EP 37: จอมใจ จอมอหังการ
แม้สายลมในตอนเช้าริมระเบียงที่ยื่นออกไปจากห้องนอนสุดโอ่อ่าภายในเรือสำราญลำมหึมานั้นแสนจะเย็นฉ่ำ และเต็มไปด้วยความสดชื่นของกลิ่นไอท้องทะเลกว้าง แต่กระนั้นมันก็ไม่สามารถทำให้น้ำตาของรดารักษ์ที่กำลังหลั่งรินออกมาอาบแก้มแห้งเหือดลงได้เลยแม้แต่น้อย
ความเจ็บช้ำจากความใจร้ายของราฟาลเมื่อคืนไม่ผิดจากแส้เหล็กที่หวดลงมาบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ มันฝากฝังแผลเหวอะหวะเอาไว้จำนวนมหาศาล เลือดสดๆ ไหลทะลักออกมาประกาศความพ่ายแพ้มากมาย หล่อนเจ็บปวดยิ่งนักเมื่อได้ยินคำพูดไร้หัวใจของชายที่ตัวเองแสนจะบูชา
‘ฉันไม่เคยมีนางบำเรอที่ยอดเยี่ยมแบบนี้มาก่อน…’
สุดท้ายแล้วในสายตาของราฟาลหล่อนมันก็เป็นได้แค่นางบำเรอจริงๆ นางบำเรอที่รอวันปลดระวาง หญิงสาวสะอื้นไห้ออกมาจนตัวโยน ก้อนสะอื้นที่อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดทะลักทลายออกมาไม่หยุดหย่อน น้ำตาสาดกระเซ็นออกมาราวกับเขื่อนที่ทำนบกั้นพังพินาศ หัวใจบอบช้ำยับเยินกับความใจร้ายของราฟาล การ์รัสโซ่…
มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาแห่งความเจ็บปวดทิ้ง พยายามที่จะเช็ดมันให้แห้งไปจากดวงหน้า แต่ยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งทะลักทลายออกมา ราวกลับจะตอกย้ำว่าชาตินี้หล่อนไม่มีทางหยุดร้องไห้ได้ ก็เหมือนๆ กับที่หล่อนจะไม่มีทางหยุดรักราฟาล การ์รัสโซ่ได้นั้นแหละ
กลีบปากสั่นระริกเมื่อก้อนสะอื้นดันผ่านออกมา มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วที่คาดหวังอีกต่อไป หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องที่สุด หล่อนไม่ควรที่จะใฝ่สูงมาตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องเจ็บปวดหากรักผู้ชายเกินเอื้อมอย่างราฟาล แต่หัวใจไม่รักดีก็ไม่ยอมรับฟัง รักเขา… มันบอกว่ารักราฟาลมาตลอดสองปี รักหมดทั้งดวงใจ แม้ว่าเขาจะแสดงท่าทางรังเกียจขยะแขยงแค่ไหนก็ตาม
หญิงสาวเช็ดน้ำตาด้วยหลังมืออีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้ามาภายในห้องนอน เตียงนอนกว้างใหญ่หนานุ่มที่หล่อนใช้นอนกับราฟาลตลอดทั้งสองคืนที่ผ่านมาตั้งอยู่ตรงหน้า ราวกับว่ามันจะตอกย้ำเหตุการณ์เร่าร้อนที่มันเกิดขึ้นบนนั้นให้หล่อนได้อับอายเล่น
ภาพความร้อนแรงของการร่วมรักแสนมหัศจรรย์ผุดขึ้นมาในสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราฟาลกอดหล่อนแน่นมาก จูบหล่อนแรงมาก และทำทุกอย่างกับร่างกายของหล่อนอย่างหนักหน่วงและดุดัน เขาดื่มกินไปทั่วทุกอณูผิวสาวไม่เว้นแม้แต่ในบางจุดที่หล่อนแสนจะหวงแหน ลิ้นของเขาทำหน้าที่ไม่ผิดจากสว่านที่ไขทะลวงเข้าไปปิดสวิตซ์สติสัมปชัญญะให้มืดบอดลง ปากของเขาดั่งมีเวทมนต์คาถาปลุกเป่าให้หล่อนร้อนรุ่มตอบสนองอย่างไร้ยางอาย
หญิงสาวหน้าแดงก่ำจนต้องร้องครางออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงยามที่เขาแทรกส่วนที่ใหญ่โตและแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าลนไฟเข้ามาในกายสาวของหล่อน มันยิ่งกว่ารู้สึกดีเสียอีก ราฟาลทำให้หล่อนร้องคราง วิงวอน อ้อนวอนให้เขาโจนจ้วงเข้าใส่แรงขึ้นเร็วขึ้น การสอดเสียบที่ถูกจังหวะราวกับฝึกปรือกันมาเนิ่นนานทำให้หล่อนกรีดร้องออกมาราวกับคนคลุ้มคลั่ง เล็บของหล่อนจิกลงบนต้นแขนทรงพลังของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อยามสวรรค์ถล่มลงมาใส่หน้า ความสุขความอิ่มเอมที่ไม่เคยรู้สึกว่ามีอยู่จริงในโลกถล่มยับอยู่ภายในกาย
หล่อนมีความสุข… สุขจนแทบจะสำลักออกมาจากปาก
ในขณะที่ราฟาลก็คงแค่ปลดปล่อย… ใช่ เขาปลดปล่อยอย่างรุนแรงทุกครั้งในร่างกายของหล่อน เสียงคำรามยามสุขสมของเขาดังกระหึ่มลั่นห้อง เมื่อยามที่เขากระแทกกระทั้นสะโพกเพรียวเข้าหาเป็นจังหวะระรัวถี่ยิบ หนักหน่วงจนหยดสุดท้าย ก่อนที่เขาจะระเบิดสายพันธุ์สวาทเข้าใส่ซอกรักของหล่อน
ทุกอย่างจบลง… พร้อมๆ กับเสียงหอบหายใจแสนกระชั้นราวกับพึ่งไปวิ่งมาราธอนรอบโลกมาไม่ผิด
ไม่มีคำหวานใดๆ ออกจากปากของผู้ชายหล่อร้ายกาจอย่างราฟาล การ์รัสโซ่ นอกจากการผละออกห่างอย่างเงียบเชียบ ซึ่งมันก็บ่งบอกให้รู้อย่างโจ่งแจ้งแล้วล่ะว่าชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งติดๆ นี้เลย นอกจาก… การระบายความใคร่ กับอีตัวคนหนึ่งเท่านั้น
รดารักษ์กัดฟันพาร่างกายอ่อนล้า หัวใจอ่อนแรงของตัวเองเดินตรงเข้าในห้องน้ำ หวังไว้ลึกๆ ว่าการนอนแช่น้ำอุ่นสักพักจะทำให้หัวใจที่บอบช้ำเพราะพิษรักมีแรงต่อสู้ขึ้นมาบ้าง แม้จะสักเล็กน้อยก็ตามที
“คุณราฟคะ จะให้ตั้งโต๊ะมื้อเช้าที่ไหนดีคะ” โซลีน่าเข้ามาหาเจ้านายหนุ่มภายในห้องทำงานที่อยู่บนชั้นสามของเรือสำราญ
ราฟาลเงยหน้าจากแฟ้มเอกสาร ใบหน้าหล่อเหลาเยือกเย็นไร้ความรู้สึกจนคู่สนทนาอย่างโซลีน่าอดหวาดหวั่นไม่ได้ เพราะท่าทางแบบนี้แสดงว่าชายหนุ่มกำลังเครียดอย่างหนักทีเดียว แต่มันเรื่องอะไรกันล่ะ งานหรือ? ไม่น่าใช่ เพราะงานทุกอย่างผ่านพ้นไปได้อย่างดีเยี่ยม และทุกอย่างก็อยู่ในกติกาที่ราฟาลเป็นคนกำหนดขึ้นมาด้วย ดังนั้นไม่มีทางเป็นเรื่องงานอย่างแน่นอน แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ?
หรือว่าเรื่องของรดารักษ์? แน่นอน คงจะเป็นเรื่องนี้แน่ เพราะตอนนี้สิ่งที่มีอิทธิพลต่อสมองของราฟาลมากพอๆ กับเรื่องของงาน หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ นั่นก็คือเรื่องของผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนที่ราฟาลไม่สามารถต้านทานได้แม้จะพยายามสุดความสามารถแล้วก็ตาม
“ผมขอกาแฟดำอย่างเดียว… ที่นี่…”
ความต้องการของราฟาลทำให้โซลีน่าอดถามกลับไม่ได้ “แล้วคุณรดาล่ะคะ”
ราฟาลหลุบดวงตาคมกริบไร้ความรู้สึกลงมองโต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้ง “ก็แล้วแต่เธอว่าอยากจะกินที่ไหน… เอาล่ะโซลีน่า ผมต้องการทำงานในห้องนี้จนถึงเย็น อย่าให้ใครเข้ามารบกวนเด็ดขาด ออกไปได้แล้ว…” คำสั่งทรงอำนาจกับท่าทางไม่เป็นมิตรของราฟาลทำเอาโซลีน่าที่กำลังจะขยับปากถามขึ้นอีกครั้ง ต้องหุบปากลงทันที แล้วก้มหน้าทำตามคำสั่งด้วยความหวั่นเกรง
“ค่ะ คุณราฟ…”
โซลีน่ารีบก้าวยาวๆ ออกไปทันที เสียงประตูที่ถูกปิดลงเบาๆ ดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงเป่าลมออกจากปากเบาๆ ของราฟาล ชายหนุ่มมองเหม่อออกไปนอกระเบียงยังท้องทะเลกว้างไร้ขอบเขต สมองมึนงงจนไม่สามารถทำงานตรงหน้าได้อย่างที่ควรจะเป็น
รดารักษ์ทำให้เขาเป็นบ้าได้ทั้งยามหลับยามตื่น แม้แต่เวลาทำงานสมองของเขาก็ยังเป็นของหล่อน ภาพความงดงาม สลักเสลา ความอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ เสียงร้องครางที่ดังตลอดเวลาการร่วมรักร้อนฉ่า รสชาติความหวานฉ่ำจากทุกซอกมุมของผิวสาว มันหวานหอมติดลิ้นจนอยากจะลืม โดยเฉพาะตรงนั้น… สีชมพูระเรื่อไม่ผิดจากสีของกลีบปากอิ่ม แถมรสชาติยังยิ่งกว่าอาหารทิพย์จากสรวงสวรรค์เสียอีก
เขาจำได้ดีว่าตัวเองใช้ลิ้น ใช้ปากกับตรงนั้นของหล่อนนานแค่ไหน เขากินจนหล่อนเกร็งกระตุกไปทั้งร่าง ดื่มกินหยาดรักที่ทะลักทลายออกมาเพื่อเขาเพียงคนเดียวด้วยความหิวกระหาย แล้วก็เลียละเลงด้วยลิ้นจนแม่ภรรยาคนงามเครื่องร้อนขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็พาเจ้าหล่อนให้ค้นพบสวรรค์ที่งดงามด้วยความเป็นชายที่มหึมาพรักพร้อมของตัวเองด้วยความพออกพอใจ ครั้งแล้วครั้งเล่า… ไม่รู้เบื่อ
เขาจะเบื่อหล่อนหรือเปล่า… จะเบื่อรดารักษ์เหมือนๆ กับที่เคยรู้สึกกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตหรือเปล่า ราฟาลถามตัวเอง แล้วคำตอบแท้จริงของหัวใจก็ร้องตะโกนตอบกลับมาว่า
‘ไม่มีวัน… ไม่มีทาง เขาไม่มีทางเบื่อรสชาติหวานฉ่ำ และความแน่นหนั่นของรดารักษ์ง่ายๆ แน่ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ อาจจะสักหนึ่งปี สองปี หรืออาจจะสิบปี… และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ อาจจะเป็นตลอดชีวิตของเขาเลยก็อาจจะเป็นไปได้…’