จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 150 อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าสง่างามมาก

บทที่150 อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าสง่างามมาก

เฮียเตาขี่มอเตอร์ไซด์ด้วยอารมณ์เดือดดาลพุ่งเข้ามา หัวสิงโตบอกว่ามีพรรคพวกมากอีกเป็นร้อย ไม่เห็นแม้แต่ลูกแมวซักตัว

บนถนนหลักเช่นนี้ มีคนมากมายทะเลาะวิวาทกัน มีเพียงพวกสมองพิการเท่านั้น ถึงจะกล้าทำ

อีกทั้งเฮียเตาเป็นคนใจกล้ามีชื่อเสียงในวงการ คิดว่าตนเป็นคนที่มีอิทธิพลอยู่บ้าง เพียงแค่เอ่ยชื่อตนขึ้นมา ก็ทำให้คนคุกเข่าขอชีวิตได้แล้ว

จอดรถมอเตอร์ไซข้างรถเบนซ์ เฮียเตามองเห็นลูกน้องนอนกองอยู่กับพื้น โกรธจนจมูกเบี้ยว

“พวกเอ็งทำให้ข้าต้องเสียหน้า คนตั้งมากมายจัดการคนแก่คนเดียวไม่ได้ ไอ้แก่นั่นไปไหนแล้ว ข้าจะสั่งสอนมัน!”

เฮียเตาคำรามเสียงดังพลาง มือหยิบมีดที่เหน็บข้างเอวออกมา

สาเหตุที่เฮียเตาได้รับสมญาว่าเฮียเตานั้น ก็เพราะว่าเขาใช้มีดคล่องแคล่วว่องไว พูดได้ว่ามีดคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

“เสี่ยวเตา เจ้าจะสั่งสอนข้างั้นรึ?”

ฉู่จงเทียนเดินมาจากหลังรถ

“สั่งสอนมรึง เอ่อ……เฮ้ย ซวยแล้ว! ท่านเทียน!”

เฮียเตาเห็นฉู่จงเทียนทันที คนหัวลุกชัน ตั้งตรงเป็นระเบียบ ซวยแล้ว เดิมที่คิดว่าจะเป็นตาแก่เป็นวิชากังฟูคนหนึ่ง ใครจะไปรู้ว่าเป็นลูกพี่ใหญ่ระดับท่านปู่ของวงการ

“ท่านเทียน ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ ลูกน้องผมอยู่ที่นี่ หรือว่า……”

เฮียเตาพูดไปพูดมาก็พูดไม่จบคำ ลูกน้องไปล่วงเกินท่านฉู่จงเทียนเข้าแล้ว ความผิดคือตายสถานเดียว

ตุบ

เฮียเตาคุกเขาลงกับพื้น โยนมีดที่กำไว้ในมือทิ้งไปข้าง ๆ พูดอย่างว่องไวว่า “ท่านเทียน ลูกน้องของผมพวกนี้วิกลจริตไปแล้ว ถึงได้ทำร้ายท่านเทียน เป็นเพราะผมสั่งสอนไม่ดี ขอให้ท่านเทียนลงโทษด้วย”

หัวสิงโตกับพวกตกตะลึง เดิมทีคิดว่าเรียกเฮียเตามาแล้วจะเคลียร์เรื่องนี้พลิกสถานการณ์ได้ แต่ไม่คาดคิดสถานการณ์พลิกไปจนเกินคาด เหตุใดลูกพี่ตนถึงได้คุกเข่าต่อหน้าคนอื่น ความหยิ่งทะนงตนดั่งก่อนของเฮียเตาไปไหนหมดแล้ว!

ฉู่จงเทียนยกเท้าขึ้นมา เตะไปที่หน้าอกของเฮียเตา เตะเฮียเตาเหมือนกับเตะลูกพุทรา

“ทำร้ายข้านั่นมันเรื่องเล็ก พวกเจ้ากล้าดีไม่เคารพต่อคุณหลี่ ข้าฆ่าพวกเอ็งทั้งหมดก็ยังไม่หายแค้น!”

“คุณ……คุณหลี่?”

เฮียเตาลูบไปที่หน้าอก สมองคิดได้อย่างรวดเร็ว นึกถึงภารกิจที่รับมาก่อนหน้านี้

หลี่โม่ แซ่หลี่ไม่ใช่เหรอ เป็นคุณหลี่เหรอ!

แต่ว่าคุณหลี่คนนี้เป็นใครกัน ดูท่าทาง ท่านเทียนถึงได้หวั่นเกรงคุณหลี่ถึงเพียงนี้!

สืบข้อมูลมาแล้ว หลี่โม่คนนี้เป็นคนธรรมดาไร้ประโยชน์ ยังเป็นพวกสวะไร้ประโยชน์ชั้นเลิศด้วยซ้ำ พวกขี้เกียจไร้ค่าไร้ราคา!

“ท่านเทียน คุณหลี่คือหลี่โม่หรือครับ? แต่ว่าผมสืบข้อมูลมาแล้ว เขา…..เขาไม่มีภูมิหลังอะไรเลย?”

เพี๊ยะ!

ฉู่จงเทียนตบใบหน้าเฮียเตาอย่างจัง ตบจนเลือกสด ๆ ไหลทางจมูก

“ภูมิหลังคุณหลี่เจ้าสามารถคาดเดาได้ด้วยเหรอ? อยู่ต่อหน้าคุณหลี่ข้าเป็นแค่มดตัวนึง พวกเจ้าก็เป็นแค่เศษฝุ่น”

เฮียเตาและหัวสิงโตกับพวกตกตะลึง นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว ฉู่จงเทียนเป็นลูกพี่ใหญ่ในวงการแล้ว อยู่ต่อหน้าหลี่โม่เป็นแค่มดตัวหนึ่ง งั้นหลี่โม่คนนี้ก็เป็นเทพเซียนจุติมาสิ!

เดิมทีในสายตาของเฮียเตาแล้ว ฉู่จงเทียนคือผู้ใหญ่ระดับสูงสุดในวงการแล้ว แต่ว่าความจริงในตอนนี้ได้สั่งสอนเฮียเตาอย่างดุดัน บอกกับเขาว่าเหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือราชายังมีเจ้าราชา!

“ผมผิดไปแล้ว ท่านเทียนผมจะทำยังไง หรือว่าให้ผมไปโคกศีรษะขอโทษ? ให้คุณหลี่ตบตีผมก็ได้”

เฮียเตามีท่าทีเหมือนเด็กทำความผิด ในใจด่าทอฮั่วเจี้ยนเฟิงไม่น่าเชื่อถือ ขุดหลุมพรางให้กับเพื่อน ยังเป็นหลุมพรางที่ใหญ่มหาศาล เป็นหลุมที่ตกไปแล้วตายสถานเดียว!

“พวกเจ้า? ไม่คู่ควรให้คุณหลี่ตบตี ใครเป็นคนสั่งการให้พวกเจ้ามาทำร้ายคุณหลี่”

“เป็นฮั่วเจี้ยนเฟิง ฮั่วเจี้ยนเฟิงบริษัทการลงทุนติ่งซิน ว่าจ้างผมหนึ่งแสน ให้ผมซ้อมคุณหลี่……นอนเป็นผักกระดุกกระดิกไปไหนไม่ได้”

เฮียเตาพูดอีกว่า “ผมไม่รู้ว่าเบื้องหลังคุณหลี่ ฮั่วเจียนเฟิงเป็นคนให้ข้อมูลทั้งหมด ผมจะไปคิดบัญชีครั้งนี้กับฮั่วเจียนเฟิง ซ้อมมันให้นอนเป็นผัก ซ้อมให้จู๋มันตาย ส่งให้มันไปเป็นขันที!”

“ไม่จำเป็น เจ้าทำทีท่าว่าไม่เคยเกิดเรื่องนี้มาก่อน เกี่ยวกับเรื่องคุณหลี่ เจ้าอย่าแพร่งพรายออกไปแม้ซักคำเดียว”

ฉู่จงเทียนพูดตามที่หลี่โม่เคยกำชับไว้

“อ๋า?”

เฮียเตามองฉู่จงเทียนด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด

“คุณหลี่ต้องการค่อย ๆ เล่นกับเขา ไม่ใช่ว่าเรื่องอะไรก็จะฆ่าฟันกัน สมองคนเราไม่ใช่กินแต่ข้าวเปล่า พาคนของพวกเอ็งไปให้พ้น”

ฉู่จงเทียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ครับ ครับ พวกเราจะรีบไป”

เฮียเตาพาลูกน้องหัวสิงโตหายตัวไปอย่างว่องไว

หลูหมิงเซิงเผยรอยยิ้มป้อยอ มองไปที่หลี่โม่พูดว่า “คุณหลี่มีญาณทิพย์รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าร้ายกาจกว่าจูกัดเหลียงเสียอีก คาดเดาได้ดั่งตาเห็นกว่าขงเบ้ง มีวิสัยทัศน์ยาวไกลกว่ามังกรหลับ”

ฟังคำยกยอของหลูหมิงเซิง หลี่โม่รู้สึกสับสน “นี่เจ้ากำลังพูดเรื่องตลกหรือเปล่า”

“อ๋า?”

หลูหมิงเซิงไม่เข้าใจ ตนเองตั้งใจพูดประจบประแจง ทำไมถึงคิดว่าเป็นเรื่องตลกซะงั้น

มองเห็นหลูหมิงเซิงนิ่งอึ้งยังกับหัวหมู ฉู่จงเทียนอดพูดออกมาไม่ได้ว่า “จูกัดเกลียงก็ดี ขงเบ้งก็ดี มังกรหลับก็ดี ทั้งหมดก็คือคน”

“ฉิบหาย คุณดูสิผมพูดไปเหมือนคนไม่มีวัฒนธรรม”

หลูหมิงเซิงยิ้มเจื่อน ๆ

รถเบนซ์สตาร์ทเครื่องอีกครั้ง มุ่งหน้าไปที่คลับเฮาส์มังกรดำอย่างรวดเร็ว

จอดรถที่คลับเฮาส์มังกรดำเรียบร้อย หลูหมิงเซิงรีบลงไปเปิดประตูให้กับหลี่โม่

หลี่โม่ลงจากรถบิดเอวคลายเมื่อย แกว่งแขนไปมาพูดว่า “คุณกับเหล่าฉู่เข้าไปเตรียมที่ทางก่อน ผมขอเดินเล่นแถวนี้ซักพักตามเข้าไป”

“ได้ครับ พวกเราเข้าไปจองห้องรับรอง เสร็จแล้วแจ้งมาครับ”

หลูหมิงเซิงไม่กล้าขัดในการตัดสินใจของหลี่โม่แม้แต่นิดเดียว พูดจบเดินตามฉู่จงเทียนเข้าไปคลับเฮ้าส์มังกรดำ”

“คุณฉู่ คุณหลี่เขาไม่สบายใจหรือเปล่า ผมเห็นสีหน้าเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดี”

“คุณหลี่เป็นยังไง คุณไปคาดเดาอะไรมั่วซั่วได้อย่างไร ทำในที่สิ่งควรทำก็พอแล้ว”

“คุณฉู่สั่งสอนได้ถูกต้อง ตลอดทางผมคาดเดาอารมณ์ของคุณหลี่ไม่ได้เลย คนระดับนี้พวกเรายากที่จะมองออกได้จริง ๆ”

ฉู่จงเทียนกับหลูหมิงเซิงพูดคุยพลางเดินเข้าไปในคลับเฮาส์มังกรดำ

หลี่โม่เดินเล่นอยู่พักหนึ่ง กุมมือไขว้หลังเดินตามเข้าไปคลับเฮาส์มังกรดำ

คลับเฮาส์มังกรดำเป็นสถานที่เลี้ยงรับรองตกแต่งหรูหรา ค้าขายคืนเดียวสามารถทำกำไรได้เป็นล้าน แชมเปญขวดเดียวราคาต่ำสุดก็หลายพันแล้ว คนธรรมดาไม่กล้าเข้ามาในสถานที่แห่งนี้

หลี่โม่เดินเข้าคลับเฮ้าส์มังกรดำ พนักงานต้อนรับสาวสวยสวมชุดกี่เพ้ายาวถึงต้นขาแปดคน โค้งคำนับพร้อมกันพูดว่า “สวัสดีค่ะ นายท่าน”

ท่าทางโค้งคำนับของพนักงานต้อนรับสาวสวย เผยให้เห็นเนินหน้าอกขาวนวลที่ทำให้จิตใจระทวย

หลี่โม่เดินเข้าไปโดยไม่เหลียวมองแม้นิดเดียว พูดเบา ๆ ว่า “ห้องVIP1”

“นายท่านเชิญทางนี้”

พนักงานต้อนรับคนที่สวยที่สุด ยิ้มอย่างเย้ายวนเดินนำทางหลี่โม่เข้าไปด้านใน เนื้อตัวแทบจะแนบชิดติดกับหลี่โม่

“หลี่โม่?!”

ทันใดนั้น มีเสียงเรียกที่สร้างความประหลาดใจดังมาจากไกล ๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset