บทที่ 21 ในโลกนี้ไม่มีใครรังแกเธอได้
ได้ยินหลี่โม่ว่าดังนั้น กู้ซิงเว๋ยก็หัวเราะพุ่งออกมา “ได้หนังสือสัญญาหรือยัง? หลี่โม่ คุณรู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”
“ได้หนังสือสัญญาแล้วอย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้อย่างไรกัน!กู้หยุนหลันนั้น นอกจากสวยแล้ว จะมีความสามารถอะไร ถ้าเธอได้หนังสือสัญญาของบริษัทรุงคาง ขอให้ผมออกประตูไปแล้วให้รถชนตายเลย!”
“น่าขำสิ้นดี!ไอ้คนไม่เอาไหนยังจะมาออกหน้าแทนเมียตัวเองอีก ไม่รู้หรือว่าที่นี่มันที่ไหน? ยังจะกล้ามาโอ้อวด!”
“ผมคิดว่านะ ไล่หลี่โม่ออกไปจากนี่เถอะ แล้วยังมีกู้หยุนหลันอะไรนั่นอีก รีบให้ลาออกไปเสีย!”
พวกผู้บริหารระดับสูงของตระกูลกู้ก็หัวเราะกันใหญ่ หัวเราะเยาะหลี่โม่และกู้หยุนหลันอย่างไม่ละอาย
กู้หยุนหลันก็โกรธมาก สะบัดมือของหลี่โม่ แล้วก็ตบไปที่ใบหน้าของเขา แล้วดวงตาก็น้ำตาคลอเบ้า พูดตะคอกออกไปว่า “หลี่โม่ คุณทำอะไรลงไป?!ใครให้คุณพูดพล่อยๆ !”
กู้หยุนหลันก็แทบจะเป็นบ้า
ในสถานการณ์อย่างนี้ แล้วหลี่โม่พูดเช่นนี้ออกไป ไม่เหมือนเป็นการกระโดดลงกองไฟหรอกหรือ?
หรือว่า เขาจะเป็นพวกเดียวกับกู้ซิงเว๋ยแต่แรกแล้ว…..
หลี่โม่ถูกกู้หยุนหลันตบหน้าไป ก็อึ้งเล็กน้อย เห็นใบหน้าที่อับอายของกู้หยุนหลัน เขาก็โกรธออกมาไม่ได้
กู้ซิงเว๋ยก็หัวเราะเยาะไป พูดว่า “กู้หยุนหลัน สามีของคุณบอกว่าคุณได้สัญญาร่วมมือมาแล้ว เช่นนั้นก็เอาสัญญานั่นออกมาให้ทุกคนดูหน่อยสิ!”
“ใช่ๆ เอาออกมาให้พวกเราดูสิ!”
“เธอมีสัญญาอะไรที่ไหน ผมคิดว่าอวดอ้างเสียมากกว่า บริษัทรุงคางเป็นบริษัทใหญ่ในตลาด จะมาพิจารณาร่วมงานกับยัยขี้อ่อยนี่หรือ?”
“ฮ่าๆ ก็ใช่อยู่ อีกคนก็ไม่เอาไหน อีกคนก็ผู้หญิงล้มละลาย ช่างเหมาะสมกันจริงๆ ”
ในตอนนั้น พวกญาติๆ ตระกูลกู้ก็หัวเราะเยาะเย้ยกันยกใหญ่ ทั้งห้องรับรองมีแต่เสียงเยอะเย้ยประชดประชันกู้หยุนหลันและหลี่โม่
หวังฟางนั่งที่เก้าอี้ประธาน ก็โกรธจนจะระเบิดออกมา
ไอ้หลี่โม่คนนี้ ไม่ว่าที่ไหนก็จะมีมันโผล่มาทำเสียเรื่อง
อยากจะออกมาพูดเอาเสียตอนนี้ ไม่ใช่อยากจะตั้งใจสร้างปัญหาให้ลูกสาวตนเองหรอกนะ!
“หลี่โม่ นายมันไม่เอาไหน ไสหัวออกไป!” หวังฟางโกรธ แล้วชี้ไปตวาดหลี่โม่
เธออยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ !
และในตอนนั้นกู้ซิงเว๋ยเห็นใบหน้าที่กังวลของกู้หยุนหลัน ก็สรุปได้ว่าเธอไม่ได้สัญญานั้นมา ก็เลยตะโกนตรงนั้นว่า “กู้หยุนหลัน ในเมื่อคุณไม่ได้สัญญามา เช่นนั้นก็แสดงผลการพนันที่พนันไว้ครั้งก่อนแล้วสินะ ตอนนี้ คุณก็ลาออก ต่อหน้าทุกคนเสีย”
กู้หยุนหลันก็กดดันจนร้องไห้น้ำตานองออกมา มือกำหมัดแน่น แล้วพูดว่า “ฉัน…….”
“ใช่ๆ ในเมื่อทำหน้าที่ไม่สำเร็จ ก็มอบตำแหน่งให้คนอื่นไป อย่ามานั่งคาตำแหน่งแล้วไม่ทำอะไรเลย”
“ไม่ค่อยชอบขี้หน้าของกู้หยุนหลันอยู่แล้ว สวยแต่รูปจูบไม่หอม ไม่มีความสามารถอะไร รีบๆ ออกไปจากกิจการตระกูลกู้ จะดีที่สุด!”
“ใช่แล้ว แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ริอาจจะมานั่งตำแหน่งรองประธาน น่าขำสิ้นดี!”
พวกคนตระกูลกู้ ตอนนี้ก็หันมาต่อว่ากู้หยุนหลัน
คำต่อว่าแต่ละคำ คำดูถูกแต่ละคำ ทำให้กู้หยุนหลันไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นมา
เธอกลัดกลุ้มในใจ ขอบตาก็แดงก่ำ น้ำตาเม็ดใหญ่ก็ร่วงหล่นลงมา แล้วก็เอามือเช็ดน้ำตาอย่างไม่ยอมย่อท้อ
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็เบื่อ แล้วก็ส่งเสียงไม่พอใจออกมา “หยุนหลัน ในเมื่อเธอไม่ได้สัญญานั้นมา เธอก็ลาออกไปเสียเถอะ”
“แต่คุณปู่คะ!” กู้หยุนหลันรีบร้อน ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทำไมทุกคนจะต้องบีบบังคับเธอด้วย
หรือว่า เป็นเพราะว่าตนเองนั้นเป็นผู้หญิง!
กู้ซิงเว๋ยยิ้มเย็น พวกคนตระกูลกู้ก็จ้องมองอยู่อย่างนิ่งๆ
ในตอนนั้น กู้หยุนหลันรู้สึกว่าตนเองยืนอยู่ในความมืด
รู้สึกไร้ความช่วยเหลือ
กู้หยุนหลันก็ไม่มีทางเลือก เอามือลูบหมัดน้อยๆ นั้น แล้วพูดว่า “ได้ ฉันจะลา………”
ทันใดนั้นเอง
ทางประตูใหญ่ ก็มีเสียงส่งเข้ามาว่า
“ประธานคณะกรรมการของบริษัทรุงคาง คุณหรุงปิน มาถึงแล้ว!”
ห๋า!
ในห้องรับรอง เงียบกริบ!
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็ลุกขึ้นกะทันหัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าประธานคณะกรรมการของบริษัทรุงคางมาที่นี่ทำไม แต่เขาก็รีบจับไม้เท้าเดินขึ้นหน้าไปต้อนรับ
ทุกคนก็หันไปมองตามเสียงประกาศนั้น ก็เห็นทางประตูใหญ่ มีชายวัยกลางคน ใส่สูทรองเท้าหนังเดินเข้ามา ดูมีราศีมาก ด้านหลังก็มีบอดี้การ์ดใส่สูทสีดำ4คนเดินตามหลังมา
เขาก็คือประธานคณะกรรมการของบริษัทรุงคาง ที่ชื่อหรุงปินอย่างนั้นหรือ?
คนมากมายอยากจะพบหน้าเขา แต่ก็ถูกปฏิเสธไป
ไม่คิดว่า ไม่คิดว่าเขาจะมาที่งานเลี้ยงกลางปีของตระกูลกู้ด้วยตัวเองเลย!
พระเจ้าช่วย ตระกูลกู้โชคดีเสียจริงๆ !
ในขณะเดียวกัน หรุงปินก็ได้เดินเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่แล้ว คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็มีใบหน้ายิ้มแย้ม ออกไปต้อนรับด้วยความเคารพ ยื่นมือออกไป แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เอ๊ะ ประธานหรุง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะมาที่นี่ เป็นเกียรติอย่างสูงจริงๆ !”
พวกคนตระกูลกู้ ก็รีบพากันลุกขึ้น ทุกคนก็มีใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความเคารพ
ตรงหน้านั้น ก็คือประธานคณะกรรมการของบริษัทรุงคางเลยเชียวนะ!
กู้ซิงเว๋ยก็ทำท่าเหมือนหมาเลียขาเจ้านาย พุ่งเข้าไป มายืนข้างๆ คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ อยากจะเสนอหน้าไปด้วย
แต่ว่า
ฉากต่อไปนั้น ก็ได้ทำให้คนในเหตุการณ์อึ้งไปตามๆ กัน!
หรุงปินกลับไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ ถึงขนาดไม่จับมือกับเขาเลย เดินผ่านหน้าพวกเขาไปเลย แล้วเดินมายังตรงหน้าของหลี่โม่และกู้หยุนหลัน
ตอนที่เขาเพิ่งเดินเข้าประตูมา ก็ได้มองเห็นหลี่โม่ตรงมุมนั้นแล้ว ผู้หญิงข้างๆ เขา ก็ต้องเป็นคุณฟางแน่!
“คุณฟาง สวัสดีครับ นี่คือหนังสือสัญญาที่บริษัทรุงคางของพวกเราได้ตกลงกับคุณ ผมได้เซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงให้คุณได้เซ็นชื่อลงไป สัญญานี้ก็จะมีผลได้ตลอดเวลา!”
หรุงปินพูดอย่างเคารพอย่างมาก ในขณะเดียวกัน ลูกน้องด้านหลังก็หยิบหนังสือสัญญาออกมา แล้วยื่นออกไป
กู้หยุนหลันก็ตกใจจนอึ้งไป!
ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้น คนในสถานการณ์ทั้งหมด ก็อึ้งไปตามๆ กัน!
นี่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
สัญญาของบริษัทรุงคางอย่างนั้นหรือ?
พอเห็นดังนั้น สีหน้าของกู้ซิงเว๋ยก็นิ่งไป
พวกลูกหลานตระกูลกู้ก็สั่นกันหมด ต่างก็อึ้งกันจนอ้าปากค้าง
“หรุง…..ประธานหรุง คุณ…….”
กู้หยุนหลันก็ไม่เคยเห็นหรุงปิน แล้วสัญญานี่ มันยังไงกันแน่?
ส่วนหรุงปินก็ได้แต่ยิ้มเบาๆ มองไปเห็นกู้หยุนหลันโน้มตัวเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองหลี่โม่ ที่ยืนหน้านิ่งอยู่ แล้วก็กำลังจะพาลูกน้องออกไป
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็ไม่ปล่อยโอกาสนั้นไป รีบวิ่งรุดหน้าเข้าไป พร้อมพูดว่า “ประธานหรุง คุณมาที่นี่เพื่อส่งหนังสือสัญญาโดยเฉพาะเลยหรือ?”
หรุงปินก็เพิ่งจะสังเกตคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ พร้อมพูดยิ้มว่า “ที่แท้ก็คือคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้นี่เอง ถูกต้องแล้วครับ ผมได้พิจารณามาหลายด้านแล้ว คิดว่าทางบริษัทคุณและทางบริษัทรุงคางของเรา มีหลายจุดที่ร่วมมือกันได้ และอีกอย่าง ผมก็ได้ไปสืบมาแล้วว่ากู้หยุนหลัน มีความสามารถจริงๆ ดังนั้น ต้องขอแสดงความยินดีด้วยครับ”
พูดไป หรุงปินก็ยื่นมือออกมา
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็นิ่ง แล้วก็ยื่นมือออกไปจับมือกับหรุงปินอย่างอึ้งๆ
จากนั้น หรุงปินก็ไม่อยู่นาน ก็พาลูกน้องกลับออกไป
ในตอนนี้ บรรยากาศในห้องรับรองถึงได้อบอุ่นขึ้นมาบ้าง ทุกคนต่างก็พากันกลืนน้ำลาย แล้วก็จ้องมองไปยังกู้หยุนหลันที่ยืนถือหนังสือสัญญาอยู่
เธอ ไม่คิดว่าเธอจะทำสำเร็จ!
กู้หยุนหลันก็อึ้ง ในหัวยังสับสนอยู่เลย
จากนั้น เธอก็นึกถึงคำที่หลี่โม่พูดกับตนเองได้ บอกว่าสัญญากับบริษัทรุงคางนั้น จะต้องตกเป็นของตนเอง
หรือว่า จะเป็นเขาจริงๆ?
เธอมองขวางไปยังหลี่โม่ แต่กลับเห็นว่าเขานั้นยืนยิ้มมองมาทางตนเองอยู่อีกมุม
ตัวเองเดาผิดไปอย่างนั้นหรือนี่?
“หยุนหลัน ไหน รีบเอาสัญญามาให้ดูหน่อย” คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ตั้งสติขึ้นมา สีหน้าตื่นเต้น
กู้หยุนหลันก็รีบเอาสัญญายื่นให้กับคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ “คุณปู่คะ นี่ค่ะ”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็รีบหนังสือสัญญานั้นมา แล้วตั้งใจอ่านภายใต้แสงจากหลอดไป ยิ่งอ่าน เขาก็ยิ่งตื่นเต้น ตะโกนพูดว่า “ดีดีดี!”
พวกกู้ซิงเว๋ยและกู้ชิงหลินยืนอยู่หลังของคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ ก็คงจะมองทะลุปรุโปร่งเช่นเดียวกัน
คือสัญญาของบริษัทรุงคางจริงๆ
ทั้งสองมองตากัน แล้วส่ายหัวด้วยความฉงนใจ
หรือว่า ยัยกู้หยุนหลันนี่ จะไปเสียตัวให้กับหรุงฉางเวยแล้ว?
กู้ซิงเว๋ยก็ยังไม่ยอม เขาพูดออกไปว่า “คุณปู่ครับ สัญญานี้จะต้องเป็นของปลอมแน่เลย ทำปลอมขึ้นมา ไม่แน่ว่าไอ้ประธานหรุงอะไรนั่น ก็คงจะเป็นเจ้านายปลอม เพราะถึงอย่างไร พวกเราก็ยังไม่เคยเห็นประธานกรรมการของบริษัทรุงคาง คงจะเป็นเพราะว่าหยุนหลันจะรู้ว่าตนเองคุยไม่ชนะแน่ ก็เลยไปหาคนมาเล่นละครแสดง”
พูดดังนั้น ปากของกู้ซิงเว๋ยก็เปยรอยยิ้มร้ายๆ ออกมา
คำพูดที่กู้หยุนหลันได้ยินนั้น ในตอนนั้นเธอก็ได้ชี้หน้าต่อว่ากู้ซิงเว๋ยไปว่า “กู้ซิงเว๋ย แกอย่ามาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น”
“เหอะๆ ผมจะพูดมาใส่ร้ายอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นก็บอกมาว่า ไอ้หนังสือสัญญานี้ ได้มาอย่างไร เมืองฮ่านมีบริษัทยาตั้งมากมาย บริษัทรุงคางไม่ไปเลือก แต่กลับมาเลือกบริษัทวินเซิงเราทำไมกัน?”
กู้ซิงเว๋ยก็ขยับมายืนด้านหน้าของกู้หยุนหลัน แล้วยิ้มร้ายๆ พร้อมพูดว่า “โอ๋ ใช่แล้ว ผมยังได้ยินคนอื่นเขาพูดว่า เห็นคุณเดินตามคุณชายของบริษัทรุงคางเข้าไปในบ้านเดียวกัน หรือว่า คุณจะไปร่วมหลับนอนกับคุณชายหรุง เพื่อให้ได้สัญญานี้มา”
หลี่โม่ได้ยินดังนั้น ก็หยีตา สายตานิ่งๆ เย็นๆ ก็จ้องไปยังกู้ซิงเว๋ย
“ฉันเปล่านะ!” กู้หยุนหลันตะโกน แล้วพูดกับคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ว่า “คุณปู่คะ หนูไม่ได้ทำอย่างนั้นนะคะ กู้ซิงเว๋ยใส่ร้ายหนู”
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็หน้านิ่งไป ตามองหนังสือสัญญาในมือ แล้วก็มองกู้หยุนหลัน แล้วพูดว่า “เอาเถอะ อย่าทะเลาะกันเลย ในเมื่อหนังสือสัญญาก็ได้มาแล้ว ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของตระกูลกู้”
“คุณปู่ครับ อย่าถูกกู้หยุนหลันหลอกเอานะครับ หนังสือสัญญานี้ไม่แน่ว่าจะเป็นของปลอมเสียด้วยซ้ำ!” กู้ซิงเว๋ยพูดใส่ไฟ
คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ส่ายหัว พูดว่า “หนังสือสัญญานี้ไม่ใช่ของปลอม ด้านในมีตราประทับของบริษัทรุงคาง แล้วก็ยังมีลายเซ็นของประธานหรุง เรื่องแบบนี้ ไม่มีใครกล้าปลอมแปลง”
ในเมื่อคุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็พูดขนาดนี้แล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ ต่างก็พากันหันมามองกู้หยุนหลัน
ตอนนี้พวกเขาเชื่อไปแล้วว่า กู้หยุนหลันได้ไปร่วมหลับนอนกับคุณชายหรุงจริงๆ ถึงได้หนังสือสัญญานั้นมา
กู้ซิงเว๋ยเล่นโยนขี้ให้แบบนี้ นับว่าร้ายกาจมาก
“ไม่คิดเลยว่า กู้หยุนหลันจะเป็นผู้หญิงใฝ่ต่ำเช่นนี้ เพื่อให้ได้สัญญามา ถึงขนาดพลีกายให้ชายอื่น”
“เฮ้อ น่าสงสารหลี่โม่ที่ไม่เอาไหน ลูกสาวตนเองก็ไม่อาจจะนับญาติได้ ที่นี้ยังจะมาถูกเมียสวมขาให้อีก ถ้าผมเป็นเขานะ จะไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายนานแล้ว”
“ช่างน่าอนาถเสียจริง คุณว่ารอให้ลูกสาวเขาจำความได้แล้ว แล้วรู้ว่าแม่ตนเองเป็นผู้หญิงอย่างนั้น เด็กจะคิดอย่างไร?”
สายตาที่พวกญาติๆ ของตระกูลที่มองมายังกู้หยุนหลันมีแต่ความเหยียดหยาม ทำให้กู้หยุนหลันอึดอัดจนน้ำตาไหลออกมาตลอด
หลี่โม่รู้สึกได้ว่ากู้หยุนหลันที่อยู่ด้านข้างนั้นตัวสั่นระริก ในดวงตาก็เผยความเย็นยะเยือกทะลุกระดูกออกมา
ในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถทำให้เธอรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมได้ ไม่มีใครทำให้เธอร้องไห้ได้
หลี่โม่ไปยืนข้างหน้า แล้วคว้าเอากู้หยุนหลันมายืนด้านหลังตนเอง แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “พอได้แล้ว! ผมเชื่อใจกู้หยุนหลัน การทำสัญญาครั้งนี้ ผมเป็น………”