EP 57: จอมใจ จอมอหังการ
ถ้าอย่างนั้นหล่อนก็คิดถูกแล้วล่ะที่จะไปจากที่นี่ คิดถูกแล้วล่ะที่จะไปจากราฟาล หญิงสาวยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งก่อนจะรีบก้าวเดินมุ่งหน้ากลับสู่ห้องนอนของราฟาลที่หล่อนได้รับเกียรติจากเจ้าของห้องให้ได้เข้าไปอยู่อย่างรวดเร็ว และด้วยการมองเห็นไม่เต็มร้อยเพราะถูกม่านน้ำตาบดบังบวกกับความเร่งรีบก็ทำให้ร่างอรชรปะทะเข้ากับร่างของป้ามูนาเต็มๆ แรง จนแทบล้มแต่ป้ามูนาคว้าเอาไว้ได้ทัน
“จะรีบไปไหนรดา… แล้วนั่น ร้องไห้ทำไม”
“ไม่มีอะไรค่ะป้า… รดาแค่ผงเข้าตา” หญิงสาวโกหก แต่ไม่เนียนเลย
“อย่ามาหลอกคนแก่หน่อยเลย ร้องไห้ทำไมบอกป้ามาเถอะ คิดหัวเดียวยังไงก็สู้สองหัวไม่ได้นะ”
แม้อยากจะเล่า อยากจะบอกให้ป้ามูนารู้แค่ไหน แต่หญิงสาวก็เก็บกั้นเอาไว้ ฝืนยิ้มและโกหกออกไปอีกครั้ง “รดาไม่ได้ร้องไห้จริงๆ ค่ะ รดามีความสุขดี…”
ป้ามูนาดึงร่างอรชรเข้ามาสวมกอดปลอบประโลม มองก็รู้ว่าหลานสาวกำลังปวดใจ แต่ก็ไม่อยากจะคาดคั้นให้หญิงสาวต้องรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าที่เป็นอยู่อีก จึงได้แต่เงียบเอาไว้
“รดาจะกลับเมืองไทยแล้วนะคะป้า… รดาคิดถึงพ่อ”
“แต่คุณราฟเธอคงไม่ยอมแน่” ผู้เป็นป้าค้านทันที ขณะดันร่างของรดารักษ์ที่ซบไหล่ของหล่อนอยู่ให้ห่างออกมาเพื่อที่จะได้เผชิญหน้ากัน
รดารักษ์ยืนยิ้มบางๆ ทั้งๆ ที่ภายในหัวใจกำลังร้องไห้คร่ำครวญรวดร้าว “คุณราฟอนุญาตรดาแล้วค่ะ แถมยังจะซื้อตั๋วเครื่องบินอำนวยความสะดวกให้เต็มที่อีกต่างหาก…” น้ำเสียงเจือสะอื้นนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่นจนป้ามูนาแทบจะร้องไห้ตามไปด้วย
“ป้าไม่เชื่อว่าคุณราฟเธอจะปล่อยรดาไปแบบนี้หรอก…”
“แต่มันคือเรื่องจริงค่ะ คุณราฟยินดีมากที่รดาจะไป…”
น้ำตาทะลักทลายไหลทะลักออกมาเปื้อนเปรอะใบหน้างาม สะอื้นไห้จนตัวโยน ความเจ็บปวดอัดแน่นอยู่ภายในอกมากมายมหาศาลนัก
“รดาขอตัวก่อนนะคะ…”
“ให้ป้าขึ้นไปส่งไหมรดา…” ป้ามูนาเอ่ยขึ้นด้วยความห่วงใย
“ไม่เป็นไรค่ะ รดาไปเองได้ ขอบคุณป้ามากค่ะ” รดารักษ์ยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะรีบวิ่งหนีขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
“เมื่อไหร่คุณราฟจะยอมพูดว่ารักรดาสักทีนะ…”
ป้ามูนาส่ายหน้าน้อยๆ อย่างอ่อนอกอ่อนใจ รู้สึกไม่สบายใจเลยที่เห็นสองคนที่รักกันผิดใจกันอย่างนี้ เป็นเพราะความปากแข็งของราฟาลเพียงคนเดียวนั้นแหละ อย่างนี้สนับสนุนให้รดารักษ์รีบกลับเมืองไทยไปดีกว่า พ่อเจ้านายตัวแสบจะได้เลิกอมพะนำสักที
“คุณแม่บ้านคะ คุณราฟฝากไอ้นี่มาให้คุณรดาค่ะ”
กำลังจะเดินกลับเข้าครัวแท้ๆ แต่ก็ต้องชะงัก หันกลับไปมองเสียงเรียกด้านหลัง แล้วก็ได้เห็นซองจดหมายสีขาวยื่นมาให้ตรงหน้า
“อะไรเหรอ”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เมื่อกี้ลุงคนขับรถเอามาให้ค่ะ บอกว่าเป็นของคุณรดา”
ป้ามูนาหยิบซองจดหมายสีขาวที่หล่อนมั่นใจว่าด้านในต้องบรรจุอะไรสักอย่างเอามาไว้ในมือ จ้องมองด้วยความสงสัยแต่ด้วยมารยาทจึงไม่กล้าเปิดออกดู
“หล่อนจะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวฉันเอาขึ้นไปให้รดาเอง…”
“ค่ะ คุณแม่บ้าน”
แม่สาวใช้ถอยหลังลนและเดินออกไปแล้ว ป้ามูนาจึงรีบเดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปหารดารักษ์ทันที พอมาถึงห้องก็ยกมือขึ้นเคาะ เมื่อเจ้าของห้องอนุญาตก็รีบก้าวเข้าไป
“มีอะไรหรือคะป้า…”
“คุณราฟฝากมาให้ค่ะ…” ป้ามูนารีบยื่นซองจดหมายสีขาวให้กับรดารักษ์
หญิงสาวรับมาถือไว้อย่างงงๆ และก็ตัดสินใจเปิดออกดู แล้วก็ได้เห็นว่าราฟาล การ์รัสโซ่นั้นใจดีกับตัวเองมากแค่ไหน น้ำตาไหลทะลักออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในซองจดหมายชัดเจน
“นี่มันตั๋วเครื่องบินนี่รดา อิสตันบูล-กรุงเทพฯ”
เจ้าของชื่อที่กำลังร่ำไห้อยู่เงียบๆ ฝืนยิ้มขมขื่นออกมา “คุณราฟเธอใจดีมากเห็นไหมคะ เธอยินดีที่สุดที่รดามีความคิดที่จะกลับเมืองไทย…”
“โธ่… รดาของป้า… ป้าสงสารหนูเหลือเกิน”
รดารักษ์ยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง หล่อนไม่อยากให้ใครต้องมาเวทนาตัวเองอีกแล้ว “รดาไม่เป็นอะไรหรอกค่ะป้า เวลาจะทำให้รดาเข้มแข็ง… และเวลาจะทำให้รดาลืมคนใจร้ายอย่างราฟาล การ์รัสโซ่ได้…” กลีบปากอิ่มสั่นระริกฝืนคลี่ยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ภายในหัวใจกำลังร่ำไห้อย่างแสนสาหัส
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของป้านะคะ… และรดาจะขอบคุณมากถ้าป้าเก็บที่อยู่ของรดาในเมืองไทยให้เป็นความลับ…”
ป้ามูนาตาแดงก่ำเพราะสงสารหลานสาว “ป้าสัญญา… แม้ว่าคุณราฟจะไล่ป้าออก ป้าก็จะไม่ยอมบอกว่ารดาอยู่ที่ไหน เชื่อป้า ไว้ใจป้านะรดา…”
สองสาวต่างวัยสวมกอดกันแน่น รดารักษ์สะอื้นไห้กับไหล่ของป้ามูนาอยู่นานเป็นสิบนาทีกว่าจะได้สติและขยับออกห่าง
“รดาคงต้องเก็บของก่อน… เพราะเที่ยวบินที่คุณราฟจองให้รดาใกล้จะออกแล้ว”
ที่เขาจองเที่ยวบินให้ในระยะกระชั้นชิดแบบนี้ก็คงเป็นเพราะว่าต้องการให้หล่อนรีบไปให้พ้นหน้าพ้นตาสินะ ได้… หล่อนจะทำตามที่เขาต้องการ หล่อนจะไปจากที่นี่ ไปวันนี้ และจะไม่กลับมาเหยียบสวรรค์เถื่อนแห่งนี้อีก มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งซ้ำอีกครั้ง พร้อมๆ กับสูดลมหายให้เข้าปอดอย่างมุ่งมั่น
“รดาจะไม่พบหน้าคุณราฟอีก…”
“แม้ป้าจะอยากให้รดาอยู่ที่นี่ต่อ อยู่รอฟังคำอธิบายของคุณราฟเธอก่อน แต่… ป้าไม่อยากเห็นรดาร้องไห้อีกแล้ว ในเมื่อปากแข็งนักก็ให้เป็นฝ่ายเจ็บปวดเองบ้างเถอะ”
ป้ามูนาเอ่ยถึงเจ้านายหนุ่มของตัวเองด้วยความขุ่นเคือง ขณะจ้องมองหลานสาวที่กำลังก้มหน้าก้มหน้าเก็บข้าวเก็บของที่จำเป็นของตัวเองใส่กระเป๋าเดินทางด้วยความสงสาร ไม่เคยคิดเลยว่าคำว่ารักสำหรับราฟาลมันจะพูดยากพูดเย็นถึงเพียงนี้
‘เดี๋ยวดูเถอะกลับมาแล้วไม่เจอเมีย เต้นเป็นเจ้าเข้าทรงแน่ แล้วหล่อนนี่แหละจะสมน้ำหน้าเสียให้เข็ด’
ราฟาลนั่งหมุนแหวนเพชรน้ำงามในมือไปมาอยู่บนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด เมื่อเช้าเขาตั้งใจจะสวมแหวนประจำตระกูลที่มีแต่สะใภ้ของการ์รัสโซ่เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้สวมใส่ให้กับเจ้าหล่อน แต่แม่คุณก็ดันมาพยศแถมยังแสดงเจตนารมณ์แน่วแน่ว่าต้องการกลับเมืองไทย
หล่อนกล้าบอกว่าจะทิ้งเขากลับไปที่นั่นเพื่อไปหาพ่อ… ไม่จริงหรอก รดารักษ์จะต้องมีใครบ้างคนรออยู่ที่นั่น และคำว่ารักที่หล่อนมอบให้เขาทุกครั้งที่ร่วมเสพสังวาสกันมันก็แต่คำหลอกลวง แท้จริงแล้วเจ้าหล่อนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว หล่อนก็แค่ติดใจเซ็กซ์… เซ็กซ์เร่าร้อนที่เขาปรนเปรอให้เท่านั้น
โธ่เว๊ย!
ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด ฟาดกำปั้นลงบนโต๊ะทำงานไม้โบราณของตัวเองอย่างแรง ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อระบายอารมณ์เดือดที่อัดแน่นอยู่ภายในอก ข้อนิ้วแตกจนเลือดสีแดงฉานไหลออกมา แต่ชายหนุ่มหาได้รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ไม่ หัวใจต่างหากที่กรีดร้องด้วยความเจ็บร้าวจนแทบจะขาดใจตาย
ทำไมเขาถึงยังคิดถึงแม่นั่นอยู่อีก ทำไมสมองถึงได้ปล่อยให้รดารักษ์เข้ามามีอิทธิพลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆ ที่ย้ำกับตัวเองเป็นร้อยครั้งพันครั้งแล้วว่าเจ้าหล่อนไม่ได้รักเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็แค่เซ็กซ์ เซ็กซ์ดีๆ ที่ถูกใจกันทั้งสองฝ่าย เขาไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจหล่อนอีกแล้ว ผู้หญิงอีกมากมายที่ต้องการมาอยู่บนเตียงของเขา ปล่อยหล่อนไป หล่อนอยากไปไหน กลับไปหาใครก็เชิญ
“จะไปไหนก็ไป…!” แฟ้มเอกสารสองเล่มถูกเขวี้ยงลงกระจุยกระจายกับพื้น
“ฉันไม่เห็นจะสนสักนิด ไปเลย ไปเร็วๆ ยิ่งดี!”
กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น ดวงตาคมกริบอัดแน่นไปด้วยความเดือดดาล พยายามจะตัดใจ พยายามจะไม่ใส่ใจแต่… แต่หัวใจมันไม่ยอมให้ทำแบบนั้น สมองร้องบอกให้ปล่อยหล่อนไป แต่หัวใจ ร่างกายและจิตวิญญาณมันไม่ยอม มันร้องประท้วงต่อต้านจนเขาเจ็บปวดไปหมด
“เธอทำอะไรกับฉันรดารักษ์… ทำไมฉันถึงเจ็บแบบนี้”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมหัวใจของตัวเอง จังหวะการเต้นของหัวใจทำให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองก็มีหัวใจเหมือนๆ กับมนุษย์คนอื่นเช่นกัน เขารักเป็น… ใช่แล้วก็เขากำลังหลงรักรดารักษ์จนหัวปักหัวปำอยู่นี่ไง รักแต่ก็ปากแข็งไม่กล้าเอ่ยออกไป รักแต่ก็กลัวผิดหวัง รักมากจนต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้
“ไม่ได้… ฉันไม่ให้เธอไปไหนทั้งนั้น ฉันจะมัดเธอไว้กับเตียงรดา…” มือใหญ่เอื้อมไปกดเทเลคอมแล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงร้อนรนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน