บทที่ 188 เวลาเร่งรีบ
สีหน้าของซูเหวินปินเคร่งขรึมขึ้นมา ฝีมือการต่อสู้ของหลี่โม่อยู่เหนือความคาดคิดของซูเหวินปิน เดิมทีเขาคิดว่าหลี่โม่เป็นแค่ผู้เข้าแข่งขันธรรมดาทั่วไป ใครจะไปคิดว่าหลี่โม่จะแสดงฝีมือระดับเทพแบบนี้
เด็กหนุ่มผิวพรรณสะอาดสะอ้านที่ยืนอยู่ข้างหลังซูเหวินปินแสยะยิ้มร้ายกาจ
“หัวหน้า พละกำลังและความว่องไวของไอ้หมอนั่นไม่เลวเลยทีเดียว แต่มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม”
“อย่าเพิ่งรีบ ดูไปก่อน ให้คนของท่านหวงขึ้นไปลองเชิงก่อน” ซูเหวินปินขมวดคิ้วแล้วเอ่ยออกมา
ตอนนี้ซูเหวินปินรู้สึกเสียใจที่ประมาทและเปลี่ยนกฎการแข่ง
แต่ถึงจะเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์ จากการคาดเดาของซูเหวินปิน ขอแค่คนของท่านหวงยื้อหลี่โม่ และตัดกำลังของหลี่โม่ ลูกน้องของเขาก็จะจัดการกับหลี่โม่ได้
ท่านหวงปรายตามองท่านหม่าที่กำลังโกรธ “ท่านหม่า อย่าโกรธเลย ถือว่าต้าลี่ตายอย่างคุ้มค่า นายทำศพเขาให้ดีก็พอแล้ว ให้คนของฉันแก้แค้นแทนต้าลี่ก็แล้วกัน”
“ชะชัยคนที่ฉันรับมาใหม่ เคยเป็นคนที่เคยเรียนมวยไทย เขาเคยชนะติดต่อกันสามสิบครั้งที่สนามมวยใต้ดินที่ต่างประเทศ จัดการไอ้หมอนี่ไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรง”
ชายผู้ที่มีผิวสีแทน สวมกางเกงขาสั้นท่อนบนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เดินออกมาทางด้านหลังของท่านหวง
ชะชัยเรียนมวยไทยกับแชมป์มวยไทยรุ่นเก่า เขาเริ่มชกมวยใต้ดินตั้งแต่อายุสิบหกปี
นี่ก็ผ่านมาสิบปีแล้ว ชะชัยเป็นราชามวยใต้ดิน เขาทำคู่ต่อสู้ตายคาสังเวียนมานับไม่ถ้วน
ชะชัยที่มีแววตาโหดร้ายราวกับงูพิษ เขาแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
“ท่านหวง ผมจะหักกระดูกในร่างกายของมันทุกกระเบียดนิ้ว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดีๆ ขึ้นไปชกเลย ทำให้ฉันใจเย็นลงที” ท่านหวงพูดเสียงดัง
ท่านหวงคิดว่า หวังต้าลี่สิบคนก็สู้ชะชัยเพียงคนเดียวไม่ได้ ถ้าพูดเช่นนี้หลี่โม่สามถึงห้าคนถึงจะสู้กับชะชัยได้
ชะชัยไม่ได้กระโดดขึ้นเวที เขาใช้กำลังของร่างกายของตัวเองกระโดดขึ้นไปบนเวที
และที่ที่ชะชัยกระโดดขึ้นไปมีรอยเท้าลึกลงไป แถมกระเบื้องตรงส่วนนั้นก็แตกละเอียด
พละกำลังที่น่ากลัวเช่นนี้ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของชะชัย
ชะชัยขึ้นมาบนเวทีประลองและยกนิ้วกลางให้หลี่โม่ “ไอ้เด็กน้อย แกสามารถรับกระบวนท่าของฉันได้สิบกระบวนท่าก็ถือว่าฉันแพ้แล้ว”
คนที่หลบไปพึ่งพาท่านหวงอย่างชะชัยเมื่อครู่ ใจของเขาแน่วแน่อีกครั้ง เขาอยากใช้ชีวิตของหลี่โม่มาสร้างผลงานให้ตัวเอง
“อย่ามาพูดไร้สาระ ฉันต้องรีบไปซื้อมื้อดึกให้ภรรยา” หลี่โม่พูดอย่างหงุดหงิด
“ให้ตายเหอะ! รนหาที่ตายชัดๆ”
ชะชัยพูดอย่างหงุดหงิด เขาสูดหายใจลึก กล้ามเนื้อสีแทนของเขาเปล่งประกายขึ้นมา กล้ามเนื้อค่อยๆ รวมตัวกันอย่างเห็นได้ชัด มันเหมือนกับแผ่นเหล็กอย่างไรอย่างนั้น
ท่านหวงยิ้มอย่างพออกพอใจ “ทุกท่านเห็นแล้วหรือยัง นี่คือเคล็ดวิชาที่ไม่เหมือนใครของชะชัย ว่ากันว่าเมื่อใช้แล้วจะเหมือนออร่าระฆังทองอย่างไรอย่างนั้น”
ท่านหม่าส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ ไม่สนใจท่าทางพออกพอใจของท่านหวง เขายังคงเสียใจกับการจากไปของลูกน้อง
ซูเหวินปินพูดกับชายร่างกายกำยำข้างหลังเบาๆ ว่า “พวกแกจับตาดูเอาไว้ หาจุดอ่อนของมัน”
ชายรูปร่างกำยำทั้งสองคนพยักหน้าและจับตามองบนเวที
ชะชัยที่กำลังโกรธจัด เขาค่อยๆ วิ่งเข้าประชิดตัวหลี่โม่อย่างรวดเร็ว
เพราะใช้เคล็ดวิชาลับทำให้พลังป้องกันสูงขึ้น ชะชัยตัดสินใจทิ้งพลังป้องกัน และจู่โจมหลี่โม่อย่างรวดเร็ว
วิชามวยไทยเป็นสิ่งที่โหดเหี้ยม แค่แสดงความสามารถออกมา ก็เหมือนกับงูพิษที่ออกมาจากโพรง ใช้การจู่โจมบีบบังคับให้คู่ต่อสู้จนมุม
ชะชัยซัดหมัดขวาออกไปที่แก้มของหลี่โม่ ส่วนมือซ้ายของเขาจู่โจมไปที่ลำคอของหลี่โม่
ทั้งสองหมัดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันเคลื่อนไหวไปตามปฏิกิริยาของหลี่โม่ ตั้งแต่ไหนแต่ไรเมื่อชะชัยใช้เคล็ดวิชามวยไทย เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของคู่ต่อสู้ตายในหมัดเดียว
หลี่โม่มองการจู่โจมของชะชัยอย่างไม่สบอารมณ์ เขาประชดด้วยการยกนิ้วกลางขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“เมื่อกี้แกยกนิ้วกลางให้ฉัน ฉันก็จะใช้วิธีเดียวกับแก”
เมื่อเห็นหลี่โม่ยกนิ้วกลางให้เขา ชะชัยถึงกับหนังตากระตุก ความกลัวเกิดขึ้นในใจของเขาอย่างแปลกประหลาด
ครั้งก่อนตอนที่ชะชัยเกิดความรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้ ก็เพราะต้องเผชิญหน้ากับแชมป์มวยเถื่อน
ครั้งนั้นชะชัยต้องใช้พละกำลังทั้งหมดถึงจะเอาชีวิตรอดออกมาได้
งั้นครั้งนี้ล่ะ
จู่ๆ ชะชัยก็รู้สึกตกใจและประหลาดใจ
สองหมัดที่ใช้ต่อสู้ไม่สามารถจู่โจมได้อีกต่อไป ชะชัยเก็บหมัดของตัวเองกลับมา เตรียมที่จะใช้สองแขนป้องกันใบหน้าของตัวเองเอาไว้
ในสมองของชะชัยคิดไว้อย่างดี แต่ทว่าแขนทั้งสองกลับไม่สามารถทำได้อย่างใจคิด ไม่รอให้แขนทั้งสองข้างได้เก็บกลับมา หลี่โม่ใช้นิ้วกลางกระแทกไปตรงระหว่างหัวคิ้วของชะชัย
“ซี้ด!”
ท่านหวงสูดหายใจ คิ้วของเขาขมวดเป็นปม สีหน้าตึงเครียด
ซูเหวินปินขมวดคิ้ว เขาใช้นิ้วมือขวาเคาะลงบนที่วางแขนตรงโซฟาไม่หยุด การกระทำนี้เป็นนิสัยเมื่อซูเหวินปินรู้สึกเครียด
ท่านหม่าส่ายหน้า เขาคิดว่าหวังต้าลี่คงจะมีเพื่อนแล้วล่ะ วันนี้คนที่ขายหน้าคงไม่ใช่เขาเพียงคนเดียวแล้ว มีเพื่อนขายหน้าก็รู้สึกดีเหมือนกัน
จิตใจของฉู่จงเทียนแน่วแน่ ความกังวลที่เขามีอยู่มลายหายไปแล้ว เขารู้สึกว่าหลี่โม่ราวกับเทพศาสตราอย่างไรอย่างนั้น เขาสามารถสังหารทุกสิ่งทุกอย่างได้
นิ้วกลางของหลี่โม่อยู่ตรงระหว่างหัวคิ้วของชะชัย เหตุการณ์ที่ชะชัยคิดไว้คือนิ้วกลางของหลี่โม่ได้กระแทกเข้ามาในกระดูกและทะลุเข้ามาในหน้าผากของเขา แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เกิดขึ้น
นิ้วกลางจิ้มเบาๆ อยู่ที่ระหว่างคิ้วของชะชัย ไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บหรือผิดปกติ
เหมือนเวลาหยุดชะงัก ทุกคนต่างพากันมองนิ้วกลางของหลี่โม่ ราวกับกำลังรอให้เลือดพุ่งออกมา
หลี่โม่ยิ้มบางๆ แล้วค่อยๆ ชักนิ้วกลางกลับมา
ชะชัยถอยหลังไปสองก้าว แล้วใช้มือขวาคลำตรงระหว่างคิ้วของตัวเอง พบว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ชะชัยหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พลังป้องกันของฉันนี่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงจะเป็นกระสุนปืน 9 มม. ก็ไม่สามารถทะลุเข้ามาในกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งของฉันได้ ต่อไปก็ไปเวลาตายของแกแล้ว!”
“ฉันแค่ไม่อยากให้เลือดกระเด็นมาโดนเสื้อน่ะ” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไร้สาระ แกไม่สามารถต่อกรกับพลังป้องกันของฉันได้หรอก นอนรอความตายจะดีกว่า!”
ชะชัยแสยะยิ้มแล้วก้าวออกมา แต่ทว่าก้าวได้เพียงครึ่งก้าว ชะชัยรู้สึกว่าเหมือนหน้าผากของตัวเองโดนกระแทกกับอะไรหนักๆ จนทำให้เลือดออกมาจากตา ปาก หูและจมูกของเขา
พรวด!
พละกำลังของชะชัยหายไปอย่างรวดเร็ว เขาขาอ่อนจนทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้น ร่างกายของเขาโงนเงนไปมา จากนั้นก็ล้มลงไปบนเวทีประลอง
หลี่โม่ยิ้มบางๆ และหันตัวกลับมา สายตาของเขามองไปที่ซูเหวินปินที่กำลังตกใจจนอ้าปากค้าง
“นายเป็นคนตระกูลซูใช่ไหม ให้คนของนายขึ้นมาทั้งสองคนเลย ฉันต้องรีบไปซื้อมื้อดึกให้ภรรยา”