EP 9: จอมใจ จอมอหังการ
“ขอบคุณมากพี่คาซิม แต่รดาอยากจะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรหรอกค่ะ แค่คุณราฟต้องการคนติดตามขึ้นเรือสำราญไปด้วยประมาณสองอาทิตย์ รดามองไม่เห็นใครเลยนอกจากพี่คาซิม เพราะรดาพอจะรู้ว่าคุณราฟพอใจการทำงานของพี่…”
“ได้สิ พี่ยินดีตามไปรับใช้คุณราฟบนเรือ แต่ว่า…”
คาซิมรับปากก็จริงแต่สีหน้าและแววตาของชายหนุ่มกลับเต็มไปด้วยความกังวลซะงั้น รดารักษ์จึงอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“พี่คาซิมมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ หรือถ้าไม่อยากไป… รดาไม่รบกวนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวรดาจะลองไปหาคนอื่นดู…”
คาซิมรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่มีอะไรหรอกรดา… พี่จะไปกับคุณราฟเธอเอง ต้องไปอยู่กับคุณราฟตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนานหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ แบบนั้นไม่มีใครอยากไปหรอก คุณราฟเธอดุยิ่งกว่าเสือเสียอีก…”
จริงอย่างที่คาซิมพูดเพราะราฟาลเป็นคนเจ้าระเบียบ เวลาทำงานจะจริงจังมาก หากทำไม่ดีหรือทำอะไรไม่เข้าตามีหวังถูกจับโยนลงทะเลให้เป็นอาหารปลาฉลามแน่ๆ เลย และเพราะเหตุนี้แหละถึงไม่มีคนใช้หนุ่มๆ หรือแม้แต่แก่ๆ คนไหนอยากติดตามราฟาลขึ้นเรือ
“งั้นต้องลำบากพี่คาซิมแล้ว…” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยความเกรงใจ แต่คาซิมส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ
“ไม่ลำบากอะไรหรอก พี่ยินดีรับใช้คุณราฟ…”
สาวน้อยฉีกยิ้มกว้าง เอ่ยขอตัวกลับเข้าไปในการ์รัสโซ่ พาราไดส์ แต่เท้าบางก็ไปสะดุดเข้ากับกิ่งไม้ที่คาซิมโยนออกมาจากสนามหญ้าเข้าให้อย่างจัง ทำให้หญิงสาวล้มลงไปกองกับพื้น คาซิมรีบวิ่งเข้าไปประคองด้วยความห่วงใย
“เป็นอะไรมากหรือเปล่านี่รดา… พี่สะเพร่าเอง” คาซิมมองเลือดสีแดงที่ไหลออกมาจากนิ้วโป้งของรดารักษ์ด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรค่ะพี่คาซิม… รดาเดินไม่มองเอง”
สาวน้อยพยายามจะพยุงตัวลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่สำเร็จ ต้องนั่งลงบนพื้นเช่นเดิม ใบหน้างามบิดเบ้เล็กน้อยด้วยความปวดเล็กๆ ที่นิ้วเท้า
“ให้พี่อุ้มดีกว่าไหม…”
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่คาซิม แค่พยุงรดาขึ้นก็พอแล้ว… เดี๋ยวเรนามาเห็นเข้าจะเข้าใจผิดกันพอดี” เจ้าของชื่อพยักหน้ารับน้อยๆ ใช่สินะ เรนายิ่งกำลังท้องแก่ใกล้จะคลอดอยู่ในอีกไม่กี่วันนี้ด้วย นี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหากเรนารู้ว่าเขาจะไม่อยู่ในช่วงที่หล่อนกำลังจะคลอดลูกหล่อนจะอาละวาดแค่ไหน พักนี้เจ้าหล่อนยิ่งเจ้าอารมณ์อยู่ด้วย คาซิมคิดอย่างไม่สบายใจนัก
“งั้นพี่จะพยุงรดาก็แล้วกันนะ…”
ชายหนุ่มพยุงสาวน้อยให้ลุกขึ้นยืน รอจนหญิงสาวสามารถประคองตัวเองได้จึงปล่อยมือ รดารักษ์ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปขอบคุณสามีของเพื่อนสนิท
“ขอบคุณมากจ๊ะพี่กาซิม…”
“ไม่เป็นไรหรอก เดินดีๆ ล่ะ”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ แล้วอย่าลืมนะคะว่าพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปกับคุณราฟ”
หญิงสาวกำชับเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินจากมา รู้สึกสบายใจขึ้นมาเมื่อภาระหน้าที่ที่ป้ามูนาสั่งเอาไว้สำเร็จเสร็จสิ้นไปอย่างราบรื่น และต่อจากนี้ไปหล่อนก็มีหน้าที่ที่จะต้องซ่อนหน้าซ่อนตัวให้พ้นจากสายตาของราฟาล การ์รัสโซ่เท่านั้นเอง
“มีความสุขมากสินะที่ได้คุยกับผัวของเพื่อนน่ะ…”
คำพูดหยาบคายถูกขว้างใส่หน้าในระยะเผาขนทันที เมื่อรดารักษ์เดินพ้นมุมตึกออกมา ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทที่เตรียมพร้อมจะไปทำงานนอกบ้านของราฟาลยืนเด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้า ใบหน้าหล่อระเบิดระเบ้อของเขาบูดบึ้งราวกับกำลังเกลียดชังใครมาสักร้อยชาติ
แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว… คนที่เขาเกลียดก็คือหล่อนเองนั่นแหละ หญิงสาวคิดด้วยความรวดร้าว พยายามก้มหน้าและจะเดินหนี แต่พ่อคนตัวโตที่ทั้งบอก ทั้งแสดงออกว่าเกลียดหล่อนยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนกลับไม่ยอมหลีกทางให้ซะงั้น แถมพอหล่อนจะหมุนตัวมุ่งหน้ากลับไปยังทางเดิมที่พึ่งเดินมา ข้อมือบางของหล่อนก็ถูกระชากเอาไว้ซะก่อน ความร้อนผ่าวประดุจไฟกัลป์ลวกเลียไปทั่วทั้งกายสาว
“คุณราฟ…” ความตกใจของหล่อนทำให้ราฟาลรู้สึกตัว เขารีบปล่อยข้อมือบางทันทีราวกับมันคือขยะแสนสกปรกก็ไม่ปาน
“ฉันก็แค่ไม่อยากให้เรนาเสียใจ…”
“รดาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับพี่คาซิมค่ะ”
รอยยิ้มหยันผุดขึ้นบนริมฝีปากหยักสวย ความเย็นชาของเขาตีแสกหน้าหล่อนจนเลือดสดๆ ไหลอาบหน้า “ฉันก็คิดว่ายังงั้นแหละ เพราะบรรดาน้องชายของฉันน่าจับว่าเยอะ จริงไหม”
เขาดูถูกหล่อนได้อย่างน่ารังเกียจ หญิงสาวน้ำตาคลอหน่วย เงยหน้ามองเจ้าของคำพูดตามด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ทำไมเขาถึงคิดว่าหล่อนเลวขนาดนั้นนะ
“รดาไม่… เคยคิดแบบนั้น…”
“ในสมองของผู้หญิงไม่เคยคิดเรื่องอะไรหรอก นอกจากเรื่องจับผู้ชายรวยๆ โดยเฉพาะเธอรดารักษ์ ฉันเห็นเธออ่อยน้องชายฉันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าลีโอ เจ้าแดน หรือแม้แต่เจ้าเอดี้ นี่ดีนะที่เจ้าคาลมันไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นเธอคงเหมาน้องฉันจนครบหมดทุกคน… ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ…”
น้ำตาที่แค่คลออยู่ที่หน่วยตาไหลทะลักออกมา สาวน้อยหน้าซีดเผือดขณะพยายามอธิบายความเป็นจริงออกไป แต่ดูท่าทางพ่อหนุ่มหล่อลากไส้ตรงหน้าจะไม่ยอมฟังแม้แต่นิดเดียว
“ไม่จริงนะคะ รดาไม่เคย… ไม่เคยทำแบบนั้น”
หนุ่มหล่อแสยะยิ้ม ขณะใช้ดวงตาคมกริบกวาดมองใบหน้าสวยหวานของสตรีสาวตรงหน้านิ่ง แม้ว่าเขาจะทึ่งในความสวยสดของเจ้าหล่อนมากมายแค่ไหน แต่ยังไงซะเขาก็จะไม่มีทางปล่อยให้ไอ้เรื่องระยำแบบเมื่อวานตอนเย็นเกิดขึ้นอีกแน่นอน ไม่ว่าเจ้าหล่อนจะมีลีลาโยกย้ายส่ายสะโพกเด็ดดวงแค่ไหนก็ตาม
รดารักษ์คือตัวหายนะ และเขาจะไม่มีวันยอมเข้าใกล้ตัวหายนะอย่างเด็ดขาด…
“แต่สิ่งที่สายตาของฉันเห็นมันเป็นแบบนั้น… เธอมันก็แพศยาเหมือนๆ กับผู้หญิงทุกคนนั่นแหละ และอย่าคิดนะว่าป้ามูนาจะคุ้มกะลาหัวเธอได้ หากวันใดเธอก่อเรื่องไม่งามขึ้นเมื่อไหร่ ฉันนี่แหละจะเป็นคนจับเธอโยนกลับประเทศไทยด้วยมือของฉันเอง…”
หญิงสาวมองชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของคำพูดเลือดเย็นนิ่ง อยากจะรู้นักว่าภายในอกกว้างแข็งแกร่งของเขานั้นมันมีก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจฝังอยู่ในนั้นหรือเปล่า แต่หากให้หล่อนเดา… หล่อนคิดว่าราฟาลไม่มีหัวใจ พระเจ้าสร้างเขามาให้รูปงามไร้ที่ติ แต่คงลืมสร้างหัวใจให้กับเขามาด้วย ราฟาลถึงได้โหดเหี้ยมและเลือดเย็นแบบนี้
“แม้ว่าคุณราฟจะฆ่ารดาให้ตายตรงนี้… แต่รดาก็ยังจะพูดคำเดิม นั่นก็คือรดาไม่เคยทำอะไรต่ำช้าอย่างที่คุณราฟประณาม…” น้ำตาพรางพรูออกมาเป็นสายไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“และคุณราฟไม่ต้องกังวลนะคะว่ารดาจะอยู่ให้รกหูรกตาคุณราฟอีก…”
“เธอหมายความว่ายังไง…”
คราวนี้เป็นราฟาลที่รู้สึกใจคอไม่ดีบ้าง น้ำตาแห่งความโศกาอาดูรของสตรีแสนสวยตรงหน้ามีผลต่อการเต้นของหัวใจหนุ่มยิ่งนัก แต่ที่เขายังคงยืนเฉย ยังทำหน้าเย็นชาอยู่ได้ ก็เป็นเพราะว่าไอ้เจ้าความควบคุมตัวเองชนิดดีเลิศที่พ่อแม่ให้ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเท่านั้นเอง
รดารักษ์ฝืนยิ้มบางๆ ทั้งๆ ที่ยังร้องไห้อยู่ “รดาจะกลับเมืองไทย…”
ความเงียบกลืนกินบรรยากาศรอบตัวอยู่นานหลายอึดใจ ก่อนที่ราฟาลจะเป็นคนทำลายความสงัดเงียบนั้นลงด้วยคำพูดโหดร้ายไม่เปลี่ยนแปลง
“หวังว่าเธอไม่กลืนน้ำลายตัวเองล่ะรดารักษ์…”
ไม่รู้ทำไมถึงเจ็บปวดกับท่าทางไม่แยแสของราฟาลได้ถึงเพียงนี้ ก็เขาไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ แถมยังเกลียดขี้หน้ายิ่งกว่าไส้เดือนเสียอีก แล้วเขาจะมาแสดงท่าทางอาลัยอาวรณ์หล่อนทำไมกัน
“คุณราฟสบายใจเถอะค่ะ รับรองว่าวันที่คุณราฟกลับมาจากล่องเรือสำราญ คุณราฟจะไม่ได้เห็นหน้ารดาอีก… หวังว่าคุณราฟคงจะพอใจนะคะ…”