บทที่ 180 อาหารค่ำใต้แสงเทียน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กดจางลี่ไว้ สายตามองไปที่หลี่โม่ หลี่โม่พยักหน้าเล็กน้อย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองก็ปล่อยมือออกทันที
จางลี่ที่ได้รับอิสรภาพไม่ได้ลุกขึ้นยืน แต่คุกเข่าคลานสองก้าว คลานไปอยู่ตรงหน้าหลี่โม่
“คุณหลี่ผมผิดไปแล้ว มันเป็นความผิดของภรรยาที่ไร้ประโยชน์ของผม ถ้าเธอมีตาและมีแวว ผมคงไม่รุกรานคุณหลี่อย่างแน่นอน”
“แล้วยังมีหวังหย่อง ไอ้หวังหย่องน่าโง่นั่นก็เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่หวังหย่องช่วยเธอทำชั่ว ภรรยาของผมก็คงไม่รุกรานคุณหลี่ ผมจะสั่งสอนพวกเขาให้คุณหลี่เห็น”
หลี่โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกรังเกียจพฤติกรรมของจางลี่ ที่โยนความผิดให้คนอื่น
จางลี่เห็นว่าหลี่โม่ไม่มีอะไรจะพูด ลุกขึ้นและเดินหันไปทางหวังหย่อง
“น้องเขย น้องเขยจะทำอะไร ที่ฉันทำก็เพราะปกป้องภรรยานาย! นายเอาความผิดมาลงที่ฉันได้ไง!”
“เย็xแม่ง! มึงกับน้องสาวมึง สร้างปัญหาให้ฉันมากแค่ไหน! ถ้าฉันไม่ช่วยพวกแกทำเรื่องแบบนี้ ฉันจะถูกฟ้องไหม!”
จางลี่ทั้งโกรธ และเตะหวังหย่องอย่างบ้าคลั่ง หวังหย่องที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกดไว้ ไม่สามารถหลบได้ ถูกเตะจนเจ็บปวดไปทั้งตัว เจ็บปวดนอนอยู่บนพื้นดินเหมือนโคลน
จางลี่ที่พยายามดิ้นรน หันหัวเดินไปทางหวังหลิง ตอนนี้จางลี่หวังเพียงจะได้รับการให้อภัยจากหลี่โม่ เพื่อรักษาตำแหน่งหน้าที่การงาน
ตราบใดที่งานไม่หาย ผู้หญิงหรือลูกก็อยู่แค่ปลายนิ้ว แต่ถ้าไม่มีงานแล้วล่ะก็ จางลี่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปในอนาคต
“ที่รัก ฉันผิดแล้ว ฉันรู้ว่าฉันผิด อย่าตีฉันเลย ฉันจะขอโทษเขา ฉันจะกราบขอโทษเขา ฉันจะขอโทษเขา เขาจะทำอะไรกับฉันยังไงก็ได้”
หวังหลิงพูดด้วยความตื่นกลัว
“เธอมันเลว! ถ้าไม่ตีเธอแล้วคุณหลี่จะหายโกรธได้ยังไง! วันนี้ไม่เพียงแต่จะตีพวกเธอ ฉันเป็นคนบ้าที่จะตีแม้กระทั่งตัวเอง! เราทั้งครอบครัวติดค้างหมัด! ต้องโดนอัดถึงจะถูก!”
จางลี่คำรามอย่างบ้าคลั่ง และเตะหวังหลิงไม่หยุดด้วยเท้าขวา เตะจนหวังหลิงร้องไม่หยุด
“โอ๊ย! นายตีฉันจริงๆเหรอเนี่ย นายมันไอ้ขยะ ไม่กล้าสู้คนอื่น ได้แต่กลับบ้านตีภรรยาตัวเอง หัวหน้าหลี่ฉันจะฟ้องจางลี่ ฉันจะฟ้องว่าเขาใช้อำนาจในทางที่ผิด ยักยอกเงิน และเลี้ยงดูผู้หญิง!”
หวังหลิงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“ตีให้ตาย รู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงเลวอย่างแกไม่มีทางเป็นหนึ่งเดียวกับฉัน แกยังกล้าฟ้องฉัน ถ้าไม่ใช่เพื่อแก ฉันก็ไม่ทำแบบนี้! แกทำลายฉัน เป็นแกที่ทำลายฉัน!”
หลี่โม่ดูละครตลกของครอบครัวจางลี่ ส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย
หัวหน้าหลี่พูดอย่างกระอักกระอ่วน”ผมจะจัดการอย่างเข้มงวดแน่นอน คุณหลี่โปรดเชื่อผม”
“พอแล้ว นายกลับไปจัดการเถอะ คนประเภทนี้ ควรตรวจสอบก็ตรวจสอบ ควรจัดการก็จัดการ อย่าไปยอม” หลี่โม่พูดอย่างใจเย็น
“ได้ครับได้ครับ ผมจะทำตามคำชี้แนะของคุณ”
หัวหน้าหลี่แสดงสัญลักษณ์มือต่อหลิวซินหมิน หลิวซินหมินก็ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาครอบครัวจางลี่ไปกับหัวหน้าหลี่ทันที
ในเวลานั้น
กู้หยุนหลันก็พาซีชีเดินมาจากข้างนอก มองไปที่ทางเดินที่วุ่นวาย จากนั้นก็สังเกตอย่างละเอียด
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากครอบครัวของจางลี่ออกไปจากหน้ากู้หยุนหลัน กู้หยุนหลันมองไปที่หวังหลิงและหวังหย่องด้วยความประหลาดใจ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลี่โม่เห็นกู้หยุนหลันจากระยะไกล และพูดกับเฉียนฝูที่อยู่ข้างๆ “อาหารค่ำใต้แสงเทียนที่ดีที่สุดในเมืองฮั่นอยู่ที่ไหน”
“ที่สตาร์รีโคสต์”
“ไปจองโต๊ะสำหรับคืนนี้ ฉันกับหยุนหลานจะไปกินข้าวกัน”
“คุณชายกับนายหญิงจะไป งั้นเหมาจองสถานที่เลย ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้” เฉียนฝูกล่าวด้วยความเคารพ
หลี่โม่พยักหน้า แล้วโบกมือเบาๆ
เฉียนฝูเข้าใจ ขยิบตาให้หลิวซินหมิน และจากไปพร้อมกับหลิวซินหมิน
กู้หยุนหลันพาซีซีไปที่ด้านข้างของหลี่โม่ และพูดด้วยความสงสัย”เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น ฉันเห็นหวังหย่องกับหวันหลิงมาที่นี่อีกครั้ง”
“พ่อ อุ้มอุ้ม”
ซีซีอ้อนและกอดแขนของหลี่โม่
หลี่โม่ยิ้มและอุ้มซีซีไว้ในอ้อมแขน”หวังหลิงไม่พอใจ เลยโทรหาสามีของเธอมาสร้างปัญหา ผู้อำนวยการหลิวเลยช่วยแก้ปัญหา”
กู้หยุนหลันพยักหน้า นึกถึงสถานการณ์เมื่อกี้ หวังหลิงและคนอื่นๆ ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลเอาตัวไป
“แล้วคนอื่นๆ ล่ะ ฉันเห็นคนที่อยู่กับผู้อำนวยการหลิว ดูจากการแต่งตัวแล้วไม่ธรรมดา”
กู้หยุนหลันพูด
“รู้สึกว่าจะเป็นหัวหน้าของสามีหวังหลิง ผู้อำนวยการหลิวติดต่อหน่วยงานของสามีเธอ หัวหน้าของพวกเขาเลยมาตรวจสอบสถานการณ์ และบอกว่าพวกเขาจะจัดการสามีของหวังหลิงให้”
หลี่โม่พูดโกหกได้หน้าตาเฉย รู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพที่จะทำงานใต้ดิน
ความสงสัยของกู้หยุนหลันถูกปัดเป่าออกไป มองดูซีซีที่ลับใหลอยู่ในอ้อมแขนของหลี่โม่แล้วยิ้ม
“ซีซีเพิ่งกินของอร่อยไปเยอะมาก ควรหาเวลาอยู่กับเธอจริงๆ”
“ถ้าซีซีอาการดีขึ้น เราพาซีซีออกไปเที่ยว ชดเชยให้เธอดีไหม”
หลี่โม่มองลูกสาวในอ้อมแขนด้วยสายตารักใคร่
“ดี ช่วงนี้ยุ่งจริงๆ ฉันไม่ได้มาดูซีซีเลย โรงงานวัตถุดิบตอนนี้คงที่แล้ว อีกไม่นานคำสั่งซื้อทั้งหมดก็ส่งหมดแล้ว คงจะว่างแล้วล่ะ”
“นั่นมันอีกนานเลยนะ คุณไม่ควรเคร่งแบบนั้นนะ คุณไม่ได้ทำจากเหล็กตีนะ ขนาดหุ่นยนต์ยังต้องงถูกยกเครื่องเลย คุณก็อย่าทำทุกอย่างด้วยตัวเองเลย”
หลี่โม่รู้สึกเป็นห่วงกุ้หยุนหลัง ตอนนี้กู้หยุนหลันทุ่มเทให้กับหน้าที่การงาน และกลายเป็นหญิงแกร่ง
“ไม่ขยันได้ยังไง ต้องเลี้ยงดูครอบครัวนะ”
กู้หยุนหลันพูดเบาๆ
หลี่โม่กลอกตาและมองขึ้นไปบนเพดาน”คืนนี้ผมจะเชิญคุณทานข้าว”
“ฮ่าฮ่า ได้ ถึงเป็นอาหารข้างถนนฉันก็ไม่แคร์”
กู้หยุนหลันยิ้มอย่างมีความสุข ราวกับว่ามีความสุขมาก
“คืนนี้ไม่กลับไปกินข้าว ฉันต้องโทรบอกคนที่บ้าน”
กู้หยุนหลันหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาและโทรไปที่บ้าน หลังจากพูดไม่กี่คำ กู้หยุนหลันก็วางสายโทรศัพท์อย่างไม่มีความสุขสักเท่าไหร่
หลี่โม่ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ ต้องเป็นแม่ที่พูดอะไรที่ไม่น่าฟัง
“แม่ฉันพูดอะไรแปลกๆ อีกแล้วสิ ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร”
กู้หยุนหลันรู้สึกหมดคำพูดต่อหวังฟาง”ช่างเถอะ ไม่พูดอะไรพวกนี้แล้ว เรามาเปลี่ยนความเศร้าโศกและความโกรธของเราให้กลายเป็นความอยากอาหารในคืนนี้เถอะ.”
“ดี คืนนี้เรากินหนักๆ ไปเลย”
หลังจากที่หลี่โม่พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ดูข้อความที่เขาเพิ่งได้รับ
เฉียนฝูส่งข้อความมา บอกหลี่โม่ว่าเขาเหมาจองสตาร์รีโคสต์ และจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว
หลี่โม่เก็บโทรศัพท์มือถือ เขายิ้มที่มุมปาก
“คุณยิ้มอะไรคะ ดูคุณลึกลับชอบกล” กู้หยุนหลันเอียงคอมองไปที่หลี่โม่ และใช้นิ้วสะกิดไหล่ของหลี่โม่
“ผมคนลึกลับขนาดนั้นเชียว? ข้อความที่ได้เป็นข้อความขยะ เงินกู้อะไรพวกนั้น” หลี่โม่พูดแบบส่งๆ
“พาซีซีกลับไปห้องผู้ป่วยเถอะ นอนบนเตียงจะได้สบายขึ้น”
หลี่โม่พยักหน้า และพาซีซีกลับไปพักที่ห้องผู้ป่วย หลังจากกู้หยุนหลันทำความสะอาดห้องผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว เขาก็ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับหลี่โม่
ขณะนั่งอยู่ในรถ หลี่โม่พูดอย่างภาคภูมิใจว่า”ไปที่สตาร์รีโคสต์ ผมเชิญคุณทานอาหารค่ำใต้แสงเทียน”
“ที่นั่นแพงมาก คุณแน่ใจ?” กู้หยุนหลันกะพริบตา และถามกลับ