จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 206 ต่อให้เป็นเทพเจ้าก็ต้องตาย

บทที่ 206 ต่อให้เป็นเทพเจ้าก็ต้องตาย

โอหยางจงเฉิงสองมือกุมหัวแล้วนั่งยอง ๆ ด้วยความเสียใจ เขาเดาจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดนี้ได้ แต่กลับไม่รู้ว่าจุดจบจะเป็นแบบนี้

เมื่อเผชิญกับกำปั้นของหลี่โม่ โอหยางจงเฉิงได้แต่ขาสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่แล้วมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาอ้อนวอน

“น้องครับ ผมผิดไปแล้ว ผมรู้ว่าผมทำเกินไป คุณช่วยบอกผมทีว่าคุณต้องการค่าเสียหายเท่าไหร่ ผมจะชดใช้คุณเอง!”

“คุณคิดว่าเงินสามารถชดใช้ได้งั้นเหรอ?”

หลี่โม่สาดกำปั้นออกไปเหมือนหยาดฝนที่พุ่งเข้าใส่โอหยางจงเฉิงทำให้เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวด

ทุกหมัดของหลี่โม่ที่ชกออกไปนั้นได้เลือกตำแหน่งอย่างตั้งใจไว้แล้ว ซึ่งมันเป็นจุดที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงหลังจากถูกทุบตี

ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้โอหยางจงเฉิงถึงกับหมดสติไป แต่โอหยางจงเฉิงก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้น

หลังจากเป็นลมและตื่นขึ้นมาหลายครั้ง โอหยางจงเฉิงก็น่วมจนหมดสภาพไปทั้งตัว

ส่วนรอยฟกช้ำบนใบหน้านั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเศษตุ๊กตาเก่าๆ ที่ถูกทิ้งในกองขยะ

กู้เจี้ยนกั๋วอึ้งไปพักใหญ่ จนกระทั่งหลี่โม่เดินเข้าไปหากู้หยุนหลันเขาถึงจะตั้งสติได้

จากนั้นกู้เจี้ยนกั๋วก็รีบวิ่งเข้าไปหาโอหยางจงเฉิงด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นสภาพปางตายของโอหยางจงเฉิงเขาก็สั่นไปทั้งตัวและความดันโลหิตก็พุ่งสูงขึ้นจนเส้นเลือดในสมองแทบจะแตก

“นี่มัน……น่าอนาถเกินไปแล้ว หลี่โม่ คุณจะทำเกินไปไหม ทำไมต้องทำกับคุณโอหยางขนาดนี้ เขาเป็นคุณโอหยาง เป็นคนดังในวงการแพทย์และยาเชียวนะ!”

กู้เจี้ยนกั๋วพูดด้วยมือไม้ที่สั่นเทา

“พวกคุณยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ พวกคุณทำอะไรลงไปกับคำขอของไอ้หมอนี่? พวกคุณยังมีศักดิ์ศรีอยู่ไหม? พวกคุณยังมองว่าหยุนหลันเป็นคนตระกูลกู้อยู่ไหม! พวกคุณมันก็แค่คนเห็นแก่ตัว พวกขี้ข้า”

หลี่โม่พูดด้วยความโกรธ

“คุณยังกล้ามาสอนพวกเราเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะกู้หยุนหลันก่อเรื่องขึ้นมาเอง แล้วเราจะทำแบบนี้ทำไม! คุณต่างหากที่เป็นคนสร้างปัญหา ตอนนี้ตระกูลกู้ของเราต้องชดใช้คุณโอหยางอย่างแน่นอน!” กู้เจี้ยนเจียงกระทืบเท้าแล้วพูดด้วยความโกรธ

ในเวลานี้กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ แทบอยากขาดใจตายทันที เพราะถ้าอยู่ต่อพวกเขาต้องเผชิญกับความโกรธของโอหยางจงเฉิง บางทีโอหยางจงเฉิงอาจจะใช้ร้อยวิธีในการทรมานพวกเขาจนตายอย่างช้าๆ ก็ได้

“พวกคุณยังคิดจะอ้างอยู่เหรอ อย่าหลงตัวเองให้มากไปเลย หยุนหลันทุ่มเทให้กับตระกูลกู้ของพวกคุณมากแค่ไหน แต่พวกคุณกลับตอบแทนเธอแบบนี้? ถ้าปราศจากความพยายามของหยุนหลัน ตระกูลกู้ของพวกคุณคงต้องล้มละลายไปนานแล้ว!”

หลี่โม่ตะโกนพูดด้วยความโกรธ

กู้ซิงเว๋ยที่ได้ยินคำนี้ก็โกรธและชี้หน้าด่าหลี่โม่ “ไอ้คนกระจอก นายพูดจาระวังตัวด้วย ตระกูลกู้ของเราจะล้มละลายหรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของนายแต่เป็นคุณโอหยางต่างหาก! ไอ้เศษสวะอย่างนายทำผิดกับคุณโอหยางแล้วยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษคุณโอหยางอีก!”

“ต้องให้ไอ้เหลือขอคนนี้กับกู้หยุนหลันไปขอโทษด้วยกัน คนปัญญาอ่อนพวกนี้ วันๆ เอาแต่ก่อเรื่องให้ชาวบ้าน ถ้าคุณโอหยางไม่เข้าใจพวกนาย พวกนายคงตายไปนานแล้ว!”

กู้ชิงหลินตะโกนพูดอย่างเสียงดัง

ผั๊วะ!

หลี่โม่ตบหน้ากู้ชิงหลินอย่างรุนแรงจนเขาเดินเซและล้มทับโอหยางจงเฉิง

“เอื๊อก! มึงมัน……”

โอหยางจงเฉิงกลอกตาด้วยความเจ็บปวดและสลบไปอีกครั้ง

กู้ชิงหลินตกใจจนหน้าซีด เขาคิดว่าตัวเองนั่งทับโอหยางจงเฉิงจนตายไปแล้ว

“มันไม่ตายหรอก ตาพวกคุณแล้ว” หลี่โม่เหวี่ยงมือออกไปแล้วมีเสียงตบหน้าดังขึ้นเป็นชุด

กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ ที่ถูกหลี่โม่ตบหน้าถึงกับทำตัวไม่ถูก จากคนกระจอกคนหนึ่งแต่วันนี้กลับกล้ามาตบหน้าพวกเขามันทำให้กู้เจี้ยนกั๋วโกรธอย่างสุดขีด

ถึงแม้จะโกรธ แต่กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ ได้แต่กุมหน้าตัวเองและไม่กล้าโต้เถียงกับหลี่โม่อีก

“หลี่โม่ นายจะมากเกินไปแล้ว นายทำข้าไม่ว่า แต่นายกล้าเตะต้องพ่อกับอาของข้า!”

กู้ซิงเว๋ยมองไปที่หลี่โม่

หลี่โม่ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเหวี่ยงหลังมือไปที่ปากของกู้ซิงเว๋ย

“แมร้ง! มึงคิดว่ากูไม่กล้าใช่ไหม!”

กู้ซิงเว๋ยตะโกนด้วยความโกรธแล้วพุ่งเข้าไปหาหลี่โม่

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน”

หลี่โม่มองไปที่กู้ซิงเว๋ยที่วิ่งเข้ามา จากนั้นยกเท้าขึ้นแล้วเตะไปที่หน้าท้องของกู้ซิงเว๋ย

ผั๊วะ!

กู้ซิงเว๋ยกระเด็นออกไปกระแทกกับกำแพงและทำให้กำแพงสั่นสะเทือน

กู้เจี้ยนกั๋วและกู้เจี้ยนเจียงได้แต่ก้มหัวและไม่กล้ามองไปที่หลี่โม่เหมือนอย่างคนขี้แพ้

ส่วนกู้ชิงหลินก็หดตัวอยู่มุมกำแพงจนแทบจะดึงตัวของโอหยางจงเฉิงมาบังไว้ตรงหน้าเขา

“หลี่โม่…….ใจเย็นก่อน ใจเย็นก่อน ไม่ใช่ว่าเราไม่สงสารหยุนหลันหรอกนะ แต่เราไม่มีทางเลือกจริงๆ คุณโอหยางปล่อยข่าวออกไป ทำให้หลายๆ พันธมิตรต่างก็พากันยกเลิกสัญญากับเรา เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี้จริงๆ”

กู้เจี้ยนเจียงสังเกตสีหน้าของหลี่โม่อย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าหลี่โม่ไม่มีทีท่าว่าจะใจร้อนอีก เขาจึงค่อยๆ ฝืนใจอธิบายขึ้น

“นายอาจจะยังไม่มีว่าคุณโอหยางมีฐานะอะไร เขาเป็นถึงบุคคลสำคัญในวงการแพทย์ของเมืองนี้เลยนะ วันนี้นายทำร้ายร่างกายเขา วันหลังพวกเราทุกคนต้องได้รับผลกระทบไปด้วย นายว่าพวกเราควรทำอย่างไร ตระกูลกู้ของเราจะจบสิ้นแบบนี้ไม่ได้นะ”

“อีกอย่างนายก็เป็นคนตระกูลกู้ เมียนาย ลูกนาย พ่อตาแม่ยายของนายก็ต้องใช้ชีวิตโดยอาศัยนามสกุลกู้ ถ้ากิจการตระกูลของเราล้มละลายแล้วอนาคตครอบครัวนายจะกินอะไรล่ะ”

กู้เจี้ยนเจียงคิดว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นล้วนเป็นเหตุผล บางทีเขาอาจจะโน้มน้าวหลี่โม่ได้

กู้เจี้ยนกั๋วที่เห็นหลี่โม่ไม่มีทีท่าว่าจะตอบสนอง เขาจึงคิดว่าหลี่โม่เป็นคนชอบไม้อ่อนและพูดเกลี้ยกล่อมหลี่โม่ด้วยคน

“พวกคุณต้องเห็นแก่ซีซีด้วยนะ ค่ารักษาของซีซีสูงขนาดนี้ ถ้าตระกูลเราล้มละลายแล้วซีซีจะทำยังไง ค่ารักษาที่แพงแบบนี้ใครจะช่วยได้”

“หยุนหลัน คุณก็ต้องคิดให้ดีก่อนนะ ถ้าเราล้มละลายจริงๆ มันก็เสียหายกันทุกคน เราไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอก แต่บางทีคงเราก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตนเองนะ”

กู้หยุนหลันเงียบไปชั่วขณะ ในใจเธอรู้สึกสับสนวุ่นวายมาก หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก กู้หยุนหลันก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆ

กู้หยุนหลันดึงมือหลี่โม่แล้วกระซิบพูด “ฉันรู้สึกเหนื่อยแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะ”

“ครับ ผมขอพูดอะไรกับพวกมันก่อน รอเดี๋ยวนะ”

หลี่โม่ง้างขาแล้วเตะไปที่กู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงจนทั้งสองกระเด็นออกไปนอนกองกับกู้ซิงเว๋ย

หลี่โม่ชี้ไปที่พวกเขาที่นอนกองอยู่บนพื้นแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกมึงจำไว้ให้ดีนะ ต่อจากนี้ใครกล้าคิดร้ายกับภรรยากูอีก ต่อให้เป็นเทพเจ้ากูก็จะเอาให้ตาย!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset