จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 199 ขอโทษเหมือนหมา

บทที่ 199 ขอโทษเหมือนหมา

“ใครมันกล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!” ขณะที่หวงติ้งฟากำลังพล่าม ก็ได้ยินใครคนหนึ่งพูดว่าตัวเองเก่งมาจากไหน ยังไม่ทันหันไปมองเขาก็สบถออกมา

เมื่อหวงติ้งฟาหันไปมอง เพื่อที่จะเอาเลือดหัวคนที่ด่าเขา แต่ทว่าหวงติ้งฟากลับชะงักและยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

ผู้ชายที่ดูมีฐานะ พาชายวัยกลางคนที่น่าเกรงขามมายืนข้างหน้าหวงติ้งฟา แววตาหงุดหงิดจ้องไปที่ตาหวงติ้งฟา

“ใช้ได้เลยนิ ฉันเพิ่งเคยเห็นนายวางก้ามขนาดนี้เป็นครั้งแรก วางก้ามแบบนี้จนติดเป็นนิสัยแล้วใช่ไหม ลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นใครและทำอาชีพอะไรใช่ไหม พวกเราต้องรับใช้ประชาชน! ไม่ใช่เอาแต่กินเอาแต่ได้และเที่ยวระรานไปทั่ว!”

เม็ดเหงื่อผุดออกมาจากหน้าผากของหวงติ้งฟา เขากลัวจนต้องโค้งตัวอย่างนอบน้อมและยิ้มอย่างประจบสอพลอ “หัวหน้าซุนมาได้ยังไงครับ พวกเขาทำร้ายลูกชายผม ผมเลยโมโหมากเลยพูดอะไรโดยไม่ทันคิดครับ”

เมื่อเห็นการมาถึงของหัวหน้าซุน หวงจิ่งซานรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว แววตาที่มองหลี่โม่ก็แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ไม่ชอบมาพากล

หวงจิ่งซานคิดไม่ออกจริงๆ ว่าแท้จริงแล้วหลี่โม่เป็นใครกันแน่

มันเป็นแมงดาที่เกาะผู้หญิงกินไม่ใช่หรือไง ทำไมแค่โทรศัพท์สายเดียวก็ทำให้ประธานของโรงแรมถังซ่งคุกเข่าลงได้ นี่ก็เพียงแค่โทรศัพท์สายเดียวก็ทำให้ประธานของสมาคมอาหารแห่งเมืองฮ่านมาถึงที่นี่!

นี่มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก น่ากลัวยิ่งกว่าหนังสยองขวัญเสียอีก!

หวงจิ่งซานจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ร่างของหลีโม่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเหมือนปีศาจต่อหน้าต่อตาของเขา

หารลี่เฉิงยกนิ้วโป้งให้หลี่โม่ จากนั้นพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “คุณหลี่ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ”

“หึหึ เรื่องเล็กน้อย” หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เมื่อเห็นท่าทางนิ่งเฉยของหลี่โม่ หารลี่เฉิงเป็นคนสูงส่งมีความสามารถที่ถ่อมตน มีเพียงคนประเภทนี้เท่านั้นที่จะสุขุมเช่นนี้ ถ้าคนอื่นเก่งแบบเขา ป่านนี้คงจะคุยโม้ไปทั่วแล้ว

หัวหน้าซุนแสยะยิ้ม แล้วพูดออกมาอย่างเกลียดชัง “แกรนหาที่ตายก็อย่าให้ทุกคนติดร่างแหไปด้วย ฉันไล่แกออกตั้งแต่ตอนนี้ สมาคมจะตรวจสอบการทำงานของแกในอดีต”

หวงติ้งฟารู้สึกมึนไปหมด เหมือนมีสายฟ้าฟาดมาที่หัวของเขา จู่ๆ ตัวของเขาก็อ่อนยวบทรุดลงไปนั่งบนพื้น

หลายปีมานี้หวงติ้งฟาอยู่ดีกินดี เขาใช้เงินไปทั่ว เพราะการมีตำแหน่งผู้จัดการในสมาคม ถ้าไม่มีตำแหน่งนี้ ต่อไปเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร

แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขามีหุ้นมากมายในบริษัทร้านอาหารขนาดใหญ่ ถ้าให้พวกนั้นรู้ว่าเขาโดนไล่ออก คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน!

เมื่อคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น หวงติ้งฟาลุกลี้ลุกลน เหงื่อไหลออกมาไม่หยุดจนเสื้อเปียกชื้นเหมือนกับเพิ่งถูกช้อนขึ้นมาจากน้ำอย่างไรอย่างนั้น

หัวหน้าซุนยืนอยู่ข้างหน้าหลี่โม่ เขายิ้มแล้วพูดว่า “ทำให้คุณหลี่ได้รับความไม่ยุติธรรม หวงติ้งฟาเหิมเกริมขึ้นทุกวัน เราได้รับการร้องเรียนมามากมาย ตอนนี้จะจัดคนไปตรวจสอบเขาครับ”

หวงจิ่งซานทรุดลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ถ้าพ่อหมดอำนาจ เขาก็จะไม่มีชีวิตที่สุขสบายอีก

หวงติ้งฟาฝืนลุกขึ้นมานั่งอยู่บนพื้น เขาคลานไปตรงหน้าหลี่โม่ ราวกับสุนัขอย่างไรอย่างนั้น เขาเงยหน้ามองหลี่โม่

“คุณ…คุณหลี่ ผมสอนลูกไม่ดีเอง ผมจะจัดการมันเอง ให้มันชดใช้ความผิดที่ทำกับคุณ แต่คุณช่วยบอกให้หัวหน้าซุน…บอกให้หัวหน้าซุนไว้ชีวิตผมด้วย ผมจะเสียงานนี้ไปไม่ได้ คนในครอบครัวของผมต้องพึ่งพาผม”

หลี่โม่แสยะยิ้ม เขาไม่ได้รับปากหวงติ้งฟา

หวงติ้งฟาร้อนรนจนดวงตาแดงก่ำ เขาหันหน้าไปตวาดหวงจิ่งซาน “ไอ้ลูกเวรยังไม่รีบมาชดใช้ความผิดที่ทำกับคุณหลี่อีก รีบมาคุกเข่า! ไม่สิ คลานเลย คลานให้เหมือนหมา! เมื่อกี้คุณหลีบอกว่าพวกเราเอาแต่เห่า ตอนนี้เราสองพ่อลูกเป็นหมา!”

หวงจิ่งซานมองผู้เป็นพ่ออย่างสับสน ร่างอ่อนปวกเปียกที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ค่อยๆ ไหลลงจากเก้าอี้

พรึ่บ

หวงจิ่งซานคุกเข่าลงบนพื้น แล้วก้มตัวลงเอามือยันกับพื้นเหมือนสัตว์สี่เท้า

“หลี่..คุณหลี่ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรหมิ่นคุณ ไม่ควรดูถูกคุณ คุณเก่งคุณสุดยอดมาก กู้หยุนหลันคู่ควรกับคุณมากกว่าผม ผมรู้ว่าตัวเองเทียบกับคุณไม่ได้ คุณปล่อยครอบครัวผมไปเถอะ ปล่อยพวกเราไปเถอะ”

หวงติ้งฟารีบพูดตาม “คุณหลี่ เราสองพ่อลูกสำนึกผิดแล้ว คุณบอกมาเลยว่าจะให้พวกเราชดใช้ยังไง ให้พวกเราไปเห่าเหมือนมาที่ข้างนอกก็ได้ ขอแค่คุณไว้ชีวิตพวกเรา”

ฉินเย่มองหน้ากับคนอื่นๆ เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้ทำงานกับหัวหน้าที่เก่งอย่างหลี่โม่

ไม่ต้องพูดอะไร อานุภาพและผลของการยกหูโทรศัพท์เพียงสองครั้ง นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะทำได้

อย่าว่าแต่คนทั่วไปเลย ถึงจะเป็นคนที่มีอำนาจในเมืองฮ่าน ก็อาจจะทำได้ไม่สมบูรณ์แบบขนาดนี้

หัวหน้าซุนโค้งตัวลง แล้วยิ้มอย่างประจบสอพลอ “คุณหลี่จะจัดการยังไงครับ”

“นายเอากลับไปทำตามขั้นตอนเถอะ นายยังจะให้อภัยคนที่ทำตัวเหมือนม้าที่สร้างความวุ่นวายในฝูงอยู่ไหม” หลี่โม่ย้อนถาม

“มิกล้า มิกล้า ผมไม่ให้อภัยอย่างเด็ดขาดครับ ผมจะจัดการอย่างเข้มงวด จะจัดการปัญหาที่มันก่อไว้ให้เรียบร้อยครับ”

หัวหน้าซุนหันไปทางประตู “เสี่ยวจาง เสี่ยวจ้าว พวกแกเอาตัวสองพ่อลูกนี่กลับไป จัดการปัญหาทั้งหมดให้เรียบร้อย!”

หวงติ้งฟากับหวงจิ่งซานตกใจจนล้มลงไปกับพื้น พวกเขาคิดถึงเรื่องที่ทำลงไปในอดีต ต่อจากนี้ชีวิตของพวกเขาคงจะเหมือนอยู่ในคุก

เสี่ยวจางกับเสี่ยวจ้าวเข้ามาลากสองพ่อลูก เหมือนลากหมาที่ตายอย่างไรอย่างนั้น

หลี่โม่โบกมือไปมาแล้วพูดกับฉินเย่ว่า “นี่ก็ดึกแล้ว พวกนายกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“ครับเจ้านาย งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ” ฉินเย่ลุกขึ้นแล้วพาพนักงานของสถาบันความงามออกไป

หารลี่เฉิงพูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณหลี่ ต่อจากนี้ผมเป็นลูกน้องของคุณแล้ว คุณต้องการให้บริหารจัดการโรงแรมถังซ่งอย่างไร ผมจะทำตามคำสั่งของคุณ”

หัวหน้าซุนอึ้งเล็กน้อย แล้วถามอย่างลองเชิงว่า “คุณหลี่ถือหุ้นของตึกถังซ่งแล้วเหรอ”

“เปล่า ร้านในเมืองฮ่านถูกโอนให้คุณหลี่แล้ว ต่อจากนี้พวกเราอยู่ความดูแลของคุณหลี่”

ภาพลักษณ์หลี่โม่ในใจของหัวหน้าซุนยิ่งใหญ่เข้าไปอีก การที่ทำให้คนมอบโรงแรมมูลค่าหลายสิบล้านเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี นี่ต้องเป็นยอดคนอย่างแน่นอน

“สมาคมอาหารของเราจะสนับสนุนกิจการของโรงแรมถังซ่งอย่างเต็มกำลัง ถ้าพวกคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็ติดต่อผมได้ ถ้าคุณหลี่มีความคิดเห็นหรือคำแนะนำอะไรก็บอกได้นะครับ พวกเราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างสุดความสามารถ”

“นายรับผิดชอบดูแลโรงแรม ทำให้เต็มที่ ฉันไม่เอาเปรียบลูกน้องของตัวเอง” ขณะที่หลี่โม่กำลังจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากทางประตู

“หลี่โม่ ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ พวกเขากำลังจะทำอะไร”

หลี่โม่หันกลับไปมอง ก็พบร่างที่คุ้นเคยของหกู้หยุนหลัน เธอมองเขาด้วยแววตาสงสัย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset