บทที่146 ตบหน้าไปหนึ่งเพี๊ยะ
ติ๊งติ๊งติ๊ง
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหลูหมิงเซิงดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นสายที่เรียกเข้า หลูหมิงเซิงรีบหันไปอีกทางหนึ่งรับสาย “คุณฉู่ ท่านมีเรื่องอะไรจะสั่งครับ”
“เจ้ามันหมูหน้าโง่?! ให้เจ้าทำงาน เจ้าทำยังไง?”
ฉู่จงเทียนตะคอกใส่ด้วยความโมโห
ฉู่จงเทียนมองอยู่ในรถมานาน พบว่าหลูหมิงเซิงไม่ได้ทักทายหลี่โม่ ทำให้ฉู่จงเทียนเห็นถึงความผิดปกติ จึงโทรศัพท์หาหลูหมิงเซิง
ในใจหลูหมิงเซิงรู้สึกอึกอัก เข้าใจแล้วว่าตนได้ทำเรื่องผิดพลาดแล้ว เดาว่าฮั่วเจี้ยนเฟิงคนนั้นก็คือฮั่วเจี้ยนเฟิงตัวจริง และตนเองทึกทักไปเองว่าเป็นนายน้อยแห่งสำนักหลงเหมิน
“ผมทางนี่……กำลังคุยกับพวกเขาเรื่องคืนเงินให้ครับ”
“พูดเชี้ยอะไร ให้เจ้าสร้างชื่อให้นายน้อย ไม่ใช่ให้เจ้าสร้างชื่อให้หมูหมากาไก่ นายน้อยยืนอยู่ด้านหลังซ้ายมือของแก จำไว้ต้องเรียกว่าคุณหลี่ อย่าเข้าใจผิดอีก นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ข้าจะให้เจ้า หากทำไม่ได้แล้ว ก็ไปตายซะ!”
ฉู่จงเทียนตะคอกด้วยความโกรธ แล้ววางสาย
หลูหมิงเซิงเก็บมือถือ ขณะที่มองไปทางฮั่วเจี้ยนเฟิง สายตาที่มองเปลี่ยนไปแล้ว
หวังฟางดึงแขนฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดว่า “เจี้ยนเฟิงนี่มันเรื่องอะไรกัน คุณฉู่คนนั้นเป็นใคร?”
“ไม่มีอะไรครับคุณป้า คาดว่ามีการสื่อสารผิดพลาด อธิบายอีกครั้ง ก็คงจะเข้าใจ”
ฮั่วเจี้ยนเฟิง พูดอย่างหน้าด้าน ๆ
หลูหมิงเซิงเร่งฝีเท้าด้วยความโมโห ตาจ้องขมึงตึงใส่ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดว่า “เจ้านี่มันหน้าด้านมาก คาดไม่ถึงยังกล้าหลอกคนอย่างข้า ชื่อคุณหลี่เจ้ายังกล้าแอบอ้างอีกงั้นรึ? เจ้ามันขยะ!”
หลังจากหลูหมิงเซิงสบถด่าฮั่วเจี้ยนเฟิงเสร็จ บันดาลโทสะยกมือขวาขึ้น ตบไปที่ใบหน้าของฮั่วเจี้ยนเฟิงดัง
เพี๊ยะ!
เสียงตบหน้าดังสนั่นไปทั้งห้อง หวังฟางและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง ตาค้างกันไปตาม ๆ กัน
หวังฟางคิดไม่ออกจริง ๆ เมื่อครู่หลูหมิงเซิงมีท่าทีประจบสอพลอฮั่วเจี้ยนเฟิง แค่พริบตาเดียว เรื่องราวกลับตาลปัตร
จางชุ่ยฮัวและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจ
เมื่อครู่ดีใจที่ได้ดอกเบี้ยเพิ่มมาหลายเท่า เหตุการณ์ตรงหน้าตอนนี้ลมเปลี่ยนทิศไปแล้ว ไม่แน่ว่าดอกเบี้ยที่จะได้เพิ่ม คงอด ไม่แน่ว่าแม้แต่เงินต้นอาจจะไม่ได้คืนด้วยซ้ำ
“เจ้ามันเป็นคนน่ารังเกียจ แม้แต่ข้าเจ้ายังกล้าหลอกลวง เจ้ารู้มั้ยว่าข้าเป็นใคร! ใครก็ตามที่กล้าหลอกข้าหลูหมิงเซิง ไม่มีใครที่มีจุดจบที่ดี!”
ขณะหลูหมิงเซิงกำลังสบถคำด่า จางฝันดึงรั้งฮั่วเจี้ยนเฟิงไว้ เห็นเพียงหลูหมิงเซิงกำลังบันดาลโทสะตบไปตบมาไปหลายที พริบตาใบหน้าของฮั่วเจี้ยนเฟิงบวมเป่งดั่งกับหัวหมู
“เจ้าหลู ข้าก็ไม่ใช่ว่าจะมาทำร้ายกันง่าย ๆ พ่อของข้าเป็นถึงฮั่วจื่อโก๋ กล้าลงมือกับข้าอีก ข้าให้เจ้านอนหยอดน้ำข้าวต้ม!” ฮั่วเจี้ยนเฟิงฮึดสู้เพื่อหน้าของตน เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนครั้งสุดท้าย
“ฮั่วจื่อโก๋แล้วยังไง หากพ่อของเจ้ากล้าดีมาหลอกข้า ข้าก็ตบโดยไม่ลังเล เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่หลอกง่ายมากนักรึ? พวกเจ้าหลอกลวงข้านั่นก็พอทน กล้าดีแสร้งทำเป็นคุณหลี่นั้นข้าให้อภัยไม่ได้!”
หลูหมิงเซิงทำทั้งหมด ก็เพื่อให้หลี่โม่เห็นว่า เป็นเรื่องจำคนผิด ความผิดทุกอย่างเอาไปลงที่หัวของฮั่วเจี้ยนเฟิง พูดให้ถูกก็คือฮั่วเจี้ยนเฟิงแสร้งเป็นคุณหลี่เพื่อหลอกลวงเขา
คนที่อยู่ในวงการ ต้องมีทักษะการแสดงที่แยบยล ความผิดพลาดครั้งนี้เอายัดใส่ตัวฮั่วเจี้ยนเฟิง นับได้ว่าทำได้ไม่เลว
“ฮั่วเจี้ยนเฟิงหลอกเจ้าที่ไหน เห็นได้ชัดว่าเจ้าเข้าใจผิดเอง เจ้ายังกล้าที่จะทำร้ายคนอีก ยังมีความเป็นคนอีกมั้ย!”
หวังฟางเดินเข้าไปตะคอกใส่หลูหมิงเซิง
ตอนนี้หวังฟางเห็นฮั่วเจี้ยนเฟิงได้รับความอับอายขายหน้า ถ้าชื่อเสียงฮั่วเจียนเฟิงถูกลบหลู่จนหมดสิ้น หวังฟางก็เช่นกันไม่เหลือแม่แต่ศักดิ์ศรี
อีกทั้ง เห็นฮั่วเจียนเฟิงกับหลูหมิงเซิงวิวาทกันเช่นนี้ ถึงตอนนี้ต้องฉวยโอกาสหาเรื่องที่หลูหมิงเซิงลงมือทำร้ายคนอื่นขึ้นมาเป็นประเด็น ถึงจะมีข้ออ้างที่จะบังคับให้เขาคืนเงิน
หวังฟางตวาดจบส่งสายตาให้จางชุ่ยฮัวกับพวก ส่งสัญญานให้จางชุ่ยฮัว ในเมื่อทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ถ้าหากต้องการเงินคืนแล้วต้องร่วมมือกันซักครั้ง!
จางชุ่ยฮัวกับพวกเข้าใจในทันที ร่วมกันผลักตัวจางฝันออกไป ดึงตัวฮั่วเจี้ยนเฟิงกลับมาไว้ด้านหลังเพื่อปกป้อง
จากนั้นหวังฟางนำพี่น้องทุกคน สบถคำด่าใส่หลูหมิงเซิง
“เจ้ามันไอ้คนสารเลว กล้าดียังไงตบตีคน เจ้าจะกันเงินพวกเราไปถึงเมื่อไหร่ นั่นเป็นเงินบำนาญของพวกเรา!”
“ความเสียหายที่เจ้าทำลงไป คุณฮั่วช่วยเหลือพวกเรานำเงินคืนมาผิดตรงไหน เจ้ายังกล้าตบตีคนอีก เจ้าเห็นพวกเราเป็นแค่อากาศธาตุงั้นรึ”
“พี่น้องทุกคนช่วยกัน ฉีกปากเจ้าหมูอ้วนตัวนี้ เรื่องนี้ต้องไม่จบแค่นี้ บัญชีเก่าบัญชีใหม่คิดพร้อมกันไปเลย”
หวังฟางเป็นผู้นำพี่น้องทุกคนในเหตุการณ์ ทำมือเป็นกรงเล็บ ข่วนใส่หน้าหลูหมิงเซิงอย่างดุดัน
หลูหมิงเซิงระเบิดโทสะ ตาจ้องเขม็งไปที่หวังฟาง ใช้ฝ่ามือตบใส่อย่างรุนแรง
เพี๊ยะเพี๊ยะ!
ฝ่ามือแรกตบลงไปตามด้วยครั้งที่สอง ตบจนหวังฟางตัวหมุนไปสองรอบ ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
หลี่โม่เหลือบมองเห็นหน้าบวมเป่งของฮั่วเจี้ยนเฟิงยังกับหมูดีใจยิ่งนัก ได้ยินเสียงร้องครวญครางของหวังฟางจึงรีบเดินเข้าไป
แม่ยายโดนทุบตี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้แม่ยายโดนทุบตี
แต่ว่ามองเห็นใบหน้าแม่ยายบวมแดงเป็นรอยฝ่ามือ หลี่โม่แอบดีใจเล็กน้อย ยังไงปกติก็ถูกหวังฟางกดขี่เป็นประจำ
“หยุดมือ! กลางวันแสก ๆ กล้าดียังไงทำร้ายคนอื่น!”
หลี่โม่ตวาดเสียงดัง
หลูหมิงเซิงตกตะลึงไปชั่วขณะ เห็นนายน้อยออกตัว จึงหยุดมือ ใบหน้าเผยรอยิ้มอึดอัด
“โอ่ อ่าเอ่อ โมโหจนขาดสติ ขอโทษครับ ขอโทษครับ เสี่ยวหลูผิดเองทั้งหมด ผมขอให้คุณหลี่ลงโทษ แต่ที่สำคัญเจ้าคนนี้แสร้งทำเป็นคุณหลี่ มันน่าโมโหนัก”
หลูหมิงเซิงพูดพลาง โค้งคำนับหลี่โม่พลาง ทำให้หวังฟางกับพวกตกตะลึงจนตาค้าง
หวังฟางลูบไปที่แก้มขวาตน แววตาอดกลั้นมองไปที่หลูหมิงเซิงไม่ละสายตา และมองไปที่ท่าทางจริงจังของหลี่โม่ รู้สึกได้ว่าเรื่องนี้มีอะไรผิดปกติแล้ว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
หลูหมิงเซิงจะตบจะตีฮั่วเจี้ยนเฟิงยังไงก็ได้ อีกทั้งไม่เห็นพ่อของฮั่วเฟิงอยู่ในสายตา ทำไมเคารพนบนอบหลี่โม่เจ้าสวะไร้ประโยชน์เช่นนี้!
อีกทั้งหลูหมิงเซิงยังเรียกหลี่โม่ว่าคุณหลี่อีก เหมือนกับว่าครั้งนี้ที่หลูหมิงเซิงมาก็เพื่อคุณหลี่คนนี้ เป็นเพียงการทักคนผิดเท่านั้น ทักฮั่วเจี้ยนเฟิงผิดคน……
เรื่องราวเมื่อครู่เหมือนกับภาพยนตร์เร่งความเร็ว หวังฟางใช้ความคิด
หวนนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ หวังฟางยิ่งสับสน คิดยังไงก็คิดไม่ออก หลูหมิงเซิงคนนี้ทำเพื่ออะไร
“คุณหลี่มีน้ำใจกว้างขวาง เมื่อครู่ผมมีตาหามีแววไม่ ในจำนวนคนมากมายทักคุณหลี่ผิดคน ให้เจ้าโง่นี่อาศัยช่องโหว่ ทำให้คุณหลี่ต้องเสียงานไป”
หลูหมิงเซิงเห็นท่าทีหลี่โม่ไม่พูดซักคำ ในใจรู้สึกผิดมาก อยากที่จะคุกเข่าโขกศีรษะขอโทษต่อหน้าหลี่โม่ เหมือนดั่งตัวแมลงโขกหัว
แต่ว่าหลีกเลี่ยงให้คนอื่นตกใจ หลูหมิงเซิงทำได้เพียงโค้งคำนับเพื่อขอโทษ ภายในใจอธิษฐานต่อสวรรค์ หวังว่าหลี่โม่จะให้อภัยตน
“แม้แต่แม่ยายของผมยังกล้าลงมือ เจ้าคิดซิว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”