ามีวิธีอื่นจะหาเหาเก๋อได้หรือ”
เดิมถังเฉียนตั้งใจจะใช้เสี่ยวจิน แต่หลังจากที่นางสลบไปครั้งก่อน ดูเหมือนเสี่ยวจินจะอยู่ในสภาพสลบไสล จนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ฟื้น ยังดีที่ครั้งนี้มีเถิงเฟิงอยู่ด้วย
นางกับพวกเดินไปตามทางอีกเส้นหนึ่ง แต่เพราะที่นี่แปลกและลึกลับมาก ทั้งยังมีคนเปิดกลไกแล้ว ลูกธนูนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากผนังศิลาตรงเข้าใส่ถังเฉียนและพวกจากรอบทิศ
ถังเฉียนไม่ได้แข็งแกร่งประดุจเหล็ก ถ้าไม่ใช่เพราะเถิงเฟิงขวางอยู่ข้างหน้านาง ขณะนี้นางคงตายไปแล้ว
แต่ต่อให้เถิงเฟิงเก่งกาจเพียงไร แต่กลไกที่นี่มีนับไม่ถ้วน เขาเองยังเป็นคนป่วย จึงทำให้บาดเจ็บสาหัส แม้ว่าถังเฉียนจะคาดเดาล่วงหน้าแล้วว่าพวกเขาลงมาใต้ดินอาจจะถูกลอบทำร้าย แต่คิดไม่ถึงว่าตัวนางจะไร้ประโยชน์ อีกทั้งเถิงเฟิงยังปกป้องนางจนบาดเจ็บหนัก
เถิงเฟิงยืนพิงแขนถังเฉียน แล้วอดถามไม่ได้
“ยังจะเดินหน้าต่อหรือไม่ เราไม่เพียงเสียตัวเสิ้งกับเหาเก๋อ เวลานี้ยังเสียผู้อาวุโสใหญ่ไปด้วย การเดินทางครั้งนี้ขาดทุนยับ”
ตอนที่ 365 องค์ชายรอง
เหาเก๋อถูกจับไปในเมืองใต้ดินแห่งนี้ และเพราะเขายังทำให้พวกนางตกหลุมพรางศัตรู ถังเฉียนคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนร้าย ตอนนี้นางไม่มีวิธีอื่น จึงทำได้เพียงสู้ตายเท่านั้น
“เจ้าจำได้หรือไม่ เหาเก๋อเคยบอกว่า หากเราพลัดหลงกัน ให้ไปที่เสาต้นนั้น เราลองดูกันดีหรือไม่ ข้าคิดว่าถ้าเราไม่ตามหาเขา บางทีเราอาจจะไม่ตกหลุมพรางที่พวกนั้นเตรียมไว้ก่อนแล้ว”
เถิงเฟิงคิดว่าที่ถังเฉียนพูดมีเหตุผล พวกเขาอาศัยความจำ ย้อนกลับไปยังจุดที่เหาเก๋อหายไป ผู้อาวุโสใหญ่กับพวกทำแผนที่ตกไว้ที่นี่
“เจ้าว่านี่เป็นเพราะสวรรค์ทรงช่วยเรา”
เถิงเฟิงกางแผนที่ออก อาศัยแสงที่ริบหรี่ มองเห็นเส้นทางที่พวกเขาต้องบุกไป
“เราคงต้องไปที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สาม ในนี้มีเพียงเส้นทางของชั้นนี้ และเป็นจุดต่ำสุดของวังใต้ดินแห่งนี้”
ถังเฉียนพยักหน้า ทั้งสองเริ่มเดินใหม่ เมื่อเลิกการค้นหา ทำให้พวกเขาเดินสะดวกขึ้นมาก พวกเขาเดินลงตลอดทาง ลงไปด้านล่างของเสาใหญ่
“เหาเก๋อกับตัวเสิ้งอยู่ที่ไหนกันแน่ ดูแล้วพวกเขาตั้งใจจะเปิดเส้นทางที่ไปยังชั้นสาม”
แขนเถิงเฟิงได้รับบาดเจ็บ ถังเฉียนใช้เลือดที่ปลายนิ้วกับเขา แต่ไม่ได้ผล เขาบอกว่าถ้านางใช้เลือดที่แขนที่นี่ แล้วเกิดหมดสติไปใครจะช่วยแบกนาง
ถังเฉียนจึงไม่กล้าลองทำดู จึงพันแผลให้เขาชั่วคราว รอขึ้นไปข้างบนก่อนแล้วค่อยจัดการ
“คนกลุ่มนี้ต้องการเปิดชั้นสามใต้ดิน พวกเขาเป็นใครกันแน่”
ถังเฉียนกับพวกเกาะอยู่บนเสาใหญ่ มองดูคนข้างหน้าเหล่านั้นหยุดยืนอยู่หน้าประตูใหญ่สีทองแวววาว แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วแต่สีทองยังคงทอประกายเปล่งปลั่ง นางจำได้เหาเก๋อบอกว่าประตูบานนี้ทำจากเหล็กอุกกาบาต จะรับรู้เฉพาะลูกหลานเผ่ากุ้ยลี่ ยิ่งเป็นสายเลือดที่บริสุทธิ์ก็ยิ่งสามารถเปิดประตูได้
มิน่าคนพวกนี้จึงต้องจับตัวเสิ้งและเหาเก๋อ แต่พวกเขาลืมไปแล้วว่าเวลานี้เหาเก๋อไม่ถือว่าเป็นคนแล้ว ในร่างของเขาไม่มีเลือดไหลเวียนอยู่
“ท่านอ๋อง คนผู้นี้ไม่หายใจ ไม่มีเลือด เราคงจะเสียเวลาเปล่าที่จับเขามา”
ถังเฉียนมองเห็นเพียงด้านหลังของคนกลุ่มนี้ จึงมองไม่ออกว่าเป็นใคร ต่อให้นางมีโอกาสมองด้านหน้าพวกเขาก็เกรงว่านางจะไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นใคร แต่เถิงเฟิงฟังเสียงเขา กลับฟังออกว่าใคร
“องค์ชายรองฉู่จิ่งเสิ้ง เป็นคนที่โหดเ**้ยมที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฉู่จิ่งเหยาก็คงไม่ต้องไปที่เม้งซึ่งเต็มไปด้วยไอพิษหรอก แต่ว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไรกัน ช่างน่าแปลกจริงๆ”
ถังเฉียนก็แปลกใจ ข้างล่างเป็นอุกกาบาตก้อนหนึ่ง เหตุใดจึงดึงให้องค์ชายรองมาที่นี่ได้ นางกับพวกค่อยๆ ลอบเข้ามาใกล้จึงพบว่าพวกเขาเปิดประตูชั้นล่างสุดแล้ว ตัวเสิ้งถูกกรีดแขน นอนอยู่หน้าประตู แต่เลือดเขาคนเดียวไม่พอ
“ในเมื่อไม่ประโยชน์ก็ฆ่าทิ้งซะ”
เสียงอำมหิตของฉู่จิ่งเสิ้งดังมา ถังเฉียนรู้สึกเครียดขึ้นทันที พวกเขาจะฆ่าเหาเก๋อ จะทำอย่างไรดี นางควรทำอย่างไรดี
เถิงเฟิงตบศีรษะนางเบาๆ แล้วพูดว่า
“เจ้าเป็นเจ้านายเขา ลืมแล้วหรือ เจ้าควบคุมเขาได้”
ถังเฉียนฉุกคิดอะไรได้แล้ว นางหยิบเกาทัณฑ์น้ำแข็งซึ่งเป็นของวิเศษของเหาเก๋อออกมาจากห่อของ ที่ผ่านมาไม่มีโอกาสใช้ เวลาได้โอกาสมาถึงแล้ว
ถังเฉียนบอกให้เถิงเฟิงถอยไปด้านหลัง นางซ่อนอยู่ในมุมมืด เล็งไปที่แผ่นหลังฉู่จิ่งเสิ้ง
“เฟี้ยว…”
เกาทัณฑ์น้ำแข็งถูกยิงออกไป แต่ไม่ได้ยิงถูกฉู่จิ่งเสิ้งตามที่คาด เพราะมีทหารคนหนึ่งขวางไว้ แต่กลับเป็นเรื่องดี เหาเก๋อได้ยินสัญญาณจากถังเฉียน ดิ้นหลุดจากเชือกที่มัด แล้วกระโดดขึ้นไปบนเสา
“มีคนลอบโจมตี!”