EP 19: จอมใจ จอมอหังการ
“จำได้… แล้วจำได้ไหมว่าคาซิมต้องเดินทางไปกับคุณราฟ…”
สาวน้อยกลืนความเศร้าลงไปในอก ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “จำได้ค่ะ…”
“แล้วเมียมันคลอดลูกแบบนี้เจ้าคาซิมมันจะไปได้ไหม?”
เสียงของป้ามูนาสูงลิบ และนั่นมันก็ทำให้รดารักษ์ซึมซับกับความเป็นจริงที่คู่สนทนากำลังพยายามบอก หญิงสาวเบิกตากว้าง อ้าปากค้างเติ่งด้วยความตกใจ
“ป้าหมายความว่า…?”
“ตอนนี้เจ้าคาซิมมันไปเฝ้าเมียมันที่โรงพยาบาล”
“แล้ว… แล้วใครไปกับคุณราฟคะ…?”
การส่ายหน้าช้าๆ ของคู่สนทนาทำเอารดารักษ์แบบล้มทั้งยืน “ไม่มี!…?”
จากที่เคยแค่หน้าตื่น ตอนนี้ป้ามูนาน้ำตาร่วงออกมาในทันที สาวน้อยรีบจับมือของคู่สนทนาเอาไว้แน่น “ป้าไม่ต้องห่วงนะ รดาจะรีบไปหาคนแทนพี่คาซิม…”
“ไม่ทันแล้ว… เรือจะออกในอีกสิบห้านาทีนี้…”
“แล้วเราจะทำยังไงกันคะป้า… คุณราฟจะต้องคลั่งแน่…” รดารักษ์ถามเสียงตื่นตระหนก
“เรื่องคลั่งน่ะมันแน่นอนอยู่แล้ว และป้าจะต้องถูกหักคอแน่ๆ เช่นกัน เพราะคุณราฟสั่งให้คาซิมเอาเอกสารในห้องทำงานตามไปให้ด้วย…” ความหวาดกลัวอัดแน่นอยู่เต็มกระแสเสียงของป้ามูนามหาศาล
“มีเอกสารสำคัญด้วยเหรอคะ”
“ใช่… ตอนนี้ป้ากำลังจะบ้า… แม่เรนาก็อีกคนไม่รู้จะมาคลอดอะไรเอาวันนี้ กำหนดมันอีกตั้งสิบกว่าวัน” สองสาวต่างวัยเดินกลับไปกลับมากันยุ่งเหยิง ต่างคนต่างพยายามหาทางออก แต่จนแล้วจนรอดก็หาทางออกที่ดีไม่ได้สักที ป้ามูนาถอนใจเฮือก ก่อนจะพูดออกมาทั้งน้ำตา
“คุณราฟจะต้องโกรธมาก…”
“ป้าคะ… รดาขอโทษ… รดาไม่คิดว่า…”
รดารักษ์ก้มหน้าสำนึกผิด รู้สึกเสียใจเหลือเกินที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ป้ามูนาเดือดร้อนแบบนี้ แล้วหล่อนจะแก้ไขปัญหานี้ยังไงดี จะทำยังไงป้ามูนาถึงจะพ้นผิด หญิงสาวพยายามคิด พยายามที่จะค้นหาทางออก และสุดท้ายก็ค้นพบว่าทางออกทางเดียวที่มีตอนนี้ก็คือ…
“ป้ามูนาคะ… เอกสารที่คุณราฟต้องการอยู่ที่ไหน”
ป้ามูนาเลิกคิ้วมองด้วยความแปลกใจ ทั้งๆ ที่น้ำตายังเต็มหน้าอยู่เลย รดารักษ์เห็นความข้องใจนั่นจึงเริ่มต้นอธิบาย
“รดาจะเป็นคนเอาไปให้คุณราฟเองค่ะ…”
คราวนี้จากที่แปลกใจเปลี่ยนเป็นตกใจแทบช็อกทันที “เฮ้ย… ไม่ได้นะรดา คุณราฟเกลียดรดายังกับไส้เดือน ขืนรดาเป็นคนเอาเอกสารไปให้ มีหวังถูกจับโยนลงทะเลแน่…”
หล่อนรู้อยู่เต็มอกว่าราฟาลเกลียดตัวเอง แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นนี่ “รดาจะพยายามอธิบายเรื่องทุกอย่างให้กับคุณราฟฟัง และรดาเชื่อว่าคุณราฟจะเข้าใจ…”
“คุณราฟอ่ะนะบทคุณเธอจะรวนขึ้นมา เธอก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนหรอก เอาอย่างนี้เดี๋ยวป้าหาคนอื่นเอาเอกสารไปส่งให้คุณราฟเอง แต่ถ้าจะให้หาคนตามไปรับใช้บนเรือคงไม่ทันแล้ว…” ที่ป้ามูนาพูดมันคือความจริง แต่หล่อนไม่มีทางให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะความสะเพร่าของตัวเองหรอก ยังไงหล่อนก็จะต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ถึงแม้จะถูกราฟาลเกลียดขี้หน้ามากกว่าเดิมก็ตาม
“รดาจะไปเองค่ะ ป้ามูนารีบบอกมาเถอะว่าเอกสารที่คุณราฟต้องการอยู่ที่ไหน เดี๋ยวเรือจะออกซะก่อน…”
น้ำเสียงหนักแน่นและแน่วแน่ของรดารักษ์ทำเอาป้ามูนาถอนใจเฮือกใหญ่ เป็นห่วงสาวน้อยตรงหน้าจริงๆ ราฟาลคงจะต้องฟาดงวงฟาดงาใส่อย่างแน่นอน แถมยิ่งไม่ชอบหน้ากันอยู่แบบนี้ด้วย
“มันจะดีเหรอรดา… ป้ากลัวว่า…”
“คุณราฟเธอคงไม่ใจร้ายจับรดาโยนลงทะเลหรอกค่ะ และอีกอย่างรดาก็แค่เอาเอกสารไปให้เท่านั้น ไม่ได้ตามคุณราฟขึ้นเรือไปสักหน่อย…” รดารักษ์ฝืนยิ้ม ทั้งๆ ที่ภายในอกยิ้มไม่ออกเลยสักนิด
ป้ามูนาพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะตอบคำถามออกมาอย่างไม่มีทางให้เลือก “อยู่บนโต๊ะทำงานของคุณราฟนั่นแหละ ซองสีน้ำตาลใหญ่ๆ มีอยู่ซองเดียวตอนนี้…”
“ขอบคุณค่ะป้า… งั้นรดาไปก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับมา…”
“จะได้กลับมาหรือเปล่าเนี่ย กลัวคุณราฟจะจับโยนลงทะเลน่ะสิ…” ป้ามูนาพูด้วยความเป็นห่วง ขณะมองร่างอรชรของรดารักษ์ที่ยังสวมชุดฟอร์มของสาวใช้การ์รัสโซ่ พาราไดส์วิ่งหายเข้าไปภายในตึก ภาวนาอยู่ภายในอกขอให้หญิงสาวกลับมาโดยสวัสดิภาพ
ตอนนี้หล่อนกำลังยืนอยู่ตรงหน้า ‘Arcadia of the Seas’ อภิมหาเรือสำราญของตระกูลการ์รัสโซ่ กิติศัพท์ความอลังการ หรูหราและทันสมัยของมันกระเด็นเข้าหูมาตลอดเวลาสองปีเต็มที่หล่อนอาศัยอยู่ในการ์รัสโซ่พาราไดน์ แต่หล่อนไม่เคยได้เห็นได้สัมผัสเจ้า Arcadia of the Seas’ จริงๆ เลยสักครั้ง นี่แหละคือครั้งแรก…
รดารักษ์ใช้เท้าที่สั่นเทาก้าวผ่านเข้าไปภายในของเรือสำราญสุดหรู ความยิ่งใหญ่ที่กระแทกใส่หน้านั้นทำเอาหญิงสาวยิ่งสั่นเทามากขึ้นหลายร้อยเท่า มือบางที่ถือซองเอกสารสำคัญของราฟาลอยู่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อแห่งความตื่นกลัวจำนวนมาก มันมากจนหล่อนกลัวว่ามันจะเปียกเอกสารของราฟาลเข้า
“ดิฉันเป็นสาวใช้ของคุณราฟาลค่ะ นำเอกสารมาให้ท่าน…”
หญิงสาวพูดกับพนักงานที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้า ผู้หญิงคนนั้นกวาดสายตามองสำรวจหล่อนทั่วทั้งร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก่อนจะขึ้นมาสบตา กริยาเหยียดหยามทอประกายออกมากจากสายตาของหญิงสาวสวยตรงหน้าจนรดารักษ์รู้สึกอับอายยิ่งนัก
“ดิฉันนำเอกสารมาให้คุณราฟาลค่ะ”
“แต่คุณราฟาลบอกว่าคนใช้ผู้ชาย…”
ในที่สุดหญิงคนนั้นก็พูดกับหล่อน ท่าทางคุณเธอคงจะรู้เรื่องนี้ดีไม่น้อยเชียวแหละ สงสัยราฟาลคงสั่งเอาไว้ล่ะมั้ง แต่จะยังไงก็ช่างหล่อนจะรีบทำงานให้จบๆ จากนั้นก็รีบกลับไปอยู่ในที่ที่ตัวเองควรจะอยู่ ที่นี่มันหรูหราและอันตรายเกินไปสำหรับหล่อน
“เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ทำให้พี่คาซิมมาไม่ได้ ดังนั้นดิฉันจึงต้องมาแทน… รบกวนคุณช่วยบอกดิฉันหน่อยได้ไหมคะว่าตอนนี้คุณราฟอยู่ที่ไหน?”
“คุณราฟาลคงไม่ว่างพบคนใช้สกปรกอย่างเธอหรอกมั้ง ส่งเอกสารนั่นมาฉันจะเป็นคนเอาไปให้เอง ส่วนเธอ…” หญิงสาวเพิ่มความเหยียดหยันมากขึ้นอีก มองหล่อนราวกับกำลังสมเพชเวทนามากมาย
“รีบกลับไปถูบ้าน ซักผ้าขี้ริ้วเถอะ…”
แม้จะพยายามข่มโทสะแต่มันก็ทำได้ไม่ดีนัก เมื่อผู้หญิงตรงหน้าจงใจหาเรื่องไม่หยุด “ฉันรู้ดีว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร ก็คงเหมือนกับคุณนั่นแหละที่มีหน้าที่ต้อนรับแขกด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่มาใช้สายตาดูถูกเหยียดหยามแบบนี้…”
“ก็เธอไม่ใช่แขกของเรือลำนี้สักหน่อย… ต่ำต้อยสกปรกแบบนี้ หน้าชาติก็ไม่มีทางได้ขึ้นมาเสวยสุขบนเรือสวรรค์ลำนี้หรอก เอาเอกสารมา แล้วไปซะ!”
รดารักษ์กัดปากแน่น ปกติหล่อนเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยถือสาคำพูดดูแคลนของใครนัก แต่ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ หล่อนจะต้องโต้ตอบเสียบ้าง ยายนี่จะได้รู้ว่าไม่ควรแยกเกรดของมนุษย์ที่ความร่ำรวย
“คุณเป็นคนสวยนะคะ ดูดีเชียวแหละซึ่งเหมาะสมกับหน้าที่ของคุณที่ได้รับอยู่…”
“แน่นอน… ฉันสวยและเซ็กซี่ ไม่เฉยระเบิดและจืดชืดแบบเธอหรอกยะ” พนักงานสาวเชิดหน้ารับคำชมอย่างไม่คิดจะถ่อมตัวเลยแม้แต่นิดเดียว รดารักษ์แค่นยิ้มหยัน
“แต่ความคิดของคุณ… คำพูดของคุณ… มันทำให้คุณต่ำ… และต่ำยิ่งกว่าพื้นที่คุณกำลังยืนอยู่อีกค่ะ”
“แน่แก! แกด่าฉันเหรอ?” แม่คู่สนทนาตรงหน้ากระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความโกรธเคือง ลืมแคร์สายตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาชั่วขณะ
“ฉันยังมีความจริงอีกหลายอย่างที่อยากจะบอกคุณ… แต่หากคุณไม่อยากฟังล่ะก็ บอกมาว่าตอนนี้คุณราฟอยู่ที่ไหน…”
“ฉันไม่บอก เธอลงไปซะ ก่อนที่ฉันจะให้การ์ดมาลากเธอลงไป…!” สายตาเพชฌฆาตที่คู่สนทนาจ้องมองมานั่นไม่ได้ทำให้รดารักษ์หวาดกลัวแต่อย่างใด มนุษย์ที่มองคนอื่นต่ำต้อยไปหมดอย่างแม่คนนี้ไม่มีอะไรให้น่าหวาดกลัวเลยสักนิด ตรงกันข้ามกับน่าเวทนาเสียอีก
“คุณอาจจะรับการลงโทษจากคุณราฟไม่ไหว หาคุณราฟไม่ได้เอกสารในมือของฉันโดยเร็วที่สุด”