EP 43: จอมใจ จอมอหังการ
“ก็ใช่น่ะสิ… เธอคงไม่คิดว่าฉันจะพิศวาสขอเธอแต่งงานหรอกนะ”
ใช่… หล่อนเผลอตัวเผลอใจคิดไปจริงๆ แล้วก็ต้องมาทนรับความเจ็บปวดเมื่อชายหนุ่มเฉลยออกมาว่าแท้จริงแล้วแหวนวงนี้มันก็แค่ค่าตัว ค่าดีดดิ้นที่หล่อนปรนเปรอให้กับชานหนุ่มบนเตียงหลายค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเอง น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม แต่รดารักษ์ก็รีบเช็ดมันออกไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวควานหาเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาสวมใส่ด้วยมือไม้ที่สั่นระริก แล้วก็ต้องด่าทอตัวเองอยู่ในอกเมื่อการติดกระดุมที่เคยเป็นเรื่องง่ายสำหรับหล่อน ในวันนี้มันกลับกลายเป็นเรื่องยากแสนยากที่ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
น่าเวทนา… จนราฟาลต้องยื่นมือเข้ามาช่วย เขาติดกระดุมเสื้อของหล่อนจนครบทุกเม็ดด้วยมือที่มั่นคง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาถูกเคลือบทับเอาไว้ด้วยความเลือดเย็นจนหล่อนมองไม่ออกเลยว่าแท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ หัวใจกระด้างดวงนี้เคยมีความรู้สึกรู้สาอะไรบ้างไหม
เขาติดกระดุมให้เสร็จก็ถอยหลังออกไป ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงถือตัวจนคนฟังอย่างรดารักษ์น้ำตาร่วงลงมาอีกครั้ง ฟันคมๆ กัดกลีบปากอิ่มเอาไว้แน่นเพื่อกั้นเสียงสะอื้นไห้เอาไว้อย่างสุดความสามารถ
“รดาไม่อาจเอื้อมคิดแบบนั้นหรอกค่ะ…”
“แล้วร้องไห้ทำไม?” น้ำเสียงของเขาแม้จะมีความห่วงใยเจือปนมาด้วยพอให้รู้สึกรู้สาได้บ้าง แต่กระนั้นความห่างเหิน เย่อหยิ่งถือตัวของเขาก็ยังแผดรัศมีใส่หน้าหล่อนจนแสบตาอยู่ดี
“รดาก็แค่ซาบซึ้งใจน่ะค่ะ กับน้ำใจที่คุณราฟมอบให้…”
หญิงสาวแสร้งปั้นหน้าหัวเราะ อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมราฟาลในตอนนี้กับราฟาลคนที่อยู่ในอ้อมแขนหล่อนเมื่อหลายนาทีที่ผ่านมาถึงได้ต่างกันสุดขั้วนัก แต่ก็ช่างเถอะ เพราะไม่ว่าจะเป็นราฟาลคนไหน เขาก็ไม่มีทางรักหล่อนได้อยู่ดี เขาก็แค่ตอบแทนเซ็กซ์ร้อนๆ ที่หล่อนแสดงได้ดีก็เท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะคะสำหรับแหวนเพชรวงนี้…”
หญิงสาวก้มลงมองกล่องกำมะหยี่ในมือของตัวเองอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องมองพ่อคนตัวโตด้วยสายตาว่างเปล่า ว่างเปล่าจนคนถูกมองอย่างราฟาลเริ่มหวั่นใจ
“แต่รดาไม่ต้องการ…”
รดารักษ์ปากล่องกำมะหยี่นั้นคืนกลับให้ผู้ชายใจร้ายด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากห้องทำงานของราฟาลอย่างรวดเร็ว ประตูห้องถูกปิดลงพร้อมๆ กับเสียงถอนใจแรงๆ ของเจ้าของห้องหนุ่มที่ดังระเบิดออกมา
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นแบบนี้…”
ชายหนุ่มพึมพำด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ เบื่อตัวเองเหมือนกันที่ไม่สามารถจะแสดงความรู้สึกดังเช่นมนุษย์ปุถุชนคนอื่นได้ อยากจะบอกว่ารัก อยากจะบอกว่าต้องการแต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง จะแสดงออกไปยังไง เขาพูดไม่เป็น ไม่เก่งในเรื่องแสดงความรู้สึก แต่รดารักษ์จะรู้บ้างไหมว่าทุกอย่างที่เขาทำลงไปนั้นมันก็เพราะรักคำเดียวเท่านั้นเอง
รดารักษ์หลบมานั่งร้องไห้ในมุมสงบแห่งหนึ่งในเรือสำราญจนสาแก่ใจแล้วนั่นแหละถึงกลับเข้าไปในห้องพักอีกครั้ง ภาวนาว่าอย่าให้ได้เจอะเจอราฟาลในห้องนอนเลย และพระเจ้าก็เข้าข้างหล่อน เมื่อในห้องนอนไม่มีวี่แววของราฟาลเลยแม้แต่น้อย
หญิงสาวยกมือขึ้นป้ายคราบน้ำตาที่ยังคงหลงเหลือบนใบหน้าทิ้ง ความชอกช้ำยังคงกัดกินเนื้อหัวใจอย่างอำมหิต สาวน้อยเดินโซซัดโซเซเข้าไปจัดการตัวเองภายในห้องน้ำ จากนั้นจึงแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีชมพูหวานหยาดเยิ้มที่เน้นเอวคอดและสะโพกผายของหล่อนให้เปิดเผยต่อสายตาของคนมอง
ความจริงวันนี้หล่อนไม่ได้อยากขึ้นไปร่วมงานปาร์ตี้บนดาดฟ้าเรือหรอก แต่ความเศร้าหมองทำให้หล่อนไม่อยากนั่งร้องไห้อยู่ตามลำพังในห้องนอนคนเดียว เพราะหล่อนมั่นใจว่าราฟาลก็คงกำลังสนุกอยู่บนดาดฟ้าเรือเช่นกัน หญิงสาวจ้องมองกระจกเช็คสภาพให้กับตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจก้าวออกจากห้องพัก มุ่งหน้าสู่งานปาร์ตี้ที่ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราทันที
บรรยากาศบนดาดฟ้าเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกัน สาวสวยสายเลือดผู้ดีที่คู่ควรกับราฟาลต่างพากันตบเท้ามาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง รดารักษ์หยิบแก้วน้ำส้มจากบริกรที่เดินมาเสริฟขึ้นดื่มเล็กน้อย พลางกวาดตามองหาที่นั่งมุมสงบเงียบให้กับตัวเอง แต่สายตาเจ้ากรรมดันมองไปเห็นร่างสูงใหญ่ของราฟาลที่กำลังเดินตรงมาหาเสียก่อน เขาก้าวมาหยุดตรงหน้าหล่อนอย่างรวดเร็ว เร็วจนหล่อนไม่สามารถจะถดถอยหนีได้ทัน
“โซลีน่าไม่ได้บอกหรือว่าฉันจะไปรับเธอที่ห้องพัก…” เขาเค้นเสียงกระด้างถาม
“บอกค่ะ แต่รดาไม่อยากมาพร้อมกับคุณราฟ… ขอตัวนะคะ รดาอยากนั่งคนเดียว”
ความเจ็บปวดจากความใจร้ายของราฟาลทำให้รดารักษ์ไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีก หญิงสาวหมุนตัวจะเดินหนี แต่ก็ถูกชายหนุ่มคว้าข้อมือกลมกลึงเอาไว้ซะก่อน เขาดึงร่างของหล่อนให้เข้ามาแนบชิดอย่างไม่สนใจสายตาสอดรู้สอดเห็นของบรรดาแขกร่วมงามเลยแม้แต่นิดเดียว
“ถ้าเธออยากเป็นม้าพยศนัก…” เขาก้มลงกระซิบเสียงเดือดดาล
“คืนนี้ฉันจะปราบเธอให้ราบคาบ ให้หมดแรงจนไม่มีปัญญาแม้แต่จะขยับปากเถียงฉันเลยคอยดูสิ…”
สาวน้อยหน้าแดงจัด ความร้อนผ่าวแล่นวาบไปตามกระแสเลือด หากแต่สมองยังจดจำความใจร้ายเมื่อชั่วโมงที่แล้วของราฟาลได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ช่วยทำให้หล่อนไม่เคลิบเคลิ้มไปกับมนต์เสน่ห์ที่พ่อเทพบุตรมารที่ยืนหน้าบูดอยู่ตรงหน้าได้อย่างหวุดหวิด
“มันจะไม่เกิดขึ้นอีก…”
“ไม่… มันจะเกิดขึ้นจนกว่าฉันจะพอใจนั่นแหละ และแน่นอนว่าอย่าคิดแม้แต่จะขัดใจฉันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพี่คาซิมแสนดีของเธออาจจะเดือดร้อนก็เป็นไปได้…” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ขุ่นเคือง แรงโทสะจำนวนมหาศาลอัดแน่นอยู่ในดวงตาคมกริบ
“คุณราฟก็ดีแต่ขู่…” หญิงสาวต่อว่าทั้งน้ำตา
ราฟาลแสยะยิ้มเลือดเย็น “เธอรู้ดีว่าฉันไม่เคยขู่ใคร เพราะฉันเอาจริงเสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเธอ… รดารักษ์…”
คนตัวโตดันร่างของหล่อนให้ออกห่างในทันที จากนั้นเขาก็ก้าวยาวๆ หายไปในฝูงชน รดารักษ์ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอาบแก้ม เจ็บปวดชอกช้ำกับความร้ายกาจของราฟาลยิ่งนัก เขาไม่รักหล่อน ชอบรังแกหัวใจของหล่อนเสมอ แต่ทำไมหล่อนถึงยังตัดใจจากผู้ชายที่ร้ายยิ่งกว่ามัจจุราชคนนี้ไม่ได้สักทีนะ รดารักษ์เฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่… ก็ไม่มีคำตอบสำหรับหล่อนอีกเช่นเคย
หญิงสาวยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาจนแห้งไปจากใบหน้า ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังมุมสงบแห่งหนึ่งที่แม้จะไม่เป็นส่วนตัวนัก แต่คนก็ไม่พลุกพล่านเหมือนกับตรงบริเวณสระน้ำ ร่างอรชรกำลังจะทรุดลงนั่งกับเก้าอี้นุ่มตัวใกล้ๆ แต่เสียงแหลมปี๊ดไร้ความเป็นมิตรของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นซะก่อน รดารักษ์ชะงักหันไปมองและก็จำได้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือคนๆ เดียวกันกับที่เคยนั่งตักราฟาลเมื่อหลายวันก่อน
แม่สาวผมบลอนด์ที่ราฟาลติดใจ… รดารักษ์คิดอย่างขุ่นเคือง ยอมรับกับตัวเองอย่างสิ้นความละอายเลยว่าหล่อนหึงหวงราฟาลกับแม่ผู้หญิงแสนเพอร์เฟ็คคนนี้ เจ้าหล่อนหุ่นดี ขาก็ยาว มีทุกอย่างที่ผู้ชายต้องการ ขณะที่หล่อนเปรียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย
“คุณเรียกดิฉันหรือคะ…”
“ก็หล่อนนั่นแหละย่ะ แหม… ทำตัวเป็นคุณโสมืออาชีพเลยนะ ยึดห้องของคุณราฟเอาไว้ซะคนเดียว ไม่คิดจะปล่อยเขามาให้คนอื่นได้แตะต้องบ้างเลยหรือไง” ความอิจฉาริษยาอัดแน่นอยู่ในกระแสเสียงของคู่สนทนาเต็มเปี่ยม รดารักษ์หน้าร้อนผ่าวกับคำสบประมาทของสตรีตรงหน้าเหลือเกิน ฟันคมๆ กัดลงบนกลีบปากอิ่มแน่นเพื่อข่มโทสะให้อยู่แต่ภายในอกเท่านั้น
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณพูดเรื่องอะไร…”
“อย่าทำเป็นไร้เดียงสานักเลยแม่คุณ เมื่อกี้ก็แทบจะจูบกับคุณราฟอวดฉันอยู่แล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นเชียวนะนังผู้หญิงหน้าด้าน”