EP 47: จอมใจ จอมอหังการ
ในที่สุดเรือสำราญชื่อก้องโลกอย่าง Arcadia of the Seas ก็กลับมาเทียบท่าเรือในกรุงอิสตันบูลอีกครั้ง สถานที่แห่งเดิมที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่าง ตั้งแต่หล่อนก้าวเท้าขึ้นไปบนเรือลำนั้น และแน่นอนว่าทุกอย่างระหว่างราฟาลกับหล่อนก็ต้องยุติลงตามไปด้วย
หล่อนเสียใจหรือ?
ใช่… เสียใจ และปวดใจเหลือเกิน แม้ตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมาราฟาลจะไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลยนอกจากความใคร่ที่มีกับกายสาวของหล่อน แต่กระนั้นหัวใจไม่รักดีก็ยังโหยหาและแอบหวังว่าผู้ชายไร้หัวใจคนนั้นจะอาทรกลับมาบ้าง
แต่มันคงเป็นได้เพียงแค่ความฝัน… รดารักษ์ร้องบอกตัวเองทั้งน้ำตา ขณะก้าวลงจากเรือด้วยท่าทางเศร้าหมอง หัวใจบอบช้ำยับเยินกับความเย็นชา ห่างเหินที่คนตัวโตแสดงใส่หน้า เขาไม่พูดกับหล่อนแม้แต่คำเดียวแม้ว่าจะเดินเฉียดกันไปมาอยู่ภายในห้อง ความชิงชังที่เขามอบให้นั้นมันมากมายจนหล่อนแทบจะรับไม่ไหว
สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ราฟาลไม่คิดจะสนใจใยดีอะไรหล่อนอีก หรือบางทีนี่อาจจะเป็นวิธีการตีจากของเขาก็เป็นได้ หญิงสาวหยุดเดินก่อนจะหันหลังกลับไปมองเรือสำราญลำมหึมาอีกเป็นครั้งสุดท้าย และภาพความรักเร่าร้อนที่เกิดขึ้นบนเตียงภายในเรือลำใหญ่ตรงหน้ามันก็ทำให้หล่อนตรงเบือนหน้าหนี น้ำตาแห่งความเจ็บปวดทะลักออกมาอาบแก้มจนสาวน้อยต้องรีบป้ายมันทิ้งอย่างรวดเร็ว และรีบเดินฝ่าฝูงชนมุ่งหน้ากลับสู่การ์รัสโซ่ พาราไดส์ด้วยสภาพจิตใจที่แสนบอบช้ำ
ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วที่จะอาลัยอาวรณ์เรื่องราวพวกนั้นอีก ในเมื่อตัวราฟาลเองยังไม่เห็นมีทีท่าว่าจะจดจำมันได้เลย เขาชิ่งหนีหล่อนไปตั้งแต่เรือยังไม่ทันเทียบท่าด้วยซ้ำ แถมยังทิ้งเช็คเงินสดจำนวนกว่าสองล้านไว้ตอกย้ำความใจง่ายของหล่อนอีกต่างหาก
หล่อนอยากเกลียดราฟาล อยากเกลียดผู้ชายคนนี้ให้สุดหัวใจ แต่… แต่หล่อนทำไม่ได้ หล่อนเกลียดราฟาลไม่ลงจริงๆ หัวใจของหล่อนเต็มไปด้วยความรัก และถึงแม้ว่าราฟาลจะร้ายกาจยิ่งกว่านี้อีกสักร้อยเท่าพันเท่า หัวใจโง่งมงายดวงนี้ก็ยังจะภักดีเช่นเดิมไม่เสื่อมคลาย
น้ำตาร่วงลงมาซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเช็ดเท่าไหร่ก็ไม่แห้ง ทำได้ดีที่สุดก็คือก้มหน้าแล้วเดินไปขึ้นรถแท็กซี่รับจ้างที่จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ด้านหน้าของท่าเรือใหญ่ที่สุดในอิสตันบูลด้วยความโศกา ทุกย่างก้าวไม่ต่างจากการย่ำเท้าลงไปแรงๆ บนผิวเนื้อหัวใจตัวเองแม้แต่น้อย
ใช้เวลาไม่นานเลยหล่อนก็สามารถกลับมาถึงการ์รัสโซ่ พาราไดส์ได้อย่างปลอดภัย หญิงสาวกลับไปยังห้องพักอาบน้ำชำระล้างคราบความทุกข์หวังจะให้มันหมดไปจากหัวใจ แต่มันไม่มีทางเป็นเช่นนั้นไปได้ เมื่อความโหยหาที่มีต่อราฟาลยังคงมีอำนาจมากมายเหลือเกิน หล่อนร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำอีกยามเมื่ออยู่ตามลำพังในห้องพักของตัวเอง หัวใจรวดร้าวไม่ผิดจากถูกอุ้งมือมัจจุราชบีบเคล้น
แล้วหล่อนจะทนมองเห็นราฟาล การ์รัสโซ่ต่อไปโดยไม่ร้องไห้ได้ไหมนะ คำตอบก็คือไม่ได้ หล่อนทำไม่ได้หรอก ยิ่งเห็นเขา ยิ่งได้เข้าใกล้เขา หล่อนก็ยิ่งเหมือนตายทั้งเป็น หากอยากจะเจ็บให้น้อยที่สุด หล่อนก็ต้องไป ต้องไปจากการ์รัสโซ่ พาราไดส์แห่งนี้ ไปให้ไกลจากผู้ชายที่หล่อแต่ไร้หัวใจอย่างราฟาลตลอดกาล
“กลับมาแล้วนานหรือรดา… แล้วนั่น…”
ใบหน้ายิ้มแย้มของป้ามูนาเปลี่ยนสภาพเป็นกังขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสภาพความเหนื่อยล้าและตาบวมแดงไม่ผิดจากคนที่พึ่งร้องไห้มาอย่างหนักของรดารักษ์ที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องครัว แม่บ้านวัยกลางคนรีบวิ่งเข้าไปประคองเอาไว้ด้วยความห่วงใย รั้งให้แม่สาวน้อยเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ริมห้อง
“ป้านึกว่ารดาจะมีความสุขเสียอีก… ดูสิตาบวมเชียว คุณราฟรังแกรดาของป้าเหรอ”
ชื่อของราฟาลมีผลต่อสภาพจิตใจของหล่อนเสียจริงๆ เพราะแค่ได้ยินชื่อเขาเท่านั้นรดารักษ์ก็สะอื้นไห้ออกมาอย่างไม่สามารถฝืนทนมันได้อีกต่อไป
“คุณราฟ… เกลียดรดา…”
“ไม่จริงหรอกรดา… มันเป็นอย่างนั้นไปไม่ได้หรอก ในเมื่อ…” ป้ามูนาหยุดพูดกลางคันเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะรีบเบี่ยงเบนความสนใจของรดารักษ์ไปเรื่องอื่นอย่างรวดเร็ว
“ไม่เอาน่าอย่า ร้องไห้เลยหลานรักของป้า… บางอย่างมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นหรอกนะ ใจเย็นๆ แล้วสิ่งที่ได้รับตอบกลับมานั้นมันจะทำรดามีความสุขไปตลอดชีวิต”
มีความสุขหรือ? ความสุขในชีวิตของหล่อนมันหมดไปทั้งแต่วันที่ราฟาลตีตัวออกห่างหล่อนแล้วนั่นแหละ ทุกอย่างมันจบลงด้วยการจากลา ราฟาลต้องการแค่เซ็กซ์ ขณะที่หล่อนต้องการหัวใจ เส้นทางมันขนานกันไม่มีทางมาบรรจบกันได้ หล่อนทำได้แค่เพียงปล่อยทุกอย่างให้มันผ่านไป ผ่านไปพร้อมๆ กับความเจ็บปวดรวดร้าว
“เชื่อป้านะรดา…”
รดารักษ์ไม่ได้ตอบได้แต่พยักหน้ารับออกไป หญิงสาวยกมือขึ้นป้ายน้ำตาแห่งความอาดูรจนเหือดแห้ง ก่อนจะหันไปฝืนยิ้มให้กับคู่สนทนา หล่อนไม่ต้องการให้ป้ามูนาต้องมาทุกข์ใจกับเรื่องของตนเอง หากจะต้องมีคนเจ็บในเกมรักครั้งนี้ ก็ขอให้มีแค่หล่อนเพียงคนเดียวเท่านั้นพอ
“รดาไม่เป็นอะไรหรอกคะป้า… รดาแค่เสียใจ แต่ไม่นานรดาก็จะหายเจ็บ”
แม้จะพยายามบังคับเสียงของตัวเองแค่ไหน แต่ท้ายประโยคมันก็ยังสั่นไหวอยู่ดี
“ป้าดีใจที่รดายิ้มได้…”
“ขอบคุณค่ะป้า… ขอบคุณจริงๆ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะเอ่ยถามถึงเรนาเพื่อนสนิท
“ป้าจ๊ะ ตอนนี้เรนาเป็นยังไงบ้าง หลานของรดาแข็งแรงไหมเอ่ย เดี๋ยวตอนค่ำๆ ป้าพารดาไปเยี่ยมหลานหน่อยนะคะ รดาอยากเห็นหลาน…”
หล่อนชอบเด็ก ชอบเด็กตัวเล็กๆ หล่อนอยากมีลูกสักสี่ห้าคนกับผู้ชายที่ตัวเองรัก แต่มันคงไม่มีวันนั้นแล้วล่ะ ในเมื่อผู้ชายที่หล่อนรัก เขาไม่เหลียวแลหล่อนเลย และตลอดเวลาที่ใกล้ชิดกันบนเรือราฟาลก็แค่ต้องการเซ็กซ์จากหล่อนเท่านั้น แล้วเขาป้องกันหรือเปล่านะ? รดารักษ์ร้องถามตัวเองแต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้อยู่ดี
“เอ่อ… คือว่า…” คราวนี้ป้ามูนาอึกอักจนน่าสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะป้า หรือว่าเรนาเป็นอะไรไป…” ความห่วงใยที่อัดแน่นอยู่ในกระแสเสียงของรดารักษ์ทำให้ป้ามูนาจำต้องสารภาพความจริงออกไป
“แม่เรนายังไม่ได้คลอดเลย…”
“อะไรนะคะป้า?!”
“แม่เรนายังไม่ได้คลอดลูกเลย” ป้ามูนาตอบออกมาอีกครั้ง และพยายามหลบตา
รดารักษ์จ้องมองคู่สนทนาที่มีวัยวุฒิมากกว่าหลายสิบปีด้วยความเคลือบแคลง “ก็วันนั้น… ป้ามูนาบอกกับรดาว่าพี่คาซิมไปเฝ้าเรนาที่กำลังจะคลอดลูกที่โรงพยาบาล แล้วทำไม…”
ทำไมทุกอย่างมันเหมือนมีเงื่อนงำนักหนานะ ตั้งแต่ห้องพักบนเรือที่ราฟาลบอกว่าเต็มทุกห้อง แต่ความจริงแล้วมันว่างตั้งหลายห้อง แล้วนี่ยังจะเรื่องของเรนาอีก ก็วันนั้น… ป้ามูนาบอกกับหล่อนว่าเรนากำลังจะคลอดลูก พี่คาซิมเดินทางไปด้วยไปไม่ได้ หล่อนถึงต้องเอาเอกสารไปให้ราฟาลบนเรือนแทน และนั่นก็ทำให้หล่อนลงจากเรือไม่ทัน เรื่องราวที่ไม่สมควรจึงเกิดขึ้น
“ป้ามีอะไรปิดบังรดาอยู่หรือเปล่าคะ…”
“ไม่มี… ไม่มีอะไรปิดบังเลย”
ป้ามูนาส่ายหน้าทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด พร้อมๆ กับปฏิเสธเสียงหนักแน่น แต่สายตาของป้ามูนามันไหวระริกตรงกันข้ามกับสิ่งที่กำลังพยายามแสดงออกมานัก
“แล้วเรื่องของเรนาล่ะคะ ทำไมเรนาถึงยังไม่ได้คลอดลูก ทั้งๆ ที่วันนั้นป้าเป็นคนบอกกับรดาเองไม่ใช่หรือคะว่าเรนากำลังจะคลอดลูก…” ความสงสัยอัดแน่นเต็มกระแสเสียง