บทที่ 132 เกียรติของคุณหลี่
แกร๊ก ประตูห้องส่วนตัวเปิดออกอย่างช้า ๆ
ชั่วพริบตานั้นลมหายใจของพวกกู้เจี้ยนหมินหยุดชะงักลง รู้สึกว่าสิ่งที่ค่อย ๆ เปิดออกไม่ใช่ประตูของห้องส่วนตัว แต่เป็นประตูนรก
“จบกัน จบกัน ถ้าหากว่าหวงเหวินจิ่นกลับมาล่ะก็ ต้องจบเห่กันหมดแน่ ๆ”
กู้ซิงเว๋ยกระซิบสั่นไปทั้งร่าง เหงื่อซึมออกมาเปียกชื้นเต็มเสื้อด้านหลัง
ในตอนนี้ แก้มที่บวมแดงของฮั่วเจี้ยนเฟิงเกร็งกระตุก นึกถึงฉากเมื่อครู่ที่โดนหวงเหวินจิ่นลงโทษ ในใจของฮั่วเจี้ยนเฟิงก็เต็มไปด้วยเมฆครึ้ม
หลี่โม่ราวกับไม่สะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ใด ๆ มองไปที่ประตูที่ถูกผลักออกด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง มองดูบริกรหญิงที่มีรอยยิ้มงดงามแต่งกายเลิศหรูที่หลังประตู หลี่โม่อดไม่ไหวหัวเราะออกมา
“ฮ่า ๆ ๆ เป็นพนักงานน่ะ ทุกคนไม่ต้องตื่นเต้นไป”
ได้ยินเสียงหัวเราะของหลี่โม่ ทุกคนต่างรู้สึกระคายหูอย่างหาที่เปรียบมิได้ รู้สึกว่าภายใต้เสียงหัวเราะของหลี่โม่นั้นล้วนแต่เป็นการเยาะเย้ยพวกเขา”
“ใครตื่นเต้นกัน! ไอ้ปัญญาอ่อน! แกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรที่นี่ ถ้าหากแกอ้าปากพูดอีกล่ะก็ ฉันจะไม่เกรงใจแกแล้ว!”
กูซิงเว๋ยแสร้งทำตัวดุร้ายปิดบังความหวาดกลัวในใจเมื่อครู่
สายตาของฮั่วเจี้ยนเฟิงมีความไม่แน่ใจอยู่บ้าง เมนูอาหารทางนี้ยังสั่งไม่เสร็จเลย เหตุใดบริกรกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งถึงได้หอบเอาอาหารเข้ามาในนี้เสียแล้ว
“พวกผมยังสั่งอาหารไม่เสร็จเลย พวกคุณเสิร์ฟผิดห้องหรือเปล่า?”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงออกปากถามขึ้น
“ไม่ผิดค่ะ นี่เป็นคำสั่งของประธานอู๋ของพวกเรา ไม่ผิดแน่ ๆ ค่ะ”
บริกรหญิงที่นำอยู่ด้านหน้าตอบมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็เดินมาที่ด้านหน้า นำอาหารมาวางลงบนโต๊ะ “จานนี้คือหอยเป๋าฮื้อหวานค่ะ”
กลางจานกลมใบใหญ่จัดวางหอยเป๋าฮื้อชั้นเลิศสองตัวไว้อย่างประณีต วางกองกันเป็นเหมือนภูเขาเล็ก ๆ
ฮั่วเจี้ยนเฟิงมองดูหอยเป๋าฮื้อครั้งหนึ่ง ตาเบิกค้างในทันใด!
แม่มึงเหอะ นี่มันอาหารในตำนาน แค่จานนี้จานเดียวก็แสนกว่าแล้ว!
ถ้าหากจานต่อ ๆ ไปอยู่ในระดับราคาเดียวกันล่ะก็ ฮั่วเจี้ยนเฟิงคิดว่าวันนี้ตนจะต้องสิ้นเนื้อประดาตัวเป็นแน่!
“จานนี้คือปลิงทะเลตุ๋นค่ะ”
“จานนี้คือฟัวกราส์เห็ดทรัฟเฟิลดำค่ะ”
“จานนี้คือ…”
อาหารชั้นเลิศราคาแพงระยับถูกเสิร์ฟเข้ามาทีละจาน ๆ พวกของกู้เจี้ยนหมินมองอย่างโง่เขลา!
ลองคำนวณราคาอาหารพวกนี้ดูแล้วก็ทะลุสองล้านไปอย่างสบาย ๆ เลย เกินขอบเขตในจินตนาการของพวกของกู้เจี้ยนหมินไปแล้ว
ฮั่วเจี้ยนเฟิงไม่มีกะจิตกะใจจะมองดูอาหารแล้ว แต่กลับพลิกดูเมนูอาหารในมืออย่างรวดเร็ว พลิกไปถึงหน้าสุดท้ายที่มีชุดอาหารราชา
มองดูราคาที่ทำให้คนหวาดผวาในเมนูอาหาร มือที่ถือเมนูอาหารอยู่ของฮั่วเจี้ยนเฟิงสั่นพึ่บพั่บ
“พวกคุณ… คงจะไม่เอาอาหารในเมนูอาหารงานเลี้ยงระดับคิงมาเสิร์ฟให้พวกผมใช่ไหม”
“ค่ะ คุณผู้ชาย นี่คือฟูลคอร์สงานเลี้ยงระดับคิงค่ะ”
บริการสาวสวยพูดไปก็นำไวน์แดงหนึ่งขวดมาวางไว้บนโต๊ะ และถามว่า “Romani Conti ปี 90 จะเปิดตอนนี้เลยไหมคะ?”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงกำลังจะบ้าไปแล้ว Romani Conti ปี 90 เหี้ยอะไร ซื้อจากพ่อค้าไวน์โดยตรงยังราคาสามแสนกว่า เข้าไปในกวนเหลินกังจะต้องขายห้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันแน่ ๆ !
“ผมไม่ได้สั่ง ทำไมพวกคุณถึงได้เสิร์ฟอาหารโดยพลการ แบบนี้ผมคงจ่ายเงินให้ไม่ได้!”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงตัดสินใจแล้วว่าจะยอมขายหน้าจนถึงที่สุด
ฟูลคอร์สงานเลี้ยงระดับคิงหนึ่งโต๊ะนี้เกือบสี่ล้าน เงินทั้งหมดในบัตรทุกใบบนตัวของฮั่วเจี้ยนเฟิงรวมกันแล้วยังมีแค่สามล้านนิด ๆ เอง
ถึงแม้ว่าฐานะทางสังคมของฮั่วเจี้ยนเฟิงไม่ด้อย แต่ก็ไม่ได้มีเงินสดมากมายขนาดนั้นนะ เงินที่เหลือต้องเก็บไว้ใช้ลงทุนอีก เอามาเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้ตั้งแต่แรก!
แทนที่จะเช็กบิลแล้วเงินที่รวบรวมได้นั้นไม่เพียงพอ ยังไม่สู้ยอมรับความพ่ายแพ้เสียตอนนี้
กู้เจี้ยนหมินมองดูอาหารชั้นเลิศเต็มโต๊ะ ถึงแม้จะอยากเก็บเอาไว้เพียงใด แต่เมื่อพิจารณาถึงราคาแล้วก็ยังรู้สึกว่าควรจะสนับสนุนฮั่วเจี้ยนเฟิง
“เจี้ยนเฟิงพูดถูก พวกเรายังสั่งอาหารไม่เสร็จเลยนะ พวกคุณก็เอาอาหารชุดนี้มาเสิร์ฟ นับว่าทำไม่ถูกอยู่นะ”
กู้เจี้ยนหมินพูดขึ้น
บริกรแย้มยิ้ม ค้อมกายและพูดขึ้นว่า “นี่เป็นคำสั่งของประธานอู๋ของพวกเราค่ะ ประธานอู๋ของพวกเราใกล้จะมาถึงแล้ว หากมีปัญหาอะไรพวกคุณสามารถถามเอากับประธานอู๋ได้ค่ะ”
ประธานอู๋แห่งกวนเหลินกังนั่น นอกจากอู๋เต้าเหวินแล้วยังจะมีใครได้อีก?
ไม่มีคนอื่นแต่แรกแล้ว
ได้ยินว่าอู๋เต้าเหวินจะมา กู้เจี้ยนหมินก็ตกใจ รู้สึกว่าสถานการณ์นี้ผิดปกติอยู่บ้าง
ในบรรดาคนกลุ่มนี้ของตน ไม่มีใครข้องแวะกับอู๋เต้าเหวินเลย อย่างมากก็แค่ได้ยินเรื่องเล่าของอู๋เต้าเหวินก็เท่านั้น
“อู๋เต้าเหวินจะกลับมาได้อย่างไร ไหนจะอาหารจานใหญ่พวกนี้อีก เกรงว่าอาหารพวกนี้จะไม่ใช่แค่สี่ห้าล้านน่ะสิ”
กู้เจี้ยนหมินพูดอย่างหวาดระแวง สายตากวาดมองดูทุก ๆ คนบนโต๊ะ
“ถ้ารวมไวน์ด้วยล่ะก็เกินสี่ล้านแน่”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดน้ำเสียงเบา
กู้ชิงหลินมองหน้าหลี่โม่ครั้งหนึ่ง พูดอย่างโกรธแค้นว่า “ต้องเป็นประธานหวงจัดมาแน่ ๆ! เขาอยากจะให้พวกเราขายหน้าที่จ่ายเงินค่าอาหารไม่ไหว และยังยืมมืออู๋เต้าเหวินมาจัดการพวกเราอีก!”
“เฮือก!”
พวกของกู้เจี้ยนหมินรู้สึกหนาวไปถึงไขสันหลัง ลองคิดดูให้ดีอย่างละเอียดแล้วเรื่องจะต้องเป็นอย่างนี้แน่ ๆ!
“พูดจามีเหตุผล รออีกสักพักพออู๋เต้าเหวินมาแล้ว พวกนายก็พูดจาให้มันน่าฟังหน่อย โดยเฉพาะแก หลี่โม่! ถ้าแกยังพูดจาด่าทออีกล่ะก็ อย่ามาโทษที่ฉันจะใช้กฎตระกูลกับแก!”
สายตาดุร้ายเฉียบขาดของกู้เจี้ยนหมินจ้องไปยังหลี่โม่ กังวลอย่างยิ่งว่าอีกสักพักหลี่โม่จะประสาทกลับขึ้นมาอีก ถ้าหากว่าต้องผิดใจกับอู๋เต้าเหวินอีกล่ะก็ จบเห่กันจริง ๆ แน่
“ผมจะไม่พูด”
หลี่โม่พูดจบก็ปิดปากแน่น
กู้เจี้ยนหมินผ่อนลมหายใจออกมาครั้งหนึ่ง ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาทางนี้ ลุกขึ้นยืนกันเป็นพัลวัน
“ประธานหวง ทำไมท่านถึงมาด้วยตนเองล่ะ ผมยังคิดอยู่ว่าจะไปต้อนรับท่านที่ประตูน่ะ”
กู้เจี้ยนหมินพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“สวัสดีครับท่านประธานอู๋ ผมคือฮั่วเจี้ยนเฟิงจากบริษัทการลงทุนติ่งซิน ครั้งก่อนได้มีวาสนาพบกับท่านที่งานไวน์ครั้งหนึ่ง ผมชื่นชมท่านมานานแล้วครับ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดอย่างเคารพนบนอบ
พวกของกู้ซิงเว๋ยทยอยกันลุกขึ้นกล่าว ข้อความยกยอปอปั้นมากมายพุ่งเข้าใส่อู๋เต้าเหวิน
บนในหน้าของอู๋เต้าเหวินประดับไปด้วยรอยยิ้ม ใครพูดมาก็ยิ้มตอบกลับไป ดูราวกับเป็นผู้นำใหญ่ที่ตอบรับลูกน้องก็ไม่ปาน
แต่สายตาของอู๋เต้าเหวินมักจะเคลื่อนผ่านไปทางหลี่โม่อย่างดูเหมือนเจตนาและไม่เจตนา พอเห็นหลี่โม่สีหน้าเย็นชาไม่พูดไม่จาในใจของอู๋เต้าเหวินก็วูบโหวงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
หรือว่าอาหารที่จัดมาเลียแข้งเลียขานั้นยังไม่ดีพอ เลียถึงข้อเท้าหรือยัง?
ในใจของอู๋เต้าเหวินสับสน อยากจะรีบ ๆ จัดการให้เรียบร้อยแล้วรีบ ๆ หนีกลับไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“พวกคุณไม่ต้องเกรงใจ อาหารโต๊ะนี้ฟรีจากกวนเหลินกังของพวกเรา ฟรีหมดทุกอย่าง เชิญพวกคุณดื่มทานกันตามสบาย”
กู้เจี้ยนหมินและพวกของฮั่วเจี้ยนเฟิงอึ้งสุดขีด รู้สึกว่าสถานการณ์พลิกโผอย่างกะทันหันเกินไป ไม่เหมือนกับในความคิดของทุกคนเลยสักนิด!
ไม่น่าจะเป็นแผนการยืมมือฆ่าของประธานหวงหรอกมั้ง?
ทำไมถึงกลายเป็นมอบให้ฟรีล่ะ?
อาหารชั้นเลิศและสุราเลิศรสโต๊ะละสี่ล้านกว่าจะมอบให้กันแบบนี้ได้หรือ?
สมัยนี้เงินไม่มีค่าแล้วหรือ?
ลองคิดต้นทุนง่าย ๆ อาหารและสุราบนโต๊ะนี้ก็ต้องหนึ่งล้านเกือบ ๆ สองล้านแล้ว!
“นี่ทำให้ผมรู้สึกได้รับเกียรติอย่างประหลาดจริง ๆ แต่ว่าผมมีบางอย่างที่ไม่ค่อยเข้าใจ ท่านประธานอู๋มอบให้กับใครหรือครับ?”
กู้เจี้ยนหมินถามเสียงเบา
ทุกคนปากกว้าง หูผึ่งรอฟังประโยคต่อไปของอู๋เต้าเหวิน
“ทั้งหมดนี้มอบให้เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณหลี่ครับ”
อู๋เต้าเหวินยิ้มแย้มจนตาหยีและพูดขึ้น