EP 16: จอมใจ จอมอหังการ
ราฟาลหยุดเดินมองคู่สนทนาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก ก็ในเมื่อเขาจำได้ว่าผู้ชายคนนี้แหละที่ยืนคุยกะหนุงกะหนิงกับรดารักษ์เมื่อวันก่อน ความจริงอยากจะชกหน้าสักหมัดสองหมัดด้วยซ้ำไป
“ไปเปลี่ยนประตูห้องพักให้รดารักษ์ใหม่ เอาแบบที่แข็งแรงที่สุด…”
คนใช้หนุ่มทำท่าจะถามแต่ราฟาลไม่เปิดโอกาสนั้นให้ “ไปได้แล้ว และต้องเปลี่ยนให้เสร็จก่อนรดารักษ์กลับมาล่ะ ไม่อย่างนั้นนายเตรียมเก็บข้าวเก็บของออกไปจากที่นี้ได้เลย…”
คาซิมเงยหน้ามองเจ้าของคำพูดสุดเหี้ยม แล้วก็พบว่าราฟาลกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ดวงตาคมกริบของราฟาลเต็มไปด้วยความเป็นอริ
“เมียน่ะท้องแก่จะคลอดอยู่ร่อมร่อแล้วไม่ใช่หรือ”
“ครับ…”
“แล้วทำไมยังไปวุ่นวายกับผู้หญิงอื่นอีกล่ะ นายมันเป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจมาก…”
แต่คนที่น่ารังเกียจที่สุดคงหนีไม่พ้นยายรดารักษ์ตัวแสบนั่น คั่วคนนู้นทีคนนี้ที คงคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์ตายล่ะ ราฟาลกัดฟันกรอดด้วยความเดือดดาล แล้วก็ต้องถอนใจออกมาเมื่อค้นพบความจริงว่าตัวเองก็กำลังตกบ่วงเสน่หาของแม่นั่นไม่ต่างอะไรจากผู้ชายตรงหน้าแม้แต่นิดเดียว
“หมายถึงรดาหรือเปล่าครับ…”
“มีหลายคนหรือไงถึงต้องให้ฉันเอ่ยชื่อ” ราฟาลตวาดลั่น คาซิมตกใจหน้าซีด
“เอ่อ… ไม่ครับ ผมกับรดาไม่ได้…” ยังพูดไม่ทันจบ เจ้านายหนุ่มหน้าบูดก็โบกมือห้ามซะก่อน พร้อมๆ กับออกปากไล่ด้วยความรำคาญ
“ไปให้พ้นๆ หน้าได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะอดใจไม่ไหวแล้วซัดหน้านายเข้าแล้วจะยุ่ง…”
“ครับๆ”
คนใช้หนุ่มรีบเผ่นแน๊บออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวเกรง ไม่รู้เหมือนกันว่าราฟาลโกรธเกลียดอะไรตัวเองนักหนา ถึงได้ทำหน้าถมึงทึงใส่แบบนั้น แล้วยังคิดผิดๆ เรื่องเขากับรดารักษ์อีก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนใจแล้วไปทำตามคำสั่งเท่านั้น ขณะที่คนออกคำสั่งกำลังเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงมุ่งหน้าสู่ห้องพักของตัวเอง แต่ระหว่างทางก็เจอกับลิโอเนลซะก่อน
“พี่ราฟบอกเจ้าแดนหรือครับว่าผมให้มาหา…”
ราฟาลที่กำลังหัวเสียมันทุกเรื่องถอนใจออกมายืดยาว อยากจะมุดดินหายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าน้องพวกนี้มันจะสงสัยอะไรกันนักหนา หรือว่าจะต้องให้เขาบอกไปตามตรงว่าเขาหึง เขาหวงรดารักษ์กันนะ มันจะได้หมดเรื่องหมดราวสักที
“ไว้ถามพรุ่งนี้ได้ไหมลีโอ ตอนนี้พี่กำลังจะบ้า…”
“จะบ้า? เป็นอะไรหรือครับ งานมีปัญหาใช่หรือเปล่า”
ราฟาลถอนใจออกมาแรงกว่าเดิมอีก รู้สึกแย่ชะมัดที่ตัวเองปล่อยให้สมองย่ำแย่เพียงเพราะแค่ผู้หญิงที่ชื่อรดารักษ์คนเดียว ทั้งๆ ที่ปกติมีแต่งานเท่านั้นที่มันอัดแน่นอยู่ในหัว
“อืม… พี่ขอตัวก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
ในที่สุดก็ยุติการสนทนาด้วยการเดินหนีเข้าห้องเอาซะดื้อๆ ลิโอเนลเลิกคิ้วสูงด้วยความกังขามหาศาล ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“สงสัยงานยุ่งมาก เลยทำท่าทางเครียดแบบนี้…”
หนุ่มหล่อผู้เกิดมาช้าว่าแค่ปีเดียวยกมือเกาศีรษะด้วยความมึนงง มองพี่ชายเดินหายเข้าไปในห้องแล้ว ตัวเองจึงหมุนตัวกลับเข้าห้องตัวเองด้วยเช่นกัน แต่หารู้ไม่ว่าพ่อพี่ชายตัวแสบไม่ได้พักผ่อนอย่างที่เข้าใจ เพราะราฟาลยังคงเดินวุ่นอยู่ภายในห้องนอนตัวเอง เดินไม่ผิดจากหนูติดจั่น ในใจก็คาดโทษรดารักษ์ตลอดเวลา
“ถ้ากลับเช้าเมื่อไหร่ เธอเจอดีแน่รดารักษ์…”
ความหวงแหนที่ไม่ต้องการยอมรับสักนิด มันพุ่งพรวดๆ ขึ้นสูงลิบในเวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น แค่เผลอไปจูบ จูบปากเท่านั้นเอง ร่างกาย สมองก็พาลรวนเรผิดแบบแผนไปหมด วันๆ ในหัวมีแต่ภาพของแม่สาวใช้ตัวแสบอยู่เพียงเรื่องเดียว แล้วนี่เขาจะทิ้งเจ้าหล่อนไปล่องเรือสำราญได้จริงๆ หรือนี่
ชายหนุ่มถอนใจแล้วถอนใจอีกด้วยความอึดอัดไปทั่วทั้งเรือนกาย ร้อนผ่าวตั้งแต่ได้จูบ ได้ลูบคลำส่วนสัดงดงามของรดารักษ์ในห้องพักนั่นแหละแล้ว แถมภาพเรือนกายสลักเสลาเกือบเปลือยของเจ้าหล่อนก็ยังคงตามหลอกหลอนไม่ยอมเลิก ดูสิ… ตอนนี้ภาพเต้ากลมเป็นกระเปาะของหล่อนยังชัดเจนเต็มตาอยู่เลย
ระยำ!
นี่เขาปล่อยให้ผู้หญิงมามีอำนาจเหนือสมองได้ยังไงกันนะ ไม่มีทางเลือก! เขาก็แค่อยากลิ้มลองผู้หญิงชั้นต่ำอย่างรดารักษ์เท่านั้นเอง คำแก้ตัวนี้เป็นที่น่าพอใจไม่น้อย และมันก็สามารถทำให้ราฟาลสามารถหยุดเดินไปเดินมาได้ ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนกับที่นอนอย่างเหนื่อยล้า พยายามข่มตาให้หลับ แต่มันก็ไม่ยอมหลับสักที สมองหมกมุ่นอยู่แต่กับยายแม่มดนั่นอยู่เพียงคนเดียว
ด้วยความร่ำรวยและมีอำนาจทำให้เดนิเรลสามารถหาชุดใหม่ให้รดารักษ์ใส่ได้ทันท่วงที หญิงสาวรีบเปลี่ยนผ้าตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่มอย่างรวดเร็ว เพราะมั่นใจว่าตอนนี้งานบอลล์นั่นต้องเริ่มแล้วแน่ๆ
“แม้ชุดนี้จะไม่แพงเท่าชุดที่พี่ราฟฉีกจนขาด แต่มันก็ยังดีกว่าชุดแม่ชีของเธอนะรดา…”
หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่กระนั้นก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่าหากราฟาลรู้เค้า หล่อนมีหวังยับคามือของเขาแน่ๆ
“เข้าไปในงานกันเถอะ งานเริ่มแล้ว…”
รดารักษ์ในชุดสีชมพูอ่อนไม่ต่างจากสีเดิมนักก้าวลงจากรถสปอร์ตคันงาม เดนิเรลเดินอ้อมรถมาหยุดข้างๆ ก่อนจะยกแขนแขนของตัวเองขึ้นเพื่อให้หล่อนสอดแขนคล้องเอาไว้ หญิงสาวอึกอัก แต่พอเห็นสายตาดุๆ ของเจ้านายหนุ่มก็จำใจต้องทำตามคำสั่ง
เดนิเรลหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องคิดมากน่า ฉันไม่ได้พิศวาสเธอหรอกรดา แค่อยากแกล้งใครเล่นๆ เท่านั้นเอง”
หล่อนก็ไม่ได้คิดว่าเดนิเรลจะพิศวาสตัวเองหรอก แค่รู้สึกไม่เคยชินเท่านั้นเอง “รดาก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่คะ แค่รู้สึกเขินๆ”
สาวน้อยพ้อเบาๆ ก่อนจะก้าวเดินตามร่างสูงสง่าในชุดสูทราคาแพงระยับของเดนิเรลเข้าไปในงานบอลล์สุดหรูหราที่จัดขึ้นภายในโรงแรมระดับเจ็ดดาวตรงหน้า กลิ่นไอของคนรวยกระแทกเข้ามาในจมูกจนหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทาง ยิ่งเห็นสายตาเหยียดๆ ของแม่สาวสังคมคนดังหลายคนที่จ้องมองมาด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าวด้วยความอดสู ดีที่เดนิเรลกระซิบปลอบใจเป็นระยะ
“ไม่ต้องไปสนใจแม่พวกกระหายผู้ชายพวกนั้นหรอก เดี๋ยวฉันแกล้งคนเสร็จก็จะกลับแล้วล่ะ”
รดารักษ์ฝืนยิ้มบางๆ ขณะถูกเดนิเรลลากเข้ามาภายในห้องจัดงานสุดกว้างขวาง การตกแต่งหรูหราและทันสมัยยิ่งนัก อาหารจำนวนนับร้อยๆ ชนิดถูกวางเรียงรายอยู่ในมุมหนึ่งที่ไม่ไกลจากตรงที่หล่อนยืนอยู่ บริกรทั้งชายหญิงถือถาดเครื่องดื่มเดินอยู่ทั่วทุกมุมในงานบอลล์แห่งนี้
“เอาน้ำอะไรรดา…”
สาวน้อยจ้องเป็งที่ไปถาดในมือของบริกรหนุ่มตรงหน้า แก้วใบสวยที่บรรจุน้ำหลากหลายมีมากเกินไปจนหล่อนมึนเลือกไม่ถูก เดนิเรลจึงเป็นฝ่ายเลือกให้แทน
“น้ำส้มก็แล้วกัน เอานี่…”
ชายหนุ่มหยิบแก้วน้ำส้มลงให้หล่อน ขณะที่ตัวเองเลือกน้ำสีอำพันขึ้นมาจิบบางๆ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่ร่างอรชรของสาวสวยสองคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักนิ่ง ก่อนที่มือใหญ่กระชุดกระชากลากหล่อนให้เดินตรงเข้าไปหยุดตรงหน้าของสองสาวทันที
“ยินดีที่ได้พบอีกครั้งนะครับมุนิน…”
เจ้าของชื่อสาวหันขวับมาตามเสียงเรียก ก่อนที่เจ้าหล่อนจะรีบดึงมือออกจากแขนของหนุ่มหน้าตาดีที่ตัวเองกำลังควงอยู่ทันควัน พร้อมๆ กับฉีกยิ้มกว้างให้กับเดนิเรล รดารักษ์เงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าของเจ้านายหนุ่มเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง แต่ก็พบแต่ความมืดดำลึกล้ำเพียงเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ คุณแดนไม่คิดว่าจะได้พบกันคืนนี้…”