บทที่ 179 หัวหน้ามาแล้ว
ด้วยคำสั่งของหลิวซินหมิน หัวหน้าถงนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พุ่งเข้าไปกุมตัวจางลี่และคนอื่นๆ ดั่งเสือและหมาป่า
จางลี่ที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนกดทับบนกำแพง รู้สึกว่าในหัวหนักอื้อ คิดยังไงก็ไม่เข้าว่าหลิววินหมินเอาความกล้านี้มาจากไหน
“ผู้อำนวยการหลิวแกกล้ามาก! น้องเขยรีบด่ามัน และสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้ปล่อยตัวฉัน ฉันเจ็บหน้าไปหมดแล้ว!”
หวังหย่องถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกดที่ด้านหลังศีรษะ และหน้าถูกกดติดแน่นกับผนัง ใบหน้าที่บวมเป่งจากการถูกหลี่โม่ต่อยก่อนหน้านี้ หลังที่ถูกกดติดกับกำแพง ก็เริ่มเจ็บปวดมากขึ้น
สภาพของหวังหลิงก็ไม่สู้ดีนัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองจับแขนของหวังหลิงและบิดไปด้านหลัง หวังหลิงตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย! เจ็บ พวกเชี่ยปล่อยมือเดี๋ยวนี้ ที่รักคุณรีบช่วยฉันเร็ว ช่วยฉันด้วย!”
จางลี่จ้องหลิวซินหมินด้วยความโกรธ และตะคอก”หลิวซินหมิน แม่งมึงกินความกล้าเข้าไปหรือไง กล้าสั่งคนทำร้ายฉัน เชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องโรงพยาบาลแก!”
“หัวหน้าจาง ฉันพูดดีดีด้วยแต่แกไม่ฟัง ดังนั้นฉันจึงใช้วิธีนี้คุยกับแก ฉันไม่ได้กินความกล้าเข้าไปหรอก แต่คุณหลี่เป็นคนให้ความกล้าหาญนี้แก่ฉัน”
หลิวซินหมินยืนอยู่ข้างหลี่โม่ พอมองแล้วเหมือนเป็นพ่อบ้านของหลี่โม่
หลี่โม่มองจางลี่ด้วยความสนใจ และพูดด้วยรอยยิ้ม”ครอบครัวแกนี่มันช่างยุ่งเหยิงจริงๆ ในเมื่อใช้เหตุผลแล้วไม่เข้าใจ อย่างนั้นคงต้องใช้กลอุบายสักหน่อย พวกแกจะได้เชื่อฟังแต่โดยดี”
“ให้ตายเถอะ! แกคิดว่าแกเป็นใครหะไอ้ยาจก! หลิวซินหมินแกบ้าไปแล้วรึไง ถึงได้ไปฟังคำสั่งของไอ้เศษสวะ! แกคิดว่ามันจะปกป้องแกได้!”
จางลี่คำรามด้วยความโกรธ และคิดไม่ออกว่าหลิวซินหมินถึงเลือกทำแบบนี้ เป็นไปได้ไหมที่ หลิวซินหมินจะถูกมนต์สะกด?
มีเพียงคำอธิบายที่เลื่อนลอยแบบนี้ จางลี่ก็ไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ ได้เลย
หัวหน้าถงในใจรู้สึกได้ใจเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นจางลี่ทีไร ก็ต้องเคารพเขาราวกับสุนัขเลียขา แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ถูกข่มเหงแล้ว
“คุณหลี่ ผู้อำนวยการหลิว จะจัดการยังไงต่อครับ? หรือจะพาพวกเขาไปที่แผนกรักษาความปลอดภัย?”
“ไม่จำเป็น รออีเดี๋ยวก็จะมีคนมารับตัวพวกมันไป”
หลี่โม่พูดอย่างใจเย็น
หัวหน้าถงผงะไปชั่วขณะ ยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ครับ”
“กดพวกมันคุกเข่าให้หมด ไม่อยากทรมานก็ร่วมมือแต่โดยดี แล้วอย่าโทษว่าฉันใจดำ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามที่จับจางลี่ ใช้แรงกด และเตะที่หัวเข่าของพวกเขา ทำให้พวกเขาอยู่ในท่าคุกเข่า
จางลี่ หวังหย่อง หวังหลิงที่ถูกเตะที่เข่า สองขาของพวกเขาไม่สามารถยืนได้ จึงคุกเข่าไปทั้งอย่างนั้น
“โอ๊ะ ก็แค่ให้พวกแกคุกเข่า ดูพวกแกสิ พากันคุกเข่าอย่างเกรงใจกันหมด คุณหลี่ ท่านดูสิว่าพวกมันเกรงใจกันแค่ไหน หรือจะให้พวกมันนอนราบไปเลยดี”
หัวหน้าถงพูดด้วยรอยยิ้มดีใจ
“ไอ้เชี่ย พวกมึงคอยกูก่อน ขอแค่วันนี้พวกมึงไม่ฆ่ากู กูจะทำให้พวกมึงตายกันทั้งหมด!”
จางลี่พูดอย่างโกรธแค้น
“ที่รัก ฆ่าพวกมันซะ ให้พวกมันไปตายให้หมด! ตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยอับอายแบบนี้มาก่อน”
หวังหลิงร้องไห้และกรีดร้อง
หลิวซินหมินส่ายหัว และแสดงความเสียใจต่อจางลี่ในใจ ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีก คาดว่าอีกไม่นานคนที่นายน้อยเรียกคงมาถึง ครอบครัวนี้คงถูกลายสิ้น
เสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น เฉียนฝูก็พาชายวัยกลางอ้วนๆ คนหนึ่งมา และกำลังวิ่งมาเข้ามา
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า จางลี่ใช้แรงหันหัวมองด้านหลัง เมื่อเขาเห็นชายวัยกลางร่างอ้วนคนนั้น ในดวงตาของจางลี่ก็เต็มไปด้วยแสงแห่งความตื่นเต้น
“หัวหน้าหลี่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ คุณรีบสั่งให้พวกมันปล่อยผมที รีบสั่งการแก้ไขโรงพยาบาลนี้ พวกมันหยาบคายมาก พวกมันไม่ใช่โรงพยาบาลที่ช่วยเหลือคน แต่พวกมันกำลังฆ่าคน!”
จางลี่พูดอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าหลี่มองจางลี่ ราวกับว่ากำลังมองเมฆในอากาศ ไม่ได้สนใจเขาเลย
มองหัวหน้าหลี่เดินผ่านหน้าตัวเอง ไม่มีแม้แต่จะผายลม หัวใจของจางลี่ก็จมลงสู่ก้นบึ้ง
หรือว่าหัวหน้าหลี่ไม่ได้มาเพื่อตัวเขาเอง?
หรือว่าหัวหน้าหลี่ถูกไอ้ยาจกนั่นเรียกมา?
หรือว่า…
เรื่องราวต่อจากนี้จางลี่ไม่กล้าแม้แต่จะคิด ด้วยความตื่นตระหนกจางลี่พยายามยืดมือทั้งสองข้างออกไป แล้วจับกางเกงของหัวหน้าหลี่
หัวหน้าหลี่ที่ถูกดึงกางเกงก็หยุดเดิน และหันไปมองด้วยสายตาที่มืดมน
“ปล่อย เร็วเข้า!”
“หัวหน้าหลี่โปรดช่วยผมด้วย ต่อไปผมจะร่วมมือในการทำงานกับคุณอย่างเต็มที่ จะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ขอแค่คุณช่วยพวกผม!”
จางลี่ขอร้องอย่างขมขื่น
“แกมันรนหาที่ตายเอง อย่ามาทำให้ฉันซวยไปด้วย แกมันเป็นไอ้รองหัวหน้าขี้หมา หางของแกมันลอยขึ้นฟ้าไปแล้ว! แกคิดว่าแกเป็นที่หนึ่งแห่งเมืองฮั่นหรือไง ที่หนึ่งแห่งเมืองฮั่นยังหลีกทางให้ เป็นคนต้องรู้จักซ่อนหางไว้ให้ดีเข้าใจไหม”
หัวหน้าหลี่โกรธจางลี่เป็นอย่างมาก มีเรื่องกับใครไม่มี ดันไปมีเรื่องกับคนที่ข้อมือสามารถทะลุท้องฟ้าได้อย่างคุณหลี่
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย พวกมันเป็นแค่คนจนธรรมดา…”
จางลี่ยังพูดไม่จบ หัวหน้าหลี่ก็ยกเท้าเตะไปที่หน้าของจางลี่ เตะคำพูดในช่วงหลังกลับเข้าไปในท้อง
“แกต่างหากล่ะที่จน แกทั้งครอบครัวสิจน แกเป็นคางคกนั่งอยู่บนบ่อน้ำ คงคิดสิว่าท้องฟ้าใหญ่เท่าปากของบ่อน้ำ!”
ในหัวของจางลี่อื้อไปหมด ถูกหัวหน้าหลี่เตะเมื่อกี้วิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง แล้วพึมพำ”เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”
หัวหน้าหลี่เพิกเฉยไม่สนใจจางลี่ เดินไปตรงหน้าหลี่โม่ ก้มเอวที่อ้วนท้วมอย่างลำบาก
“คุณหลี่ เป็นเพราะผมไม่ควบคุมวินัยของสมาคม เลยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ผมมีความรับผิดชอบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ขอให้คุณหลี่ลงโทษ”
หัวหน้าหลี่มาถึงก็มายอมรับผิด
หัวหน้าหลี่รู้สึกว่าการเผชิญหน้ากับคนใหญ่คนโตอย่างหลี่โม่ หากเขาปัดความรับผิดชอบเขาจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน และหากเขาออกตัวรับผิด โทษหนักอาจจะกลายเป็นเบา
มองดูหัวหน้าหลี่ที่คล้ายหมาปั๊กเมื่อเจอหลี่โม่ ครอบครัวของจางลี่ก็ยุ่งเหยิงไปหมด
ที่มาของหลี่โม่คืออะไรกันแน่?
นี่เป็นคำถามที่จางลี่อยากรู้มากที่สุด
“หัวหน้าหลี่ชอบรับรับผิดชอบ?”
หลี่โม่พูดและมองไปที่หัวหน้าหลี่
จู่ๆ หัวหน้าหลี่ก็เหงื่อแตก ไม่คิดว่าหลี่โม่ไม่ได้เล่นตามไพ่ที่วางไว้
นี่คือผู้สูงส่ง คือหัวหน้า มีเพียงคนเก่งอย่างหลี่โม่เท่านั้น ที่มีคุณสมบัติที่จะไม่เล่นไพ่ที่วางไว้
หัวหน้าหลี่ตะโกนอย่างบ้าคลั่งในใจ
“นายไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ เพียงแค่กำจัดขยะนี้ก็พอ” หลี่โม่ชี้ไปที่จางลี่
หวังหลิงและหวังหย่องตกตะลึง หัวหน้าหลี่เหมือนสุนัขเลียแข้งขาเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่โม่ ฉากดังกล่าวเกินจินตนาการของพวกเขา แต่เดิมในสายตาของพวกเขา หัวหน้าหลี่ไม่ใช่บุคคลธรรมดา
จางลี่เข้าใจแล้วในตอนนี้ หลี่โม่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามไม่ใช่ยาจกแต่อย่างไร เขาต้องเป็นคนระดับหัวหน้าอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นหัวหน้าหลี่คงไม่คุกเข่าและประจบแบบนี้!
“ปล่อยฉัน ฉันขอโทษคุณหลี่!”