บทที่ 166 ฉันจะจัดการให้หมด
เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่โม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้วยกไปที่โต๊ะ
หวังฟางนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร มองไปที่หลี่โม่ด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์
“แกมันไม่ได้เรื่องไม่เหมือนผู้ชายทั่วไปสักนิด ผู้ชายบ้านอื่นทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงทำงานในบ้าน แต่ดูแกสิ? ให้หยุนหลันทำงานนอกบ้าน ส่วนแกทำงานในบ้าน แกไม่ละอายใจบ้างหรือไง”
หลี่โม่ก้มหัวลงไม่พูดไม่จา หันหลังและเดินไปที่ห้องครัวอย่างเงียบ ๆ
กู้หยุนหลันเดินออกมาจากห้องหลังจากที่เก็บของเสร็จ เห็นแผ่นหลังของหลี่โม่ พูดออกมาว่า “แม่ ไม่ต้องพูดถึงเขาแล้ว”
“ไม่พูดถึงมันแล้วจะให้พูดถึงใคร เห็นมันทีไรแล้วอารมณ์เสียทุกที ไม่เคยเห็นผู้ชายไร้ประโยชน์ขนาดนี้มาก่อน แล้วยังจะให้คนอย่างนี้มาเป็นลูกเขยของฉัน เป็นความอัปยศที่สุดในชีวิตเลย!”
“หยุนหลัน ชีวิตแบบนี้แกทนได้แน่เหรอ? ไม่ต้องแสดงหรอก แม่รู้ว่าในใจแกก็ขมขื่น เจ็บทีเดียวจบดีกว่าทนเจ็บไปนาน ๆ ตัดขาดจากเขาเถอะ ยังไงซีซีก็ยังเด็ก คงจะไม่…”
หวังฟางยังพูดไม่ทันจบ กู้หยุนหลันก็ขัดขึ้นมาว่า “แม่ หนูขอพูดอีกครั้ง หนูจะไม่หย่ากับหลี่โม่ หนูจะไปทำงานแล้ว ช่วงนี้งานที่โรงงานวัตถุดิบค่อนข้างเยอะ หนูต้องไปดูสักหน่อย”
หวังฟางตบตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างโกรธ ๆ “ทำไมแกหัวรั้นอย่างนี้”
หลี่โม่ถือแซนด์วิชที่เพิ่งทำเสร็จกับนมเดินออกมา “หยุนหลันรอผมก่อน ยังไงก็ต้องกินข้าวเช้านะ ผมจะไปดูโรงงานวัตถุดิบกับคุณด้วย”
“คนไร้ประโยชน์อย่างแกจะไปกับหยุนหลันทำไม แกดูรายงานเป็นเหรอ หรือสั่งคนงานได้!อย่าไปเกะกะหยุนหลัน!”
หวังฟางตวาดใส่หลี่โม่
กู้หยุนหลันถอนหายใจออกมา แล้วรับอาหารเช้าที่หลี่โม่เอามาให้ก่อนจะบอก “ฉันจะรอนายข้างนอก”
หลี่โม่ยิ้มออกมา ก่อนจะกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
หวังฟางเท้าสะเอวมอง หลี่โม่ที่เดินออกมา “ขยะอย่างแกยังจะไปเป็นตัวเกะกะหยุนหลัน?แค่นี้หยุนหลันก็ลำบากแล้ว แกปล่อยเธอไปได้ไหม ให้เธอไปมีชีวิตที่ดีได้หรือเปล่า!”
“แม่ ผมจะทำให้หยุนหลันมีความสุขครับ”
หลังจากที่หลี่โม่พูดเสร็จก็เดินจากไป หวังฟางกระทืบเท้าแรง ๆ “อย่างแกน่ะเหรอจะทำให้หยุนหลันมีความสุข!ขยะอย่างแกก็มีแต่จะทำให้หยุนหลันทุกข์ทรมาน!”
หลี่โม่กัดฟันเดินออกมา เมื่อปิดประตูเสร็จเขาถอนหายใจออกมา ก่อนจะใช้สองมือลูบหน้า ให้ดูผ่อนคลายขึ้น หลี่โม่รีบเดินไปหากู้หยุนหลันที่รถ แล้วเปิดประตูนั่งลงที่ที่นั่งข้างคนขับ
กู้หยุนหลันหันไปมองหน้าด้านข้างของหลี่โม่ หลี่โม่เห็นอย่างนั้นก็อายเล็กน้อย “ทำไมมองผมอย่างนั้น หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือเปล่า?”
“ฉันก็แค่อยากมองหน้านาย”
กู้หยุนหลันพูดอย่างอ่อนโยน
หลี่โม่ค่อย ๆ ยิ้มออกมา นับเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุด
“แม่ฉันพูดกับนายอย่างนั้น นายอย่าใส่ใจเลยนะ แม่ก็เป็นคนอย่างนั้นแหละ บางทีก็พูดรุนแรงไปหน่อย”
กู้หยุนหลันอธิบายอย่างลำบากใจ
“ไม่เป็นไร ผมชินแล้วล่ะ”
หลี่โม่แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ
“อืม อย่าเก็บมาใส่ใจเลย รอให้ผ่านช่วงนี้ไป ฉันจะพานายไปเลี้ยงมื้อใหญ่เลย”
กู้หยุนหลันยิ้มแล้วมองไปที่หลี่โม่
“ไม่ไม่ไม่ ผมจะเลี้ยงคุณเอง ถึงเวลานั้นเราไปทานอาหารใต้แสงเทียนกัน”
หลี่โม่พูด
“งั้นฉันจะรอ ถึงเวลานั้นอย่าลืมล่ะ”
กู้หยุนหลันหัวเราะออกมาน้อย ๆ สตาร์ทรถแล้วขับไปยังโรงงานวัตถุดิบ
……
โรงงานวัตถุดิบดูยุ่งวุ่นวาย เพื่อให้แน่ใจว่ามีวัตถุดิบเพียงพอ จึงได้เพิ่มเวลาทำงานเป็นสามกะ
กู้เผิงเฟยพาคนไปตรวจสอบกระบวนการผลิต เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าสำนักงาน ก็เห็นรถของกู้หยุนหลันขับเข้ามา
เมื่อเห็นรถของกู้หยุนหลันหยุดลง กู้เผิงเฟยนำคณะกรรมการตรวจสอบเข้าไปหา ทักทายกู้หยุนหลันและหลี่โม่
“ประธานกู้ คุณหลี่ โรงงานวัตถุดิบได้เพิ่มการผลิตเป็นสามกะแล้ว กำลังการผลิตสูงสุด รับประกันได้ว่าวัตถุดิบจะเพียงพออย่างแน่นอน”
กู้เผิงเฟยกล่าว
“งั้นก็ดี ฉันมาวันนี้เพราะจะมาดู เผื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้น พวกคุณจะต้องดูแลการผลิต และความปลอดภัยให้ดี”
กู้หยุนหลันกล่าวอย่างเคร่งขรึม
กู้เผิงเฟยและคนอื่น ๆ พยักหน้า แล้วมองไปยังหลี่โม่
ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยก็คงต้องพึ่งหลี่โม่แก้ปัญหาแล้วล่ะ
“คุณหลี่ เฮียพีลี่คนนั้นทำงานดีมาก ตั้งใจมาก ต้องขอบคุณคุณ”
กู้เผิงเฟยกล่าว
“เป็นอย่างนั้นผมก็สบายใจ ถ้าพวกเขาสร้างปัญหา คุณสามารถบอกผมได้โดยตรง ผมจะไปสั่งสอนพวกเขาเอง ให้พวกเขาเปลี่ยนการกระทำ” หลี่โม่พูดเบา ๆ
มองท่าที่การสั่งสอนของหลี่โม่ กู้เผิงเฟยและคนอื่น ๆ กระสับกระส่ายเล็กน้อย รู้สึกว่าหลี่โม่ควรจะไปทำงานสอนหนังสือ สอนเด็กเกเรถึงจะถูก
กู้หยุนหลันหันไปมองหลี่โม่อย่างรวดเร็ว กลั้นยิ้มแล้วพูด “พวกคุณไปทำงานเถอะ พวกเราจะเดินดูรอบ ๆ โรงงานสักหน่อย”
กู้เผิงเฟยกำลังจะค้อมหัว ทันใดนั้น หางตาก็หันไปทางโรงงาน
เห็นรถบรรทุกสองคันขับเข้ามาขวางประตูโรงงาน แล้วมีคนจำนวนมากกระโดดออกจากหลังรถบรรทุก ทุกคนถือแท่งเหล็กอยู่ในมือ
“บัดซบ! เกิดเรื่องแล้ว!ประธานกู้คุณรีบเข้าไปที่สำนักงานก่อน ไปตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับคนงานทั้งหมดมา!”
กู้เผิงเฟยพูดอย่างรีบร้อน
หลี่โม่และกู้หยุนหลันหันไปมองที่ทางเข้าโรงงานพร้อมกัน พอดีกับเวลาคนพวกนั้นพยายามทุบประตูและตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนด้วยแท่งเหล็ก จนล้มลงไปที่พื้น
“เอามาให้หมด ทำลายทุกอย่าง เจอคนก็ตี พบสิ่งของก็ทำลาย อย่าให้เหลือซาก อย่าให้เสียชื่อลูกพี่”
“พี่น้องทั้งหลาย ได้ยินมาว่าที่นี่มีสาวงาม ใครได้ก่อนก็เป็นของคนนั้น!”
“หลีกไปให้หมด ฉันเป็นคนแรกที่เข้ามา เงินและผู้หญิงต้องเป็นของฉัน!”
กลุ่มชายที่ดุร้าย มีพลังเหมือนหมาป่าบุกฝ่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าประตู เปิดประตูโรงงาน ปล่อยพวกที่อยู่ข้างหลังวิ่งเข้าไปในโรงงาน
การก่อตัวนี้ทำให้กู้เผิงเฟยและคนอื่น ๆ มึนงง คนชั่วจำนวนมากที่เห็น ทำให้พวกเขากังวล
“ทำไมถึงมีอันธพาลเยอะขนาดนี้ นี่มันป่าเถื่อนเกินไปไหม”
“มันโหดจะกว่านี้อีก พวกเราไปซ่อนตัวอยู่ในห้องทำงานเร็ว ๆ เข้า พวกมันมากมายขนาดนี้ พวกเราเอาชนะไม่ได้หรอก”
“ประธานกู้ไปกับพวกเราก่อนเถอะ พวกเรารีบหาตำรวจเถอะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้านทานได้อีกต่อไป”
กู้เผิงเฟยและคนอื่น ๆ กำลังเตรียมตัวกลับไปที่อาคารสำนักงานด้วยความตื่นตระหนก แต่ก็เห็นหลี่โม่วิ่งออกไป
“บ้าไปแล้ว เขาเป็นบ้าไปแล้ว คิดว่าตัวเองเป็นซูปเปอร์แมนหรือไง คนมากมายขนาดนั้น แค่คนเดียวก็ฆ่าเขาได้แล้ว!”
กู้เผิงเฟยพูดอย่างตกใจ
หลี่โม่เดินเข้าไป พร้อมกับตะโกนใส่ชายร่างท้วม “จะเดียวหรือจะหมาหมู่ ฉันจะจัดการให้หมด!”