บทที่ 173 ฉันเป็นตัวแทนของความยุติธรรม
ท่านไป๋คุกเข่าลง
เฮียเปียว เลขาใหญ่ที่อยู่ข้างท่านไป๋ รวมไปถึงฉู่จงเทียนต่างก็พากันตกตะลึง มีเพียงหลี่โม่นอกนั้นก็พากันตกตะลึง
นี่คือท่านไป๋เชียวนะ เขาคือคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งนั้นของเมืองฮั่น หรือเรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งเมืองฮั่น!
คนประเภทนี้ จะคุกเข่าง่ายดายเช่นนี้ เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ
“ท่านไป๋ ท่านท่านท่าน… คือท่าน เกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านถึงได้คุกเข่า ท่านเป็นที่หนึ่งในเมืองฮั่น ท่านจะคุกเข่าได้อย่างไร!”
ดวงตาของเลขาใหญ่แดงก่ำ นายถูกหยามข้าทาสต้องตาย ท่านไป๋ตอนนี้ถึงกับคุกเข่า นี่มันโดนยามจนไม่แหลือมาด ไม่ว่ายังไงเลขาใหญ่ก็ต้องหาวิธีกอบกู้หน้าตาของเจ้านายให้ได้
“ทำไมฉันถึงคุกเข่าไม่ได้ พวกนายก็ต้องคุกเข่ากับฉัน เปียวให้คนของแกคุกเข่าต่อหน้าคุณหลี่ซะ!”
ท่านไป๋กัดฟันพูด
เลขาใหญ่ลังเล และในที่สุดก็คุกเข่าอยู่ข้างหลังท่านไป๋
“รีบคุกเข่าเดี๋ยวนี้ ไม่เห็นรึไงว่าท่านไป๋คุกเข่าแล้ว พวกแกยืนอยู่ทำเหี้ยอะไรกัน คุกเข่าต่อหน้าคุณหลี่ซะแล้วเรียกปู่ สองคนมาพยุงฉันคุกเข่าทำความเคารพปู่แท้ๆ ของฉัน”
ในใจของเฮียเปียวค่อนข้างวุ่นวาย เพราะคนที่คอยหนุนหลังยังตกอยู่ในสภาพนี้ ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องรีบยอมรับความผิดทันที ไม่เช่นนั้นคงมีทางเดียวคือรอความตาย
ลูกน้องสองคนเข้ามาพยุงเฮียเปียว แขนขาที่หักของเฮียเปียว มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดสุดๆ
เฮียเปียวทนกัดฟัน เอาแต่คร่ำครวญ ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ลูกน้องพยุงเฮียเปียวให้คุกเข่าลง เฮียเปียวฝืนยิ้ม และพูดอย่างนอบน้อม”คุณหลี่ หลานชายคนนี้มีตาหามีแววไม่ ขอคุณปู่โปรดยกโทษให้ด้วย”
ท่านไป๋เหลือบมองเฮียเปียว ทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความโกรธ หากไม่ใช่เพราะเฮียเปียวที่ยั่วยุหลี่โม่ ความหายนะนี้ก็คงจะไม่ตกอยู่ที่เขา
ท่านไป๋โกรธจัด ตบไปที่หน้าของเฮียเปียวด้วยหลังมือ”แกมันโง่นัก! กล้ายั่วโมโหคุณหลี่ แกมันใจกล้าซะจริงๆ!”
“ใช่ๆ ท่านไป๋สั่งสอนถูกแล้ว มันเป็นความผิดของผิดทั้งหมด ถึงผมตายร้อยครั้งก็ไม่สามารถไถ่โทษได้ แล้วแต่คุณหลี่จะสั่งสอน”
เฮียเปียวถูกตบไปหนึ่งที เขาก้มหัวไม่กล้าแม้แต่ขัดขืน แต่ภายในใจทุกข์ทรมานยิ่งกว่ากินอึ่งโน้ย (จากสำนวนจีน คนใบ้กินอึ่งโน้ย ขมแต่พูดไม่ออก อุปมาว่ามีความทุกข์ใจแต่ยากจะพูดได้)
หากมีโอกาสเริ่มใหม่อีกครั้ง เฮียเปียวจะใช้ดาบฆ่ากู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิงเว๋ยสองพ่อลูกนี้อย่างแน่นอน
“คุณปู่ ผมมีเรื่องรายงาน กู้เจี้ยนกั๋วพ่อลูกจ่ายเงิน 5 ล้าน ให้ผมส่งคนไปก่อเรื่อง ผมก็ถูกคนยุยงมา ตอนนี้ผมรายงานแล้วถือว่ามีความดีความชอบใช่ไหม”
เฮียเปียวพูดด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยม
“ฉันรู้แต่แรกแล้ว แกคิดว่าแค่สารภาพว่าใครอยู่เบื้องหลังก็จะหมดเรื่องแล้วล่ะสิ?”
หลี่โม่ถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ใช่ ผมก็แค่… ก็แค่รายงาน ต้องแจ้งให้ปู่รับรู้ว่าใครทำร้ายท่าน ผมเปียวยินดีที่จะทำประโยชน์เพื่อชดใช้ความผิด และรับใช้ท่านในอนาคต”
ท่านไป๋พูดต่อว่า“คุณหลี่ ผมก็เต็มใจทำงานให้ท่าน ท่านอยู่เมืองฮั่นท่านจำเป็นต้องการคนของตัวเอง มีเพียงฉู่จงเทียนมันไม่พอ มีหลายเรื่องที่เขาทำไม่ได้ แต่ผมทำได้”
ทันใดนั้นท่านไป๋มีความคิดที่จะเลียแข้งเลียขา พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส แม้ว่าคราวนี้ทำให้หลี่โม่ขุ่นเคือง แต่ว่าขอแค่ยอมรับผิด จากนั้นทำงานให้กับหลี่โม่ อนาคตก็ถือว่าเป็นคนของหลี่โม่แล้วนี่นา
ด้วยพลังอำนาจของหลี่โม่ ตราบใดที่เกาะหลี่โม่ไว้ ต้องมีอนาคตที่สดใสแน่นอน!
เมื่อท่านไป๋คิดถึงเรื่องนี้แล้ว อารมณ์ของเขาก็เพิ่มมากขึ้น และคุกเข่าคำนับกับพื้น”คุณหลี่ ลูกอกตัญญูเอง ลูกรู้ซึ้งแล้วว่าครั้งนี้ลูกเป็นคนผิด อยากจะให้ท่านเป็นพ่อบุญธรรม อนาคตผมจะรับฟังพ่อบุญธรรมทุกอย่าง ต่อให้เป็นสุนัขก็ย่อมได้!”
ในตอนนี้ท่านไป๋ยอมแม้กระทั่งเสียหน้า ในใจคิดเพียงว่าต้องลดทิฐิลง ขอแค่ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ อีกอย่างคือต้องเลียแข้งขาของหลี่โม่ให้ได้
ในตอนนี้หน้าตาไม่สำคัญแล้ว ในประวัติศาสตร์ตอนที่ เว่ยจงเสียนเป็นเก้าพันปี เหล่าขุนนางต่างยอมรับให้ เว่ยจงเสียนเป็นพ่อบุญธรรม เป็นปู่บุญธรรม (หมื่นปีหมายถึงฮ่องเต้ คนที่ถูกเรียกว่าเก้าพันปีหมายความว่ามีฐานะต่ำกว่าฮ่องเต้คนเดียวเท้านั้น เว่ยจงเสียนเป็นขันทีเลวร้ายในประวัติศาสตร์จีน)
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ท่านไป๋ก็รู้สึกว่าตัวเองฉลาดมากจริงๆ ถ้าเขาได้หลี่โม่เป็นพ่อบุญธรรม เขาก็จะก้าวหน้าในอนาคตได้!
เฮียเปียวที่อยู่ข้างๆ ตกตะลึง เดิมทีเขาคิดว่าเขาเป็นคนไร้ยางอายพอสมควร แต่หลังจากเห็นสิ่งที่ท่านไป๋ทำ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนอะไรแล้ว นอกจากอยากจะได้พ่อบุญธรรม
เลขาใหญ่ของท่านไป๋รู้สึกว่าสมองของตัวเองไม่พอใช้แล้ว ในอดีตภาพลักษณ์ของท่านไป๋นั้นดุดันเกินใครเทียบ แน่นอนว่าเป็นเจ้าแห่งความเย่อหยิ่ง แต่เมื่อเห็นสภาพของท่านไป๋ในขณะนี้ เลขาใหญ่ก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองเห็นท่านไป๋ตัวปลอม
“ท่านไป๋ ท่าน… สำรวมหน่อย”
เลขาใหญ่กระซิบ
“สำรวมกับผีน่ะสิ! ยามดอกไม้เบ่งบานรีบเด็ดเอา อย่ารอจนเหี่ยวเฉาทิ้งกิ่ง! การรับพ่อบุญธรรมก็เช่นกัน มันไม่ง่ายเลยที่ฉันจะได้เจอคุณหลี่และมีพ่อบุญธรรมที่ฉลาดหลักแหลมเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่จะไม่คำนึงถึงอะไรในการรับพ่อบุญธรรม!”
ท่านไป๋พูดอย่างไร้ยางอาย
หลี่โม่ยิ้มเยาะเย้ย และเตะศีรษะของท่านไป๋ เตะท่านไป๋กลิ้งเป็นลูกน้ำเต้า
“โอ้! ท่านพ่อท่านเตะได้ดี เมื่อกี้ลูกทำผิดจริงๆ ต้องถูกลงโทษอย่างหนักจากท่านพ่อ ท่านช่วยสั่งสอนผมทีเถิด” ท่านไป๋ตะโกนพลางกุมศีรษะ
ท่านไป๋หัวเราะ
“หน้าด้านไม่เบานี่”
หลี่โม่พูดอย่างจนปัญญา
ต้องเผชิญกับคนหน้าด้านเช่นนี้ ทำได้เพียงส่งเขาไปกลับตัวกลับใจใหม่เท่านั้น
ฉู่จงเทียนตกตะลึงอย่างหนัก ฉู่จงเทียนถือว่าเป็นคนที่เห็นอะไรมามากแล้ว เมื่อเห็นสภาพของท่านไป๋ในตอนนี้ รู้สึกว่าตัวเองยังประเมินผู้คนบนโลกนี้ต่ำเกินไป
คนที่หน้าด้านได้ถึงระดับท่านไป๋ คาดว่าเบื้องหลังคงจะทำเลวมาไม่น้อย
ท่านไป๋ลุกขึ้นคลาน คลานไปคุกเข่าตรงหน้าหลี่โม่ พูดด้วยรอยยิ้ม”พ่อ สั่งสอนต่อเถอะ ในอนาคตลูกจะเชื่อฟังคำพูดของพ่อ”
ตึกตึกตึก!
เสียงฝีเท้าของขบวนเดินที่เป็นระเบียบดังขึ้นมา
สีหน้าของท่านไป๋เปลี่ยนไป เขามองไปที่หลี่โม่อย่างประหม่า”ท่านพ่อ หน่วยลาดตระเวนมาแล้ว ท่านรีบโทรศัพท์ ต้องคุ้มครองผมให้ได้นะ ผมยอมรับผิดแล้ว และผมก็สำนึกผิดอย่างจริงใจ!”
“ยอมรับผิดตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร? ฉันฆ่าแก และรับผิดต่อหน้าหลุมศพแก ฉันก็ไม่ใช่ฆาตกรแล้วอย่างนั้นสินะ? ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาแกทำอะไรไว้บ้าง แกคงจำได้อยู่ใช่ไหม หลักฐานเหล่านั้นมากมายจนบันทึกไม่ไหวแล้ว! ชีวิตที่เหลืออยู่แกก็ไปสำนึกผิดที่คุกละกัน”
หลี่โม่มองด้วยสายตาที่ช่วยไม่ได้
“ไม่! ไม่ได้นะ ท่านจะทำกับผมแบบนี้ไม่ได้ ผมอุตส่าห์ยอมรับผิดแล้ว จะให้ผมเป็นสุนัขรับใช้ให้ท่านก็ได้ ขอเพียงท่านปกป้องผม อนาคตผมก็คือสุนัขของท่าน!”
ท่านไป๋พูดด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจ
“ฉันไม่ต้องการสุนัขอย่างแก ไม่จำเป็น”
หลี่โม่พูดอย่างเรียบเฉย
หน่วยลาดตระเวนรีบพุ่งเข้ามา หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนเดินเข้ามาทำความเคารพหลี่โม่
“คุณหลี่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? พวกผมได้รับคำสั่งก็รีบมาทันที”
“ฉันไม่เป็นไร จับกุมพวกที่คุกเข่าพวกนี้ไปให้หมดเถอะ”
หลี่โม่พูดอย่างใจเย็น
“ครับ”
หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนหันไปมองท่านไป๋ เฮียเปียวและคนอื่นๆ โบกมือและพูดว่า “จับไปให้หมด เรามีหลักฐานการก่ออาชญากรรมทั้งหมดของพวกแกแล้ว”
หน่วยลาดตระเวนกุมตัวพวกของท่านไป๋ ท่านไป๋มองหลี่โม่ด้วยความอาฆาตแค้น”ฉันขอสาปแช่งแกไม่ให้ตายดี! “
” ฉันเป็นตัวแทนของความยุติธรรม คำสาปของแกไม่มีผลใดๆ” หลี่โม่ยิ้ม