บทที่ 182 รับผลกรรมที่ก่อไว้
กู้ซิงเว๋ยทนได้กับการที่ต้องอับอายต่อหน้าของคุณชายซูกับเหอปิน เพราะพวกเขาเป็นคนที่เขาต้องประจบสอพลอ แต่ทว่าการที่หลี่โม่ต้องมาเห็นสภาพน่าอับอายของเขา เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถรับได้จริงๆ
หลี่โม่จับมือของกู้หยุนหลันเดินเข้ามา กู้หยุนหลันมองกู้ซิงเว๋ยอย่างสงสัย จากนั้นจึงมองไปที่คุณชายซูกับเหอปินที่ยืนอยู่ข้างๆ
คุณชายซูกับเหอปินกำลังจ้องกู้หยุนหลัน ทั้งสองคนโดนความงามของเธอดึงดูดเข้าให้แล้ว
แต่เหอปินตั้งสติได้เร็ว เมื่อสังเกตเห็นท่าทีของคุณชายซู เหอปินจึงรีบละสายตาทันที
เหอปินรู้ว่าคุณชายซูถูกใจกู้หยุนหลัน ดังนั้นเขาจึงเก็บความในใจที่มีต่อกู้หยุนหลันเอาไว้
หลี่โม่เหลือบมองคุณชายซูที่มองกู้หยุนหลันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เขาทำหน้าเย็นชาและจะเดินผ่านกู้ซิงเว๋ยไป
กู้ซิงเว๋ยขวางหลี่โม่เอาไว้
“แกมันก็แค่คนไม่เอาไหน ไม่ดูบ้างว่าที่นี่คือที่ไหน คนที่เอาแต่เกาะผู้หญิงกินแบบแกไม่สมควรมาที่นี่!”
“หลีกไป” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“หลีกกะผีน่ะสิ ดูคนไม่เอาไหนแบบแกสิ ที่นี่ถูกเหมาแล้ว ฉันยังจองโต๊ะไม่ได้เลย คนจนๆ อย่างแกจะเข้าไปทำอะไร”
กู้ซิงเว๋ยโกรธจนคลั่ง ถึงจะโดนคุณชายซูกับคุณชายเหอดูถูกก็ช่างปะไร
แต่จะให้ไอ้คนไม่เอาไหนอย่างหลี่โม่ดูถูก
ไม่ได้เด็ดขาด!
“อ๋อ ฉันรู้แล้ว คนจนอย่างแกรู้ว่าตัวเองไม่มีเงิน แกก็เลยตั้งใจใช้โอกาสนี้มาเอาอกเอาใจเมียตัวเองสินะ ใช้ลูกไม้นี้เพื่อประหยัดเงินสินะ” กู้ซิงเว๋ยพูดประชด
“พอแล้วกู้ซิงเว๋ย! พูดอะไรอย่าให้มันเกินไปหน่อยเลย!” กู้หยุนหลันพูดอย่างหงุดหงิด
กู้ซิงเว๋ยเห็นกู้หยุนหลันก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ เสียเงินตั้งเยอะ จัดการทุกอย่างมามากมาย แต่กลับไม่ได้อะไรเลย นี่มันก็ทำให้กู้ซิงเว๋ยอึดอัดใจจะแย่อยู่แล้ว
“คนต่ำตมอย่างเธอกล้ามาว่าฉันเหรอ ฉันด่าสามีไม่เอาไหนของเธอแค่ไม่กี่คำ เธอไม่พอใจงั้นเหรอ เธอมีสิทธิ์อะไรมาไม่พอใจฉัน เธอคิดว่าการนอนกับมันจะทำธุรกิจได้ ทำให้…”
เพียะ!
ไม่รอให้กู้ซิงเว๋ยด่าจบ หลี่โม่ตบลงไปที่หน้าของกู้ซิงเว๋ย
กู้ซิงเว๋ยถูกตบจนถอยหลังไปสองก้าว จู่ๆ ดวงตาของเขาก็แดงก่ำ
“ให้ตายเหอะ! แกกล้าตบฉันเหรอ”
“นายทำตัวเอง นายจะหัวเราะเยาะฉันยังไงก็ได้ แต่นายกล้าพูดไม่ดีกับภรรยาของฉัน แกต้องตาย”
หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก สายตาของเขาน่ากลัว
กู้ซิงเว๋ยเห็นสายตาเย็นยะเยือกของหลี่โม่ ราวกับเขาเห็นหมาป่าเดียวดายอย่างไรอย่างนั้น จู่ๆ เขาก็ใจสั่นจนทำให้ลืมคำด่าไปหมด
หลี่โม่จูงกู้หยุนหลันเดินอ้อมกู้ซิงเว๋ยเข้าไปในร้าน
ผู้จัดการต้อนรับเขาอย่างเป็นกันเอง “สวัสดีค่ะคุณหลี่ ห้องอาหารของคุณจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว อาหารก็เลือกของที่สดใหม่ เนื้อวาฬที่เพิ่งจะมาถึงเมื่อสองชั่วโมงก่อน เนื้อปลาแซลมอนจากทะเลลึก เป็นซาชิมิ อีกทั้งยังมี… ”
ผู้จัดการพูดแนะนำพลางเดินพาหลี่โม่กับกู้หยุนหลันเข้าไปข้างใน
กู้ซิงเว๋ยเห็นดังนั้นจึงยืนอึ้งไปพักใหญ่กว่าจะตั้งสติได้ เขาจ้องพนักงานตรงบาร์แล้วตวาดออกมาเสียงดัง “มันเหมาที่นี่เหรอ มันเหมาภัตตาคารนี่เหรอ”
“ใช่ค่ะ เย็นนี้คุณหลี่เหมาที่นี่ อาหารทุกอย่างถูกเลือกอย่างพิถีพิถันและต้องสดใหม่ กระบวนการทำตั้งแต่แรกจนถึงขนส่งมาที่นี่จะต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมง”
คำพูดที่พนักงานพูดไม่ได้เข้าหัวกู้ซิงเว๋ยแม้แต่น้อย การที่หลี่โม่เหมาสตาร์รีโคสต์ก็ทำให้เขาตกใจมากพอแล้ว
“เป็นแบบนี้ได้ไง เป็นไปไม่ได้ มันก็แค่คนไม่เอาไหน จะเหมาที่นี่ได้ยังไงกัน ต้องใช้เงินห้าแสนเชียวนะ! พวกเธอจำคนผิดหรือเปล่า คุณหลี่อะไรกัน จำผิดคนแล้ว!”
เห็นสีหน้าที่น่ากลัวของกู้ซิงเว๋ย พนักงานถอยไปข้างหลังอย่างหวาดกลัว
“คุณผู้ชายอย่าเพิ่งใจร้อนนะคะ เป็นคุณหลี่คนนี้จริงๆ ค่ะ ไม่ได้จำคนผิด”
“ให้ตายเหอะ! ไม่จริง จะเป็นไปได้ยังไง หลี่โม่มันก็แค่คนจนๆ เป็นแมงดาที่เกาะผู้หญิงกิน เธอบอกฉันมาว่ามันจ่ายเงินห้าแสนยังไง มันกินแล้วชักดาบแน่นอน รีบพารปภ. ไปจับมันเลย ไปจับมันสิ!”
พนักงานส่ายหน้า แล้วหยิบตั๋วไปหนึ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะ “เขาจ่ายเงินแล้ว คุณคิดมากเกินไปแล้วค่ะ”
กู้ซิงเว๋ยมองพนักงานอย่างตกตะลึง เขารู้สึกไม่ดี คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าหลี่โม่มีเงินเยอะขนาดนั้นได้อย่างไร
“กู้ซิงเว๋ย นายรู้จักสองคนนั้นเหรอ” คุณชายซูพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“รู้จักครับ รู้จักดีด้วย ผู้ชายคนนั้นชื่อหลี่โม่ มันเป็นคนไม่มีการมีงานทำ เกาะผู้หญิงกิน ส่วนผู้หญิงชื่อกู้หยุนหลัน”
จู่ๆ กู้ซิงเว๋ยก็คิดอะไรขึ้นมาในใจ เขาพูดเบาๆ ว่า “คุณชายซูอยากได้…”
“เธอชื่อกู้หยุนหลันสินะ คนงามชื่อก็ไพเราะ คิดไม่ถึงว่าสาวงามแบบนี้จะแต่งกับคนที่เกาะผู้หญิงกิน น่าเสียดายชะมัด” คุณชายซูพูดแล้วยิ้มออกมา
ทันใดนั้นกู้ซิงเว๋ยก็เข้าใจความหมายของคุณชายซูทันที ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเหมือนคนที่พร้อมจะช่วยเหลือคุณชายซูทันที รอยยิ้มประจบสอพลอผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
“น่าเสียดายจริงๆ ครับ คนอย่างกู้หยุนหลันต้องมาปรนนิบัติผู้ชายอย่างคุณชายซูสิถึงจะถูก เราเข้าไปดูดีไหมครับ ไปเยาะเย้ยไอ้คนไม่เอาไหนอย่างหลี่โม่ ไม่แน่กู้หยุนหลันอาจจะชอบท่าทางสง่างามของคุณชายซูก็เป็นได้”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
คุณชายซูหัวเราะอย่างตื่นเต้น เขาตบไหล่ของกู้ซิงเว๋ย “นายนี่พูดจาเก่งจริงๆ นำไปสิ เราไปคุยกับคนสวยกันดีกว่า”
“ครับ ครับ”
กู้ซิงเว๋ยรีบเดินนำคุณชายซูกับเหอปินไปข้างหน้า
พนักงานอยากรั้งพวกเขาไว้ แต่กู้ซิงเว๋ยบอกว่าเขารู้จักกับหลี่โม่ พนักงานจึงไม่กล้ารั้งพวกเขาเอาไว้
เมื่อถึงหน้าประตูห้องอาหารสุดหรูในสตาร์รีโคสต์ กู้ซิงเว๋ยยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วผลักประตูออก “เชิญครับคุณชายซู”
คุณชายซูก้าวเข้าไปในห้องอาหาร เขามองหลี่โม่ด้วยสายตาดูถูก จากนั้นจึงเดินไปยืนข้างกู้หยุนหลัน แล้วพูดออกมาด้วยท่าทีสุภาพ “คุณหยุนหลัน ครั้งแรกที่ผมได้เห็นคุณ หัวใจของผมก็ถูกคุณดึงดูด”
“ตอนนั้น ผมรู้สึกเหมือนได้เห็นแสงสว่างของนางฟ้า มันคือคิวปิดที่มายังโลกมนุษย์ และทำให้หัวใจของผม…”
กู้หยุนหลันพูดออกมาอย่างเย็นชาเพื่อตัดบทคำสารภาพรักในนิยายของคุณชายซู “ฉันมีสามีแล้ว เลิกคิดแบบนั้นเถอะ”
“หยุนหลัน ทำไมพูดแบบนี้! ท่านนี้คือคุณชายซูนะ คุณชายใหญ่ตระกูลซูแห่งฉู่โจว! ตอนนี้เขาเป็นรองประธานของบริษัทป่ายเด้อ เขาเป็นคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเงินระดับหมื่นล้าน! คุณชายซูชอบเธอถือเป็นวาสนาของเธอเลยนะ” กู้ซิงเว๋ยรีบพูดขึ้น
“ไม่สน พวกคุณกรุณาอย่ามากวนเราทานข้าว” กู้หยุนหลันพูดอย่างไม่สบอารมณ์
คุณชายซูสีหน้าไม่สู้ดี แต่ไหนแต่ไรเมื่อคุณชายซูจีบสาว ขอแค่เขาเปิดเผยฐานะของตัวเอง ทุกอย่างก็จะราบรื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกปฏิเสธ
“ผมว่าคุณหยุนหลันเข้าใจอะไรผมผิด ผมชอบคุณจากใจจริง ขอแค่คุณหยุนหลันยอมตกลงคบกับผม ผมสามารถสนับสนุนให้ตระกูลกู้เติบโตขึ้น ผมสามารถช่วยให้คุณเป็นผู้หญิงในวงการธุรกิจที่พราวเสน่ห์และแข็งแกร่งที่สุด”
คุณชายซูเปลี่ยนวิธีการ เพราะคิดว่ากู้หยุนหลันเป็นหญิงแกร่งในด้านธุรกิจ คงจะไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือและสิทธิพิเศษทางธุรกิจอย่างแน่นอน
กู้หยุนหลันขมวดคิ้ว เธอคิดว่าคุณชายซูน่ารำคาญยิ่งกว่าแมลงวันเสียอีก
ขณะนั้นเองหลี่โม่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายฟังภาษาคนไม่ออกเหรอ ถ้าไม่ออกไปก็เตรียมรับผลที่ก่อไว้แล้วกัน”