จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 136 หนี้น้ำใจตบตา

บทที่ 136 หนี้น้ำใจตบตา

กลับมาถึงในบ้าน ทันทีที่ก้นของหวังฟางติดอยู่กับโซฟา มองหลี่โม่อย่างจ้องจับผิด

“หลี่โม่ ชุดนั่นของแกมันยังไงกันแน่ ชุดราคาเป็นล้าน จะมาสวมอยู่บนตัวของดินเละ ๆ อย่างแกได้อย่างไร!”

กู้เจี้ยนหมินและกู้หยุนหลันมองหลี่โม่อย่างไม่แน่ใจ นี่เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนในใจของทุกคน

หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าสงบ “คนอื่นให้มาครับ”

“คนอื่นให้มา? แกจะแต่งเรื่องโกหกอะไรก็ใช้สมองหน่อยเถอะ! ใครจะเอาเสื้อผ้าที่มีมูลค่าสูงมาให้สวะอย่างแก!”

หวังฟางรู้สึกว่าเชาวน์ปัญญาของตนโดนดูถูก ตะโกนเสียงดังใส่หลี่โม่ด้วยความอับอายโมโหเป็นอย่างยิ่ง

กู้เจี้ยนหมินมองท่าทางของหวังฟาง กังวลใจนิด ๆ ว่าความดันโลหิตของคู่ชีวิตจะพุ่งสูงปรี้ด ทำให้ไปอุดตันหัวใจ อุดตันสมองอะไรเทือกนั้น ปัญหาก็จะลุกลามใหญ่โตแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงฉุดเอาหวังฟางมาปลอบใจสองประโยค

ปลอบใจได้ระดับหนึ่งแล้ว กู้เจี้ยนหมินก็จ้องเขม็งและพูดว่า “หลี่โม่ ถ้าหากแกให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลไม่ได้ล่ะก็อย่ามาโทษฉันที่ไล่แกออกจากบ้าน”

“พ่อคะ…”

“กู้หยุนหลันอยากจะช่วยพูด แต่ยังพูดไม่ทันจบก็โดนกู้เจี้ยนหมินจ้องอย่างโหดเหี้ยมทีหนึ่ง”

“ไม่ต้องพูด ให้ไอเจ้านี่มันพูด ฉันก็อยากจะรู้นัก ว่ามันจะแต่งเรื่องอะไรได้อีก”

“มีคนมอบให้ผมจริง ๆ นะ ไม่กี่วันก่อนผมช่วยเด็กหลงทางคนหนึ่งตามหาปู่ของเขาจนพบ ปู่ของเขาบอกว่าจะตอบแทนผมด้วยเงินจำนวนมากเพื่อเป็นการขอบคุณผม”

“ผมบอกว่าไม่รับเงิน และไม่ต้องตอบแทนบุญคุณแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ส่งเสื้อผ้ามาให้ ผมยังคิดว่าเป็นเสื้อผ้าที่ดีนิดหน่อย ใครจะไปรู้ว่ามันล้ำค่าขนาดนี้ ถ้ารู้มาก่อนก็ให้เขาลดราคาแล้ว”

หลี่โม่เสแสร้งทำสีหน้าเสียอกเสียใจ ดูราวกับเสียใจที่ไม่ได้ลดราคาจริง ๆ

กู้หยุนหลันเบะปาก ไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรดีแล้ว แม้แต่เรื่องที่ล้าสมัยเช่นนี้ยังพูดออกมาได้ ไม่รู้ต้องตัดแต่งอะไรอีก

หวังฟางตบต้นขาพูด “คุณฟังสิ ฟังสิว่าเขาพูดอะไรพูดพล่อย ๆ ออกมาเต็มปากเต็มคำ เรื่องแบบนี้แม้แต่เด็กสามขวบยังไม่เชื่อ!”

“หลี่โม่ แกรู้จุดจบของการพูดจาเหลวไหลไหม ให้โอกาสแกครั้งสุดท้าย ถ้าแกไม่บอกที่มาของชุดนี้จริง ๆ ออกมา ฉันจะไม่เกรงใจแกแล้ว!”

กู้เจี้ยนหมินกดดันหลี่โม่ กู้เจี้ยนหมินรู้สึกว่ามันจำเป็นมากที่จะต้องทำให้ที่มาของชุดที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้ให้มันชัดเจน

คนจน ๆ คนหนึ่งอยู่ดี ๆ จะสวมใส่ชุดฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูงลิ่ว เบื้องหลังจะต้องมีความลับที่บอกใครไม่ได้แน่!

“ที่ผมพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด แต่ว่าปู่ของเด็กคนนั้นมีฐานะค่อนข้างพิเศษ” หลี่โม่พูดเสียงเย็น ในใจแอบคิดว่า บาปนี้ต้องคงต้องให้ประธาน ฯ หวงแบกรับแล้วล่ะ

“ฐานะพิเศษ? จะพิเศษแค่ไหนกัน แกคิดให้ดีแล้วค่อยพูด อย่าให้พวกฉันจับไต๋ได้อีก”

หวังฟางพูดอย่างไม่พอใจ

“ปู่ของเด็กคนนั้นแซ่หวง ก่อนทานข้าวพวกคุณก็ได้เจอแล้ว เขาบอกว่าติดค้างน้ำใจผม ผมได้ใช้หนี้น้ำใจนั่นไปแล้วในห้องส่วนตัว หรือพวกคุณรู้สึกว่าขาดทุนอยู่บ้าง?”

หลี่โม่พูดจบก็หันกลับไปเดินกลับไปในห้อง ปล่อยทั้งครอบครัวของกู้เจี้ยนหมินทิ้งไว้กับความสับสนวุ่นวาย

“แซ่หวง เจอกันก่อนกินข้าว? นั่นมันไม่ใช่ประธาน ฯ หวงฝูงชิงหรอกหรือ!”

กู้เจี้ยนหมินสำนึกได้ในทันที เรื่องมากมายที่ก่อนหน้านี้คิดไม่ตก ในตอนนี้ก็เข้าใจได้ถึงเหตุและผลในทันที

มิน่าล่ะ หลังจากที่ประธาน ฯ หวงได้เจอกับหลี่โม่ ท่าทีถึงได้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วถึงเพียงนั้น ที่แท้ปัญหาที่เดิมทีไม่สอดคล้องกัน ตอนนี้ก็คิดตกแล้ว

เพียงแต่หลังจากคิดตกตะกอนแล้ว กู้เจี้ยนหมินก็ตบต้นขาอย่างเสียใจในภายหลัง นั่นมันเป็นหนี้น้ำใจของประธาน ฯ หวงเชียวนะ!

ถ้าหากว่าใช้ในเวลาสำคัญ จะต้องนำพามาซึ่งมูลค่าที่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ!

แต่ว่าให้เจ้าโง่หลี่โม่นั่น นึกไม่ถึงว่าจะใช้ไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็นไปแล้ว!

“แม่มันเถอะ นี่มันน้ำใจของประธาน ฯ หวง! ไอ้เวรหลี่โม่นั่นทำไมถึงได้ใช้ไปกับเรื่องห้องส่วนตัวนั่น สวะ! สวะจริง ๆ! ถ้าหากให้ประธาน ฯ หวงช่วยเรื่องธุรกิจล่ะก็ ชีวิตหลังจากนี้ก็…”

หวังฟางขมวดคิ้ว โมโหจนตัวสั่นไปแล้ว

“หยุนหลัน เธอเห็นแล้วใช่ไหม หลี่โม่มันสวะแค่ไหนเห็นแล้วหรือยัง! นี่มันลูกจอมล้างผลาญ นั่นมันเป็นถึงหนี้น้ำใจของประธาน ฯ หวงเชียวนะ นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่พูดกับคนในครอบครัวสักคำ ก็ใช้มันสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้!”

กู้หยุนหลันถอนใจเสียงต่ำในใจก็ตำหนิว่าหลี่โม่โง่เง่าจนน่าโมโห หนี้น้ำใจที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้นถูกเอามาใช้อย่างสิ้นเปลืองเช่นนี้แล้ว ถ้าหากว่าหลี่โม่ใช้หนี้น้ำใจนี้ให้ดี ๆ ล่ะก็ ต่อไปก็ไม่ต้องมายอมรับความคับอกคับใจอีกแล้ว

น่าเสียดายที่หนี้น้ำใจนี้โดนหลี่โม่ใช้ตามอำเภอใจไปแล้ว อยากจะแลกคืนกลับมาอีกก็ไม่มีทางแล้ว

“นั่นมันก็เป็นหนี้น้ำใจที่หลี่โม่หามาด้วยตัวเอง เขาอยากจะใช้มันอย่างไร นั่นล้วนเป็นทางเลือกของเขา บางทีอาจจะเป็นเพราะโดนคนในครอบครัวกดดันมานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากแลกเอาความมีเกียรตินั้นมา”

กู้หยุนหลันพูด

หวังฟางนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาทันที คิดแล้วคิดอีก ก็ยังรู้สึกไม่ยินดี ความแค้นเคืองในใจกลับรุนแรงขึ้นอีก

“ตอนนี้เธอยังจะปกป้องเขาอยู่อีก ให้ฉันพูดนะ เธอหย่ากับเขาไปเสียให้มันจบ ๆ อย่าลังเลอีกเลย โอกาสดี ๆ อย่างนี้เจ้าดินเละหลี่โม่นั่นยังคว้าเอาไว้ไม่อยู่ ต่อไปก็ไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จแล้ว เป็นได้แค่สวะไปทั้งชาติ!”

ได้ยินหวังฟางพูดให้กู้หยุนหลันหย่าอีก หลี่โม่ทนไม่ไหวเดินออกมาจากห้อง

“คุณแม่ครับ ดูเหมือนว่าคุณแม่ได้ตกลงเงื่อนไขหนึ่งกับผมไว้นะ ถ้าเพียงแค่เสื้อผ้าชุดนั้นของผมเป็นของจริง”

หลี่โม่ก้มหน้าพูด ไม่มีใครได้เห็นสีหน้าท่าทางของเขา

หวังฟางลืมเรื่องนั้นไปตั้งแต่ระหว่างทาง ในตอนนี้โดนหลี่โม่เปิดประเด็นขึ้นมา แก้มของหวังฟางก็กระตุกขึ้นมา รู้สึกว่าใบหน้าของตนใกล้จะอดกลั้นไว้ไม่ได้แล้ว

“แก ไอ้คนเลว ยังกล้ามาเถียงกับฉัน ใครตกลงเงื่อนไขกับแกกัน แกเคยเห็นลูกเขยกับแม่ยายบ้านไหนเขามีเงื่อนไขกันบ้างไหม! ลูกเขยบ้านไหนเขาไม่เคารพนบนอบเชื่อฟังแม่ยายกัน แกเคยแสดงความเคารพฉันบ้างไหม?”

“แกลองดูของที่ฮั่วเจี้ยนเฟิงมอบมาให้ฉัน แล้วดูแกอีกทีซิ! หลายปีมาแล้วแกเคยเอาอะไรให้ฉันบ้าง? แกเอาอะไรให้พ่อตาแกบ้าง? แกเคยเอาอะไรให้หยุนหลันบ้าง? ฉันแนะนำให้แกรีบหย่ากับหยุนหลันซะ อย่ามาเป็นภาระให้ลูกสาวของฉันอีก แกมันแค่ขี้หมากองหนึ่ง!”

หวังฟางระเบิดออกมาเหมือนถึงดินระเบิดทันที

กู้หยุนหลันดันตัวหลี่โม่ บอกใบ้ให้หลี่โม่รีบกลับไป หลี่โม่เดินกลับห้องไปอย่างเงียบ ๆ

“แม่คะ แม่ไม่ต้องพูดโน้มน้าวอีกแล้ว เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวมันยังมีความรักความผูกพัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนูกับหลี่โม่ที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ และอีกอย่าง… และอีกอย่างซีซีจะขาดพ่อแท้ ๆ คอยอบรมสั่งสอนไม่ได้”

สิ่งที่กู้หยุนหลันกังวลที่สุดก็คือความรู้สึกของซีซี ถ้าหากเปลี่ยนพ่อให้กับซีซีแล้ว กลัวว่าจะทำให้ลูกสาวตัวน้อยต้องเสียใจ

เพื่อที่จะไม่ทิ้งบาดแผลไว้ในความคิดของลูกสาว กู้หยุนหลันรู้สึกว่าถึงแม้จะต้องได้รับโทษสักนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร เพียงแค่โดนเยาะหยันไปกับหลี่โม่ก็เท่านั้น

“ทำไมฉันถึงได้คลอดลูกสาวที่หัวดื้ออย่างเธอออกมานะ ถ้าหากเป็นฉันที่มีสามีที่ไร้ประโยชน์อย่างนั้นฉันตบมันให้ตายตั้งนานแล้ว!”

หวังฟางพูดอย่างร้อนรนอยากให้ลูกสาวได้ดี

กู้หยุนหลันนิ่งเงียบไป พูดอย่างแน่วแน่ “แม่คะ แม่อย่าโน้มน้าวอีกเลยค่ะ หนูไม่หย่ากับหลี่โม่แน่ ๆ ค่ะ”

“เห้อ!”

หวังฟางทอดถอนใจ เอาความร้อนไปลงที่ตัว กู้เจี้ยนหมิน “นายเป็นพ่อยังไงน่ะ ไม่สอนลูกให้ รู้จักทำงานดี ๆ ตามใจกันแบบนี้ไง ศักดิ์ศรีของบ้านเราถึงได้โดนไอ้ลูกเขยสวะนั่นทำลายจนย่อยยับหมดแล้ว”

“เรื่องการหย่าของกู้หยุนหลันฉันกับเธอพูดแล้วไม่ได้ผล เงินที่บริษัทการลงทุนของเธอใกล้จะถึงกำหนดแล้ว จำไว้ด้วยว่าต้องไปดู”

กู้เจี้ยนหมินพูดออกมาทันที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset