“แน่นอนฉันภูมิใจมากทีเดียว…” ไหล่กว้างไหวน้อยๆ แสดงท่าทางไม่แยแสออกมาไม่ขาดสาย
รดารักษ์ยกมือขึ้นป้ายน้ำตาแห่งความเสียใจทิ้ง ก่อนจะฝืนยิ้มให้กับคนตัวโต “รดาขอตัวก่อนนะคะ… จะรีบไปทำงานค่ะ”
ราฟาลขยับกายใหญ่โตหลีกทางให้กับแม่สาวน้อยตรงหน้าเล็กน้อย “จะไปไหนก็รีบไปเถอะ แล้วเช็ดน้ำตาให้แห้งด้วยล่ะ เดี๋ยวเจ้าลีโอมันจะมาหาว่าฉันรังแกผู้หญิงในดวงใจของมันให้ร้องห่มร้องไห้อีก…”
“ค่ะ คุณราฟ…”
สาวน้อยรับคำเสียงเจือสะอื้น รีบก้าวเท้าเดินผ่านร่างของผู้ชายที่ตัวเองหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความแคบของทางเดินหรือว่าพ่อเจ้าประคุณจงใจให้มันแคบเองก็ไม่รู้ ทำให้ต้นแขนของหล่อนบังเอิญไปเสียดสีกับแผนอกกว้างแน่นหนั่นเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ความร้อนผ่าววิ่งพล่านไปทั่วทั้งกายสาวทันที
“ยั่วได้ทุกเวลาจริงๆ นะรดารักษ์…”
เขาตรึงหล่อนไว้ด้วยสายตาที่ฝ่ามือใหญ่ที่ขยุ้มต้นแขนของหล่อนเอาไว้ กลิ่นกายแห่งบุรุษเพศนักล่าโชยฟุ้งเข้ามาในจมูกอย่างรุนแรง หญิงสาวส่ายหน้าจนเส้นผมยุ่งเหยิง
“รดา…ไม่ได้ทำ…”
เขาแสยะยิ้มหยัน ขณะไล่ต้อนร่างบอบบางของหล่อนให้แผ่นหลังชนเข้ากับกำแพงของตัวตึก โดยมีร่างสูงใหญ่สมบูรณ์แบบตามเข้ามาแนบชิด ความใกล้ชิดในลักษณะที่เรียกกว่าบดเคล้าทำให้หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความแตกต่างของสรีระระหว่างเพศชายและเพศหญิงได้อย่างชัดเจน
“ฉันไม่ได้โง่จนมองไม่ออกหรอกน่า…” ราฟาลตัวเกร็งไปชั่วขณะเมื่อสองเต้าอวบอิ่มบดเบียดกับแผงอกกว้างแน่นหนั่นของตัวเองอย่างแนบแน่น
“ปล่อยรดาเถอะค่ะ…”
มือใหญ่ร้อนผ่าวข้างหนึ่งเลื่อนจากต้นแขนลงมากระชับเอวคอดพร้อมทั้งดึงเข้าหากายหนุ่มยิ่งขึ้น ขณะที่อีกข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นไปตึงท้ายทอยเอาไว้แน่น บังคับให้สาวน้อยแหงนเงยใบหน้าขึ้นสบตาคมกริบแสนหวานของเขาอย่างไม่มีทางหลบเลี่ยงได้
“บางครั้งฉันก็อยากจะลองทำอะไรฝืนใจตัวเองบ้าง…”
ดวงตาของเขาเป็นประกายหิวกระหายขณะจับจ้องมองมาที่กลีบปากอิ่มเต็มของหล่อน เขามองไม่วางตาเลยทีเดียว ทำให้รดารักษ์รู้สึกซ่าบซ่านไปทั่วทั้งกาย
“อย่างเช่นแตะต้องสิ่งที่ตัวเองขยะแขยง…”
แล้วเขาก็ไม่รอให้หล่อนได้โต้ตอบอะไรออกไปอีก ริมฝีปากร้อนผ่าวกดแนบลงมาหาด้วยสัมผัสหนักหน่วงและดุดันการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยการประกาศชัยชนะ ความร้อนพุ่งพล่านไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ปฏิกิริยาทางเคมีที่มันมีต่อกันมาเนิ่นนานแตกระเบิดอย่างรุนแรง ราฟาลครางฮือด้วยความพึงพอใจเมื่อรดารักษ์เผยอปากเชิญชวนให้เขาเข้าไปตักตวงหาความหวานภายในอุ้งปากสาวด้วยความเต็มอกเต็มใจ ชายหนุ่มค่อยๆ ดันลิ้นแทรกเข้าไปภายในอุ้งปาก แล้วก็พบว่าน้ำผึ้งเดือนห้าที่ว่าหวานล้ำยังเทียบไม่ได้เพียงแค่เศษหนึ่งส่วนสี่ของรสชาติภายในอุ้งปากของรดารักษ์เลย มันทั้งหอมทั้งหวานฉ่ำ
“หวานมาก…”
ชายหนุ่มพึมพำเสียงแหบพร่า เลื่อนมือใหญ่ต่ำลงไปยังบั้นท้ายอวบงอน บีบขย้ำอย่างลืมตัวลืมใจ ขณะปากรุ่มร้อนก็ยังเดินหน้าสอนการจูบแสนวิเศษให้กับรดารักษ์อย่างต่อเนื่อง เสียงครางระโหยเล็ดลอดออกมาจากสาวน้อยที่กำลังระทดระทวยอยู่ภายในอ้อมแขนตลอดเวลา
ราฟาลแทบอยากจะเนรมิตกำแพงตึกให้กลายเป็นเตียงนอนขนาดซูเปอร์คิงไซส์นัก เขากระหายอยากจะดื่มกิน อยากจะฝังร่างลงสู่ความแน่นหนั่นของสาวน้อยจนแทบจะบ้า
“คุณราฟ…”
สาวน้อยอ่อนประสบการณ์ครวญครางออกมาเมื่อถูกปากร้อนรุ่มผละออกจากกลีบปากของตัวเองไล่ต่ำลงมารุกรานเนื้อนุ่มที่ซอกคอระหง รอยช้ำแดงๆ เกิดขึ้นในทุกๆ ที่ที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของราฟาลเคลื่อนผ่าน ตอนนี้ในสมองของหล่อนไม่คิดถึงเรื่องใดอีกแล้ว นอกจากปากและฝ่ามือของราฟาลเพียงเท่านั้น
เขากำลังทำให้หล่อนหลุดหลง และหล่อนคงต้องตายแน่ๆ หากราฟาลหยุดการกระทำพวกนี้ลง แต่… ในที่สุดทุกอย่างก็ยุติลงจริงๆ ราฟาลถอยออกห่างจากหล่อนอย่างรวดเร็ว แถมยังมองหล่อนด้วยสายตากล่าวหาอย่างไม่น่าให้อภัยอีกต่างหาก
“เธอมันนังแม่มดจริงๆ…” น้ำเสียงห้วนห้าวแต่แปร่งเล็กน้อยของราฟาลถูกเค้นลอดออกมาจากไรฟัน ความเกรี้ยวกราดอัดแน่นอยู่เต็มกระแสเสียง หญิงสาวก้มหน้ามองพื้นด้วยความอับอาย น้ำตาแห่งความอดสูไหลพรางพรูออกมาไม่ขาดสาย
“คราวหน้าอย่ามาเข้าใกล้ฉันอีก… เพราะหากมีครั้งหน้าอีกล่ะก็ ฉันรับรองว่าเธอได้เพิ่มรายชื่อของฉันต่อเข้าไปในบัญชีผัวของเธอแน่นอน”
และเขาก็ย่ำเท้าหนักๆ เดินจากไปอย่างรวดเร็ว รดารักษ์ปล่อยโฮออกมาอย่างสิ้นสุดความอับอาย ร่างบางที่ยืนพิงกำแพงตึกอยู่ทรุดฮวบลงกองกับพื้นอย่างน่าเวทนา ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดปานจะขาดใจ หล่อนผิดเหรอที่รักราฟาล หล่อนผิดมากหรือไงที่ไม่สามารถหักห้ามหัวใจตัวเองได้…
ทำไมเขาจะต้องร้ายกาจกับหล่อนขนาดนี้ด้วยนะ ทำไมกัน?
หญิงสาวร้องห่มร้องไห้จนสาแก่ใจแล้วนั่นแหละ จึงกัดฟันลุกขึ้นยืน พาร่างกายและหัวใจที่แสนบอบช้ำมุ่งหน้ากลับสู่เรือนพักของตัวเองทันที ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำลงบนพื้นปฐพีนั้นช่างไม่ต่างจากการเดินบนเปลวไฟร้อนระอุเลยแม้แต่นิดเดียว
วันนี้ทั้งวันราฟาลทำงานไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย สมองคิดถึงแต่ความหวานฉ่ำและความนุ่มนิ่มของกลีบปากของรดารักษ์ตลอดเวลา แม้กระทั่งยามที่กำลังประชุมเรื่องสำคัญอยู่ในขณะนี้ก็ตาม
“ท่านประธานเห็นด้วยกับแผนไหนครับ…” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดถามย้ำเป็นครั้งที่สาม
“ว่าไงนะ?”
คนที่กำลังเหม่อใจลอยไปถึงการ์รัสโซ่ พาราไดส์สะดุ้งและรีบหันกลับมามอง ทุกคนที่กำลังนั่งรอฟังคำตอบจากเขาอยู่ต่างพากันจ้องเขม็งด้วยความประหลาดใจ เพราะครั้งนี้คือครั้งแรกในชีวิตที่ราฟาลนั่งใจลอยในห้องประชุม
“เอ่อ… คือผมกำลังรอให้ท่านประธานอนุมัติแผนการตลาดที่ผมเสนออยู่ครับ…”
ราฟาลพยายามที่จะขจัดใบหน้างามๆ ปากหวานๆ ของรดารักษ์ให้ออกจากสมองด้วยการสะบัดศีรษะทุยแสนทระนงของตัวเองเต็มแรง แต่ต่อให้ส่ายสะบัดจนหัวหลุดกระเด็นจากบ่า เขาก็มั่นใจว่าไอ้รสชาติหวานล้ำของยายแม่มดเอวเล็กนั้นก็คงไม่มีทางหลุดร่อนออกไปได้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะเจ้าหล่อนได้ฝังรากลึกอยู่ในหัวใจของเขาเสียแล้ว ชายหนุ่มคิดด้วยความขมขื่นก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนตระหง่าน ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน
“เลิกประชุมแค่นี้แหละ ที่เหลือส่งรายละเอียดให้ผมทางอีเมล”
“แต่ท่านประธานครับ…”
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเอ่ยเรียกเสียงตะกุกตะกัก และนั่นก็ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้าวเท้าเกือบถึงประตูทางออกชะงัก ใบหน้าหล่อระเบิดแต่ดูไม่สบอารมณ์หันขวับกลับมา
“มีอะไรขัดข้องงั้นหรือ?”
ผู้จัดการวัยสี่สิบกว่าๆ รีบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหวั่นเกรงสุดขีด ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ ให้กับเจ้านายหนุ่มหล่อที่ตอนนี้กำลังถูกความหงุดหงิดงุ่นง่านคลอบงำเต็มพิกัดอย่างขออภัย
“เอ่อ ไม่มีครับ ไม่มี…”
“งั้นก็อย่าทำให้ผมเสียเวลาอีก…”
จบคำพูดห้วนกระด้างแล้ว ร่างสูงใหญ่ของราฟาลก็เดินหายออกไปจากห้องประชุมใหญ่ทันที ทุกคนในห้องต่างพากันถอนหายใจกันด้วยความโล่งอกออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันเลยทีเดียว
“นึกว่าระเบิดจะลงซะแล้ว…” หนึ่งในผู้ร่วมประชุมบ่นออกมา
“นั่นสิ เห็นท่านประธานทำท่าแปลกๆ ตั้งแต่เข้าประชุมแล้วล่ะ นั่งหมุนปากกาเล่นอย่างเนี้ย เคยมีที่ไหน ทำงานด้วยมาเป็นสิบๆ ปี ยังไม่เคยเห็นท่าทางเหมือนคนมีแค่ตัวแต่ไม่มีวิญญาณแบบนี้ของท่านประธานมาก่อนเลย…” สาวแก่วัยสี่สิบกว่าเอ่ยสนับสนุนขึ้นขณะขยับแว่นของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง
“สงสัยคิดถึงสาวๆ มั้ง”
“ไม่มีทางหรอกยะ ท่านประธานของฉันไม่เคยให้เรื่องไร้สาระแบบนั้นมาแย่งพื้นที่ในสมองได้หรอก ไม่มีทางแน่ๆ ฉันยืนยันนอนยันเลย…”