ตอนที่ 366 เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์
คนขององค์ชายรองรีบจัดวางกำลังตั้งรับถังเฉียนทันที นางยิงอีกครั้ง จากนั้นก็ถอยหนีไปพร้อมกับเหาเก๋อและพวก
“เราจะหนีไปอย่างนี้ไม่ได้ ตัวเสิ้งยังอยู่ในมือพวกนั้น”
ถังเฉียนเพิ่งได้ยินคำพูดนี้ ทั้งตำหนักก็เกิดเสียงดังกึกก้อง
“พวกนั้นเปิดประตูใหญ่แล้ว”
เหาเก๋อเพิ่งหนีออกมาจากสถานที่ที่อันตราย แต่ขณะนี้กลับวิ่งกลับไปอย่างไม่คำนึงถึงชีวิต
“เจ้าจะทำอะไร”
เถิงเฟิงคว้าแขนเหาเก๋อไว้ แต่เหาเก๋อกลับโกรธ ดิ้นหลุดจากเถิงเฟิง ยังทำให้แผลที่แขนเขาฉีกขาด นางไม่เคยเห็นเหาเก๋อเป็นเช่นนี้ ราวกับบ้าไปแล้ว
ถังเฉียนประคองเถิงเฟิง แต่รอบๆ เริ่มยุบลงมา แม้แต่หินก้อนเล็กที่ทั้งสองยืนอยู่ก็แบกรับน้ำหนักพวกเขาไม่ไหวแล้วแตกกระจายออก
“รีบปีนขึ้นไป!”
นางประคองเถิงเฟิงไว้ ให้เขาปีนขึ้นไปชั้นบนก่อน จากนั้นเขาจึงดึงมือถังเฉียน ทั้งสองแขวนห้อยอยู่กลางอากาศ จากนั้นเขาจึงใช้เชือกสีแดงผูกนางไว้
“เหตุใดพวกเขาจึงต้องเข้าไปในชั้นที่สามใต้ดินให้ได้ ในนั้นมีอะไรกันแน่”
เถิงเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไร เพียงแต่พาถังเฉียนออกจากที่นี่กลับไปบนพื้นดิน นางพบว่าเป็นองค์ชายรองที่นำทหารมา เป็นพวกเขาที่จับตัวเสิ้งไป นางเห็นเสี่ยวจินเกาะนิ่งอยู่ในกล่องไม่ขยับเขยื้อน ไม่รู้ว่าเหาเก๋อกับพวกเป็นอย่างไรบ้าง
“ตรงนี้กำลังจะถล่มแล้ว เรารีบไปกันเถอะ”
ผู้อาวุโสใหญ่ดึงแขนถังเฉียน พานางวิ่งไปตามสันเขา รอจนมาถึงที่ที่ปลอดภัย นางจึงรู้จากปากผู้อาวุโสใหญ่ว่าข้างใต้นี้ซ่อนเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ากุ้ยลี่ไว้
ถึงตอนนี้นางจึงเข้าใจแล้วว่าที่องค์ชายรองต้องการคือเกราะศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ากุ้ยลี่
“ถ้าได้ครอบครองเกราะศักดิ์สิทธิ์ จะพลิกจากพ่ายแพ้เป็นชนะได้หรือ”
แม้นางจะใช้เกาทัณฑ์น้ำแข็งของเหาเก๋อแล้ว ถึงจะมีอานุภาพมาก แต่ก็ไม่มีพลังอำนาจพอที่จะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้ ถังเฉียนเองก็ไม่เชื่อว่าโลกนี้จะมีสิ่งใดที่จะสามารถต้านทานสิ่งที่ใจคนสนับสนุนได้
“เจ้าไม่เข้าใจหรอก ของเหล่านี้มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์มากกว่าประโยชน์ที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น ที่ชาวเผ่ากุ้ยลี่ดำรงอยู่ก็เพื่อปกป้องเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ย่อมต้องมีความหมายต่างออกไป”
นางคิดทบทวน ดูเหมือนความหมายของเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์นี่ก็คงคล้ายกับตราแผ่นดินนั่นเอง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หากมีบทบาทเช่นนี้จริงคนผู้นั้นคงจะไม่ยอมละทิ้งไป”
ท้องฟ้ามืดลงแล้ว ถังเฉียนกับพวกยังไม่สามารถผละไปได้ ยังอาศัยอยู่ในบ้านเหล่านี้ได้ พอที่จะให้ผู้อาวุโสใหญ่กับพวกอาศัยอยู่ชั่วคราว พร้อมกับตามหาตัวเสิ้งและเหาเก๋อ
“ไม่รู้ว่าพวกองค์ชายรองพบเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ พูดตามตรงแล้วก็เป็นแค่ของที่ตายแล้ว เพื่อมันแล้วจะไม่คำนึงถึงชีวิตจริงๆ หรือ”
เถิงเฟิงร้องหึออกมาเบาๆ แต่แผลเกิดเจ็บแปลบขึ้น จนเขาต้องกดแผลไว้ ถังเฉียนขยับเข้ามาเปิดแผลออกดู แผลที่เดิมสมานแล้ว กลับมีเลือดไหลออกมาอีก
“ดูแล้ว เลือดข้าที่ช่วยให้รู้สึกชา จะหมดฤทธิ์แล้ว เจ็บหรือไม่”
เถิงเฟิงกัดฟันแน่น แกล้งทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจ แล้วพูดว่า
“สมัยโบราณมีแม่ทัพที่ขูดกระดูกรักษาพิษก็ยังไม่ลืมเรื่องสงคราม แผลของข้านับว่าเล็กน้อยมาก เจ้าไม่ต้องใช้เลือดเจ้าหยดรักษาแผลข้าแล้ว”
ถังเฉียนดึงมือเขาออกไป กรีดปลายนิ้วตัวเอง แล้วบอกว่า
“ถ้าใช้เลือดข้าแล้ว ก็ต้องใช้ตลอดไป ไม่เช่นนั้นแผลจะหายยาก เจ้าต้องระวังตัวหน่อย อย่าบาดเจ็บอีกเด็ดขาด ข้าไม่อยากแบกเจ้า ข้าแบกไม่ไหวหรอก”
หลังจากที่นางหยดเลือดลงไปแล้ว เห็นแผลเขาดีขึ้นมาบ้าง จึงหันไปต้มน้ำเตรียมทำอาหาร เขาลูกนี้ไม่ได้ถล่มลงมา แต่เสาต้นนั้นล้มลงแล้ว ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ด้านล่างจะออกมาได้อย่างไร
ตอนที่ 367 คึกคักจริงๆ
ถังเฉียนเพิ่งมาถึง ก็เห็นคนผู้หนึ่งซึ่งนางไม่รู้จัก คนผู้นี้แววตาอำมหิต นั่งยองๆ อยู่ข้างคบไฟ เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่เสื้อเกราะบนตัวเขาดูสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่นางรู้สึกได้ว่าเขามาด้วยความมุ่งร้าย
“ที่นี่ผู้คนคึกคักจริงๆ พวกเจ้าล้วนเป็นชาวเผ่ากุ้ยลี่หรือ”
ถังเฉียนมองดูผู้อาวุโสใหญ่ซึ่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ เขาดึงเสื้อนาง พลางพูดว่า
“แม่นาง รีบคุกเข่าลง นี่คือเสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ บรรพชนมีกฎว่าเห็นสิ่งนี้เท่ากับเห็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เสด็จมาเอง”
นางเห็นข้างหลังคนผู้นี้มีคนชุดดำหลายคน ที่แท้คือองค์ชายรองกับพวกนั่นเอง พวกเขาได้เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังรอดชีวิตออกมาได้
“ก็แค่เสื้อตัวหนึ่งเท่านั้นเอง คู่ควรให้ข้าคุกเข่าหรือ องค์ชายรองจับคนของข้าไว้ บัดนี้เจ้าได้ของที่ต้องการแล้ว ไม่ทราบว่าจะคืนคนของข้ามาได้หรือไม่”
ถังเฉียนเห็นชายเสื้อของตัวเสิ้ง ร่างเขาเล็กมาก เมื่อซ่อนตัวจะมองหาไม่เจอ แต่ถังเฉียนยังสามารถรับรู้ถึงกลิ่นเขาได้ แต่พอเห็นองค์ชายรองในสภาพเช่นนี้ ก็รู้สึกหวั่นใจ
“เสื้อ? หมอผีที่ช่วยชีวิตพี่ใหญ่ไว้ ไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่เจออ๋องอย่างข้าก็ยังไม่รู้จักทำตามธรรมเนียมปฎิบัติ คงเพราะจินซิวอ๋องคอยให้ท้ายเจ้าใช่หรือไม่”
องค์ชายรองสั่งลูกน้องให้จับตัวถังเฉียน แต่นางรีบปล่อยแมลงสีดำออกไปสามตัว พวกมันบินไปตรงหน้าคนเหล่านั้น แล้วมุดเข้าไปในร่างพวกเขา จากนั้นทั้งสามคนก็ตัวเกร็งทันที
คนพวกนี้ได้เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์จากใต้ดิน แต่ถ้าจะคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่แล้วจะมาเล่นงานนางอย่างไรก็ได้ ย่อมคิดผิดแล้ว นับจากวินาทีที่นางสวมหน้ากาก ก็ไม่ใช่ถังเฉียนที่ใครจะรังแกได้อีกแล้ว
“องค์ชายรอง ปล่อยเขาเถอะ ข้าไม่สนใจเสื้อเกราะของเจ้า ปล่อยเขาซะ แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป”
มุมปากองค์ชายรองกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาถูกฉู่จิ่งเหยาข่มเหงก็แล้วไป บัดนี้ยังจะถูกถังเฉียนข่มเหงอีก นางเป็นใครกัน
คนขององค์ชายรองพาเหาเก๋อกับพวกออกมา ถังเฉียนเห็นตัวเสิ้งอาการสาหัส เหาเก๋อยังคงถูกมัดไว้ ตอนนั้นห้ามไม่ให้เขาลงไป แต่เขาก็จะลงไปให้ได้ บัดนี้จากเบี้ยตัวเดียวจึงกลายเป็นสองตัว
“คุกเข่า ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกเขา”
ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจ แต่นางจะคุกเข่าหรือไม่คุกเข่า จะต่างกันตรงไหน แค่องค์ชายรองรู้สึกเสียศักดิ์ศรี ที่เขาเขาไล่ล่าราชบัลลังก์ ก็แค่เพราะชอบควบคุมคนอื่น ชอบความรู้สึกที่คนอื่นเคารพยำเกรงเท่านั้นเอง
องค์ชายรองเห็นถังเฉียนยังคงนิ่งเฉย จึงเตรียมจะฆ่าเหาเก๋อกับพวก
เมื่อนางหมดหนทางจึงต้องยื่นมือออกไปขวาง นางเพิ่งให้แมลงปีศาจสีดำบุกไป คิดไม่ถึงว่าที่องค์ชายรองคิดจะสังหารกลับเป็นตัวนาง
ถังเฉียนมองเห็นอาวุธลับพุ่งมาหาตน แต่นางไม่สามารถหลบได้พ้น ขณะที่นางคิดว่าตนเองต้องตายแน่แล้ว เถิงเฟิงก็พุ่งออกมาจากด้านหลังนาง ทำให้นางหมอบลงไป พร้อมกับใช้เชือกแดงรัดคอองค์ชายรองไว้
นางเงยหน้าขึ้น แล้วรู้สึกใจสั่น ถัดมาคนรอบข้างองค์ขายรองก็พากันกุมศีรษะแล้วล้มลงบนพื้น เถิงเฟิงดึงแขนถังเฉียน ถึงตอนนี้นางจึงรู้ว่าเขาน่ากลัวมากแค่ไหน
ดูเหมือนเขาต้องการฉีกวิญญาณของทุกคนให้ขาดออกทั้งเป็น แม้ว่าพลังนี้จะไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ถังเฉียน แต่นางก็ถูกกระทบจากการโจมตีนี้จนเกือบหมดสติไป
“เถิงเฟิง อย่า อย่าทำ…”
ถังเฉียนไม่ทันระวัง เข้าไปในที่ว่างในความคิดเถิงเฟิง แต่ที่นี่กำลังแตกสลาย นางกลับมองเห็นดวงตาเถิงเฟิงแดงก่ำ ดูราวกับปีศาจร้าย
“อาเฟิง!”
ขณะที่ถังเฉียนกำลังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จู่ๆ พลังของเถิงอวิ๋นก็ปรากฏขึ้น แยกคนทั้งสองออกจากกัน ร่างถังเฉียนถูกกระแทกออก นางเห็นเถิงอวิ๋นกดที่จุดอิ้นถัง[1]ของเถิงเฟิง จึงทำให้เขาดึงพลังตนเองกลับมา คนรอบๆ จึงมีโอกาสผ่อนลมหายใจ
[1] จุดฝังเข็มอยู่ตรงหว่างคิ้ว